เตือนภัย คนที่เจ็บป่วย ระวัง คุณกลายเป็น case study ให้หมอ
voodoo-aor 0 21
สาเหตุก็มาจาก
พ่อของเรา ได้เคยเข้ารับการรักษาโรคหนึ่ง เมื่อ" 9 ปี " ที่แล้วที่ โรงพยาบาล "สวนดอก" เชียงใหม่
หลังจากเข้ารับการรักษาครั้งนั้น พ่อเราก็ต้องมาหาหมอที่ โรงพยาบาลสวนดอก ทุกเดือน ตามนัด
แล้วทุกเดือนที่มาหาหมอก็เพียงแค่ ให้หมอดูความคืบหน้าว่า อาการเป็นอย่างไร
และอีกเหตุผลคือ ต้องมารับยา ทุกเดือน สำหรับค่าใช้จ่ายค่ายานั้น ราวๆๆ "หลัก พัน ยัน หลัก หมื่น" ทุกเดือน
เพราะยาของพ่อเราค่อนข้างราคาแพง
แต่เนื่องจากพ่อเราเป็นข้าราชการ จึงไม่เคยต้องจ่ายเอง ก็ดีไป
ก็เสียเพียงแค่ค่าเติมน้ำมันบ้าง อะไรบ้าง แต่จากพะเยามาเชียงใหม่ค่าน้ำมันก็ หลักพัน นะ!!!
เข้าเรื่อง.....เนื่องจากวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้เอง
พ่อก็มาพบหมอตามนัด พ่อต้องตื่นแต่เช้าตรู่ ประมาณ ตี 5- 6 โมง เพื่อต้องรีบรับคิวจากที่โรงพยาบาล
รอหมอ รอตรวจ ก็มักจะเสร็จ ประมาณ เกือบเที่ยง
ครั้งนี้เป็นครั้งทีแปลกจากครั้งอื่นๆ ก็ตรงที่ว่า หมอบอกพ่อว่า
"ยาเนี่ย(ยาที่ให้พ่อมาตลอด 9 ปี) กินทำไม มันไม่ได้ชช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก หมอจะให้ลองฉีดยา เปลี่ยนยาใหม่ แล้วก็ถ้าไม่ได้ผลก็ผ่าตัด"
OMG!!!!! แล้วตลอด 9 ปีที่ผ่านมานี่เพื่ออะไร
หมอเพียงแค่ใช้คนไข้(พ่อเรา) เป็น case study ทดลองยา หรือว่าอะไร
แล้วตอนนั้นที่พ่อเรา รักษารอบแรก ถ้ามันไม่ได้ผล ทำไม ไม่ผ่าตอนนั้น
ตอนนี้พ่อเรา แก่แล้ว จะให้ผ่าตัดก็เสี่ยง
แล้วหมอจะรับผิดชอบอะไรรึเปล่า ถ้าพ่อเรากินยาๆๆๆแล้วพ่อเราเป็นอะไรขึ้นมา
แล้วหมอมาบอก อะไรตอนนี้ ตอนที่ผ่านไปแล้ว 9 ปี
แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดหละ ถ้าเกิดพ่อเราไม่เป็นข้าราชการ????
เสียค่ายา ทีละ หลัก พัน ยัน หมื่น สองหมื่น เป็นชาวบ้านก็คงต้องขายนา ขายบ้าน กันเลยทีเดียว
เมืองไทย ผู้เสียหาย หรือ ผู้บริโภค มักจะเสียหายจากสิ่งเหล่านี้ แล้วก็ไม่สามารถฟ้องได้
เพราะ ไม่มี เส้น !!สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป.....
แต่ที่แน่ๆๆ หลักๆๆ อยากจะ ถามว่า "หมอ สะกดคำว่า จรรยาบรรณเป็นไหม"
เราได้คำตอบแล้วว่า " การศึกษา ไม่สามารถทำให้ คนสูงได้"
ไว้อาลัยให้ วงการแพทย์ไทย
