[review]...สิวฮอร์โมน ฉันจะจัดการเธออออ I

สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายๆคนเลยใช่มั้ย?

ช่ายยยยย!!!

วันนี้เมจะมารีวิวสกินแคร์ที่ใช้กำจัดสิวฮอร์โมนกัน

มันแน่นอนอยู่แล้วว่าสิวฮอร์โมน มันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้จริงมั้ย

ต่อให้กินยาคุม ก็แค่ชั่วขณะ แถมมีเอฟเฟคต์ทั้งเบาทั้งหนักกับร่างกาย

.................

อันดับแรกก็มาสำรวจหนังหน้าเหียกๆกันซะก่อน

(ไม่มีรูปปลากรอบนะคะ กล้องพัง + กลัวหลอน

)

1. เป็นคนหน้ามันขั้นเทพไม่รักษา ได้มาจากกรรมพันธุ์ล้วนๆ -*-

2. สิวขึ้นบ่อยมาก บริเวณกรอบหน้า มีทั้งอุดตันและอักเสบ

3. รอยสิวกระจุย! เพราะมือบอน ขึ้นนิดหน่อยก็ชอบแกะ

4. แพ้มลพิษง่ายม๊ากกกกกกกก ออกไปเจอควันเจอฝุ่นบนท้องถนน สิวผุดทันที

..................

สำรวจหนังหน้าเสร็จแล้วก็สำรวจนิสัย ที่ทำให้เป็นปัจจัยการเกิดสิวซะหน่อย

1. นอนดึก พักผ่อนน้อย

2. ดื่มน้ำน้อย ออกกำลังกายน้อย

3. ทานอาหารที่เป็นปัจจัยการเกิดสิว กระหน่ำ!!! (ก็หนูไม่ยอมอ้วนนน ><)

4. กลับจากนอกบ้าน ไม่ยอมล้างหน้าก่อนเป็นอันดับแรก (อี้ย์!!!!!

)

5. มือบอน 5555

ทำไมนิสัยเสียๆมันเยอะกว่า - -""" อืมมมมม.......

....................

เนื่องจากว่าไม่ไหวแล้วกับหนังหน้าตัวเอง สิวเดี๋ยวขึ้นๆ

หน้าฉันไม่ใช่พื้นที่ลุ่มแม่น้ำให้หญ้าขึ้นได้ง่ายๆนะยะ!! จะขยันขึ้นกันไปไหน

และแล้วก็เริ่มค้นคว้าหาสกินแคร์ที่ชาวบ้านเขาว่าดีสารพัด

แต่มีข้อแม้!!

ขอถูกนะค๊า เพราะต้องใช้ไปตลอด สิวฮอร์โมนมันไม่ได้หายง่ายๆอยู่แล้ว

ฉะนั้น ป้าพอลล่า หลบ!!!

แล้วเราจะใช้อะไรล่ะ ???????????????

......

เมเคยใช้เรตินเอมาแล้วช่วงหนึ่ง แต่ตอนนั้นใช้ 0.025 มันเลยไม่มีผลกับหน้าด้านๆของตัวเอง

คราวนี้ เอาวะ!! 0.05 มันไปเลยแล้วกัน

ได้มาแล้ว 1 retin A ไว้ผลักสิวที่อยู่ใต้ผิวหนังให้มันขึ้นมา
........

ไอเทมที่ 2  BHA  หรือ Salicylic acid 

เอาไว้ทำอะไร??

นั่นสิ ลืมไปแล้ว ฮ่าๆ ไม่ช่ายย

มันเอาไว้ละลายสิวอุดตัน ซึ่งความแรงจะน้อยกว่าเรตินเอแน่นอน

เมเอาไว้แต้มกับสิวอุดตันหัวเล็กๆ

...........

ไอเทมที่ 3 น้ำเกลือ klean & kare

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หลายคนต้องมีติดบ้านไว้อย่างแน่นอน

เมเอามาใช้เช็ดหน้า ถ้าหากว่ากลับบ้านมาแล้วขี้เกียจล้างหน้า

(ทั้งๆที่มันไม่ใช่โทนเนอร์เช็ดเครื่องสำอางค์เนี่ยนะ)

ก็ใช่อยู่ค่ะ แต่ไปเรียนเมแค่ทากันแดด กับบีบีบางๆ แค่นั้นเอง

น้ำเกลือแค่นี้ จิ๊บๆ

.................

เมื่อใช้เรตินเอ และ BHA ไปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ

ครีมกันแดด!!

ลืมทีนี่หน้าเป็นกระเป็นฝ้าได้ง่ายมากเลย

เพราะสารทั้งสองอย่างทำให้หน้าบางลงนะคะ

แต่หน้าเมก็ไม่เห็นจะบางลง -*-

รูปจริงไม่มีนี่มันเซ็งจิต

นี่คือไอเทมทั้งหมดที่เราจะใช้ในคราวนี้

ทุกสิ่งอย่างสอยมาจากวัตสันหมดเน่อออ

เรียงตามในรูปจากด้านบนซ้ายลงมานะคะ

1. กันแดดน้ำนม แบรนด์วัตสัน สนนราคา 200 บาทถ้วน

น้ำนมเนื้อเบาบาง ใช้เพียงนิดเดียวก็ทาได้ทั่วหน้า ไม่หมอง ไม่มัน ไม่เหนอะ คอนเฟิร์ม!!!!!

(ตอนนี้วัตสันมีโปร ซื้อ 1 แถม 1 เจ็บใจมากกกกกกกกกกกกกกก

)

2. clarity skin rescue gel

มีส่วนผสมของ Salicylic acid ใช้ละลายสิวอุดตัน ลบรอยดำ รอยแดงให้จางลง (กล่องเขาบอกมางั้นนะ)

สนนราคาปกติ 150 บาทถ้วน
 
แต่เมก็ยังงอยู่ว่าทำไมวัตสันที่ตลาดมีนมันถึง 79 บาทหมด ของ clarity ทุกตัว 79 บาทหมดเลย

ในขณะที่วัตสันสาขาอื่นก็ร้อยอัพทุกตัว

ปลาบปลื้มมาก ถ้าวันจันทร์นี้ยังคง 79 บาทอยู่จะรีบไปสอยตัวอื่นมาใช้อีก ฮ่าๆ

(รู้ราคาแล้วเหยียบไว้นะ เผื่อเขาขึ้นราคา 555555555)

3. น้ำเกลือ klean & kare  45 บาทค่ะ ^^

4. Retin A 0.05% 150 บาท

มาถึงผลการใช้บ้าง

เมใช้พวกนี้มาได้ 5 วันแล้ว โดยเริ่มจากตอนเช้า หลังล้างหน้า ใช้น้ำเกลือเช็ดหน้า 1 รอบ

แล้วเอา clarity ละเลงหน้า ตรงไหนเป็นสิว จัดไป

รอให้แห้ง แล้วทากันแดดตาม

กลับบ้าน ล้างหน้า ใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าตาม

ตกกลางคืนใช้เรตินเอทาบางๆ

 ตื่นเช้ามา ทำเหมือนเดิมทุกประการ

แต่เย็นกลับบ้านมา กรี๊ดแตกกก

สิวเต็มหน้า แบบว่าขึ้นทุกอณูของผิวหน้าจริงๆ

มีครบทุกชนิด อุดตัน สิวเสี้ยน อักเสบ หัวช้าง พาเหรดมากันครบ

หน้างี้อย่างกับถนนลูกรัง -*- รับไม่ได้

 เอาน่ะ เขาบอกใช้เรตินเอ มันผลักสิว ทนๆไป

ทนมาได้สามวัน สังเกตุอีกครั้ง มีความรู้สึกว่าสิวเม็ดใหญ่ๆ เริ่มลดบวม กดแล้วไม่ค่อยเจ็บเหมือนวันแรกที่เริ่มขึ้น

ส่วนสิวอุดตันก็บีบออกได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วแต่ขนาดของสิว

 เมื่อวานเป็นอะไรที่มันมือมากๆ

ได้แกะสิวที่มันทยอยแห้ง แกะรอยแผลที่เป็นสะเก็ดลอกๆออกมา

สนุกสุดๆ

 มาจนถึงเช้านี้

สภาพผิวที่เห็นก็คือ สิวเม็ดใหญ่หายไปหมดแล้ว เหลือแต่สิวเม็ดเล็กๆ เหมือนสิวผดอะไรพวกนี้

แล้วก็สะเก็ดที่ยังแกะไม่ออกอีกนิดหน่อย

สะเก็ดแผลบางส่วนที่นั่งแคะเมื่อคืน แลดูจางลง แต่ก็ไม่ได้มากถึงกับเห็นได้ชัด

หน้าก็ราดยางมะตอยไปหน่อย ตรงไหนสิวหายก็เรียบขึ้น

หน้าขาวขึ้น (แน่นอน ก็ผลัดเซลล์ผิวไปซะขนาดนั้น)

ประกอบกับตอนนี้ ประจำเดือนใกล้จะหมด ไม่รู้ว่ามันมีผลกับสิวพวกนี้หรือเปล่า

สรุปได้ว่า การจัดการสิวครั้งนี้ ดำเนินไปได้ด้วยดี

แต่!!! อย่าลืมว่าเมเป็นสิวฮอร์โมน

เพราะฉะนั้นโอกาสที่มันจะกลับมาอีกมีแน่นอน 

การรีวิวครั้งนี้ อาจจะไม่ได้ผล 100% และอาจไม่ได้ผลสำหรับทุกคนที่เป็นสิวฮอร์โมน 

ก่อนที่จะซื้อตาม ใช้วิจารณญาณด้วยนะค๊า ^^ 

ตอนนี้เมก็จะใช้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ

จนกว่าสิวเม็ดเล็กๆมันจะหายไปหมด

แต่ที่ตั้งหน้าตั้งตารอผลเอามากๆก็คือเจ้าตัว clarity ที่เขาบอกว่าลดรอยดำแดงจากสิวได้

ก็จะรอดู ว่าจะทำได้หรือเปล่า 555

ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันใหม่ในรอบเดือนครั้งหน้า ( - -"")

ก็แหมม สิวฮอร์โมน มันก็ต้องรอตอนนั้นแหละเนอะ ฮ่าๆๆ

PART แรกของการจัดการสิวฮอร์โมนก็มีเพียงเท่านี้จ้า

 มันยาวมากเลยนะเนี่ย 55

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆท่านนะคะ

 ปล. เมไม่อยากทานยาคุมเพราะกลัวทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนไป กลัวมากๆ

เพราะเคยเป็นประจำเดือนตลอดทุกวัน เป็นเวลา 6 เดือนติดกันเต็มๆ

มาเยอะมากด้วย เปลี่ยนผ้าอนามัย 2 ชั่วโมงผืนนึง แบบกลางคืนอีกต่างหาก

เลยไม่อยากใช้ยากินกระตุ้นฮอร์โมนอะไรทั้งนั้นน่ะค่ะ

ตอนนี้ประจำเดือนมาเป็นปกติแล้ว ^^ สบายใจ~