มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช

1 7
:+:+:พอดีไปอ่านเจอมาน่าสนใจดีค่ะ ส่วนตัวเราไม่ทานเนื้อวัว แต่ก็ไม่ได้เป็นคนทานมังสวิรัติ

เพื่อน ๆ ลองอ่านดู แล้วแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ:+:+:

                        ดร.อาจอง:  "มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช"

ดร.อาจอง - นักวิทยาศาสตร์ผู้เชื่อว่ามังสวิรัติเป็นหนทางสู่สันติสุข

เมื่อเราลองนำผลการศึกษาสัตว์ที่กินพืชมาเปรียบกับสัตว์กินเนื้อ เราจะพบว่าโครงสร้างทางกายภาพของสัตว์กินเนื้อเช่น สุนัข แมว เสือ ฯลฯ เหล่านี้จะมีกรงเล็บที่แหลมคม ลักษณะของฟันก็แหลมคม เขี้ยวยาว และมีกรามบดเคี้ยวที่แข็งแกร่ง ลักษณะทางกายภาพเช่นนี้เหมาะสำหรับการล่า และฉีกเหยื่อของพวกมันกินแบบสด ๆ สัตว์กินเนื้อไม่จำเป็นต้องมีการย่อยก่อนที่อาหารจะตกถึงท้อง การย่อยของพวกมันจะอยู่ที่กระเพาะอาหารและลำไส้เป็นหลัก ลองสังเกตเวลาที่สุนัขกินอาหาร เราจะพบว่ามันไม่เคี้ยว แต่จะกลืนทันที ในทางตรงกันข้าม สัตว์ที่กินพืชจะไม่มีกรงเล็บที่แหลมคม ฟันสั้นทื่อซึ่งเหมาะสำหรับการเคี้ยวใบพืช เมล็ดผัก และผลไม้ สัตว์กินพืชจะมีเอนไซม์ไทอะลินในน้ำลายที่ช่วยย่อยอาหารตั้งแต่อยู่ในปากโดยการเคี้ยวอย่างช้า ๆ ด้วยฟันทั้งสองข้าง ในขณะที่สัตว์กินเนื้อจะใช้ฟันเคี้ยวอาหารแบบขึ้นและลง


ทีนี้เมื่อกลับมาพิจารณาลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ เราจะเห็นได้ชัดทีเดียวว่า มนุษย์นั้นไม่เหมือนกับสัตว์กินเนื้อ ฟันของมนุษย์สั้นทื่อเหมือนสัตว์กินพืช และสามารถผลิตเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายได้ นอกจากนั้นสัตว์กินเนื้อยังมีระบบการย่อยอาหารที่สั้น คือมีลำไส้เพียง 3 เท่าของความยาวร่างกาย นั่นเป็นผลดีสำหรับพวกมันเพราะจะทำให้เนื้อสดที่กินเข้าไปย่อยสลายได้เร็วและขับถ่ายออกมาก่อนที่มันจะบูดเน่าอยู่ในท้อง ในขณะที่สัตว์กินพืชมีความยาวของลำไส้ประมาณ 12 เท่าของร่างกาย ทำให้อาหารที่กินเข้าไปมีเวลาอยู่ในท้องได้นาน แต่เมื่อมันกินแต่พืชผักก็ไม่เป็นปัญหา เพราะอาหารเหล่านั้นย่อยและขับออกมาจากร่างกายได้ง่าย เช่นเดียวกัน มนุษย์เองก็มีลำไส้ที่ยาวมาก การที่เรากินเนื้อสัตว์ซึ่งย่อยยากเข้าไปจะทำให้เนื้อเหล่านั้นเน่าเสียอยู่ในท้องเป็นเวลานาน กว่าที่จะถูกขับออกมาได้หมด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมาได้ในภายหลัง

การเปลี่ยนจากสัตว์กินพืชไปเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่กองกิเลสครั้งใหญ่ของมนุษย์ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลยสำหรับวิถีของมนุษย์ ดังนั้นมนุษย์เราจึงต้องระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เราควรจะรับประทานแต่สิ่งที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับเราจริง ๆ เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามิน มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้เราแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายทั้วปวง ซึ่งพืชผักผลไม้ก็คืออาหารที่เหมาะที่สุดแล้วสำหรับมนุษย์


* บทความนี้คัดลอกจากหนังสือ “เปิดความคิด ชีวิตอัจฉริยะ” โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เรียบเรียงโดย ร่มไม้ 

และอีกความคิดเห็นจากคุณ nana_ja https://guru.google.co.th/guru/thread?tid=2fae0f8604bfa4be

อาหารเนื้อสัตว์ ไม่เหมาะแก่มนุษย์
ลำไส้ของสัตว์กินเนื้อจะสั้น ตรงและเรียบลื่น ยาวเป็น 3 เท่าของช่วงตัว อีกทั้งมีกรดเกลือสำหรับย่อยเนื้อสัตว์มากกว่าสัตว์กินพืช 10 เท่า และเข้มข้นมากกว่า 20 เท่า เมื่อมันกินเนื้อซึ่งมีเส้นใยน้อยและมีโปรตีนมาก ลำไส้จึงไม่ต้องใช้เวลานานในการดูดซึมอาหาร มันกินเนื้อเข้าไปไม่กี่ชั่วโมงก็ขับออก แต่ลำไส้มนุษย์เหมือนสัตว์กินพืชทั่วๆไป คือมีลำไส้ยาวเป็น 12 เท่าของช่วงตัว ทั้งลำไส้เล็ก (ยาวประมาณ 23 ฟุต) และลำไส้ใหญ่ (ยาวประมาณ 4-5 ฟุต) รวมความยาวอีกยี่สิบแปดฟุต (8 เมตรครึ่ง) ลำไส้เล็กขดพับไปมาและผนังเป็นรอยยับย่นไม่เรียบ อีกทั้ง มีกรดเกลือนิดเดียว เหมาะสำหรับย่อยพืชพันธุ์ธัญญหารเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเรากินเนื้อเข้าไป จึงตกค้างอยู่ในลำไส้เป็นระยะเวลานาน ยิ่งถ้ากินเนื้อสัตว์จริงๆไม่กินพืชอะไรเลย กว่าจะขับถ่ายออกมาได้อาจใช้เวลา 5-10 วัน ทำให้เกิดการบูดเน่า เหม็นและสร้างสารพิษออกมา ยิ่งมีอาการท้องผูก อาหารเนื้อเก่าก็ขับออกไม่หมด เติมอาหารเนื้อใหม่เข้าไป ยิ่งหมักบูดเน่าทับถม จะเกิดการดูดซึมสารพิษหมุนเวียนกลับเข้าไปในร่างกายอีก ร่างกายจึงอ่อนแอเสื่อมทรุดเพราะพิษสะสม


 

 




rainy+_+

rainy+_+

ชอบการแต่งหน้า ทำผม มากๆค่ะ รู้สึกว่าการที่เราได้แต่งเติมความสวยงามให้กับตัวเองแล้ว มันช่วยให้เรารู้สึกมีพลัง สดชื่น ร่าเริงขึ้นได้ทันทีเลยค่ะ

FULL PROFILE