เล่าสู่กันฟัง เครมคืนเครื่องสำอางค์

เรื่องมีอยู่ว่าไปซื้อ Lotion กับ Toner มายี่ห้อหนึ่งมาใช้ซึ่งเป็นยี่ห้อหนึ่งที่ตัวเองก็ใช้มาตลอด

แต่ส่วนมากจะใช้พวกเครื่องสำอางค์ไม่เคยใช้ Skin Care แต่เนื่องจากใช้ยี่ห้อนี้มานาน และเป็นสมาชิกมานานพอสมควร

จึงไว้ใจว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องแพ้แน่ เลยได้ซื้อมาใช้

แต่ผลปรากฎว่าใช้ไป 1 อาทิตย์ มีอาการแพ้ สิวอักเสบ สิบหัวหนอง สิวผด เต็มหน้าเลย เลยลองไปปรึกษาหมอดู หมอก็ว่าน่าจะแพ้ แต่เราก็บอกว่าหมดไม่เคยแพ้ยี่ห้อนี้เลยนะ หมอเลยให้ลองใช้ไปอีกอาทิตย์ เพื่อผิวยังอยู่ในช่วงปรับสภาพ

เราลองไปใช้ไปได้ 3 วันเริ่มรับไม่ได้ คิดว่าแพ้แน่นอน แต่ด้วยความเสียได้เงิน พันกว่าๆที่เสียไป ใช้สินค้าไปนิดเดียวแล้วเราก็ทราบว่าของที่คืนเค้าก็ไม่ได้เอาไปทิ้งแต่เอากลับมาเป้น Tester หน้าร้านได้

แล้วตัวเองเคยมีประสบการณ์กับแบรนด์อื่นที่ว่าถ้าแพ้ก็สามารถคืนสินค้าได้ หรือเปลี่ยนเป็นสินค้าตัวอื่น ซึ่งเราก็ไม่เคยมีปัญหา เราเลยลองโทรไปที่ Call center ดูว่าสามารถทำได้มัย ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อโทรไปเค้าก็ถามวว่าอาการเป็นยังไง เปลี่ยนครีมตัวอื่นด้วยรึเปล่า เราก็ไม่ได้เปลี่ยนครีมเลย มีแค่ Lotion กับ Toner ที่พึ่งซื้อมาเท่านั้นที่เปลี่ยน เค้าก็รับเรื่องไว้

วันต่อมา มีพนังงานโทรมาหาเรา ก็ถามเรื่องอาการ เป็นอะไร ยังไง ใช้มานานมัยถึงเห็นอาการ เราก็เล่าไปว่าอากาเราเป็นยังไง แล้วเราก็บอกอีกด้วยว่าเราไม่เคบแพ้ของยี่ห้อนี้ แต่ครั้งเราแพ้ แล้วเราก็บอกว่าลองไปปรึกษาหมอหมอก็ว่าน่าจะแพ้ พนักงานก็บอกว่า สามารถเอาขอไปแลกเป็นตัวอื่นมาได้

เราก็ไปแลกของมาตามจำนวนเงินของ Lotioและ Toner ที่นำไปแลกคือ ซึ่งคราวนี้เราก็แลกเป็นเครื่องสำอางค์ที่เราใช้ได้มาแทน 3 ชิ้น เรายังคิดเลยว่าไม่ผิดหวังที่เลือกใช้ยี่ห้อนี้

แต่ 2 - 3 วันต่อมาพนักกงานโทรมาขอใบรับรองแพทย์ภายในอาทิตย์ที่คุยกันนี้ เราก็ว่าเราอยู่ต่างจังหวัดแต่จะพยายามเอาไปห้ได้ทัน แต่เราก็บอกแล้วว่าจะไม่ใช่หมอที่เคยตรวจนะ เพราะว่าถ้าจะรีบเอาคงต้องเป็นหมอคนอื่น พนักงานก็บอกว่าไม่เป็นไร

เราก็รีบไปหาหมอ หมอคนแรกไม่เขียนให้เพราะเป็นจรรยาบันแพทย์ที่จะไม่เซ็นต์ให้เพราะว่าไม่ใช่เจ้าของไข้

เราก็โทรพนักกงานว่าคงเอาไปให้ไม่ทันแน่ๆ เพราะว่า อีกไม่กี่วันเราต้องไปต่างจังหวัดต่ออีก คราวนี้ไปครึ่งเดือน

พนักงานก็บ่นว่า แล้วถามว่าได้แกะของที่แลกไปรึยัง เราก็บอกว่าแกะไปอย่างเดียว อีก 2 ชิ้นยังไม่ได้แกะเลย

พนักงานก็ว่าถ้าเราไม่เอาใบรับรองแพทย์มาให้พนักงานต้องจ่ายเงินเอง เราก็งง ก็ทำเรื่องเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก แต่ก็เห็นใจพนักงาน เลยเสนอว่าถ้าเราเองของไปแลกคืน คือ เรากลับไปเอา Ltion และ toner ที่แพ้กลับมาแล้วเอาของที่แลกคืนไป แต่ชิ้นที่แกะแล้วเราจะย่อมจ่ายเพิ่มเอง ซึ่งเท่ากับเราไม่ได้อะไรแถมเสียเงินเพิ่ม แต่ก็เพื่อตัดรำคาญ

พนักงานก็ว่าไม่ได้ เพราะว่าคีย์ข้อมูลของสินค้าที่แลกลงระบบไปแล้ว เราก็งงอีก ว่า อ้าว คีย์ข้อมูลลงระบบไปแล้ว ระบบเรียบร้อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว แล้วจะมาทวงเราทำไมอีก น่าจะจบเรื่องไปแล้ว แต่พนักงานก็ยังยืนยันว่าต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เรา เลยไปหาหมออีคนนึง

ซึ่งหมอก็ยอมเขียนให้แต่เล่าให้ฟังว่าให้ระวัง ทำอย่างนี้ไม่คุ้มหรอก ระวังโดนฟ้องกลับ เราก็งง ว่าฟ้องกลับเรื่องอะไร

หมอเล่าว่า พวกเครื่องสำอางค์จะมีแพทย์ประจำค่อยดูแลเรื่องลูกค้าที่ส่งของคืน แล้วขอใบรับรองแพทย์ไว้ เพื่อให้แพทย์ประจำนี้ไปเช็คประหวัดคนไข้ได้ แล้วก็ดูว่าประวัติคนไขเป็นยังไง

เพื่อนของหมอที่เล่านี้ก็เป็นแพทย์ประจำครีมแบรนด์ดังมากอยู่ ซึ่งเค้าเล่ามา เมื่อดูประวัติลูกค้าแล้วเห็นว่า ลูกค้าคนนีเป็นผิวแพ้ง่าย เคยมีประวัติปัญหาเรื่องผิวมาก่อน เค้าจะเอาประวัติตรงนี้ฟ้องลูกค้ากลับ แบบว่าจับผิดลูกค้าอะ แล้วฟ้องเรยกค่าเสียหายเป็น แสน บาท  ทั้งที่ของที่เราซื้ออาจจะเป็นหลัก พันบาท เท่านั้น

เราฟังก็กลัวๆ แบบว่า โห มีอย่างนี้ด้วย เราก็หลงผิดนึกว่า บริการดี ใส่ใจปัญหาลูกค้า ที่ไหนได้ หาเรื่องฟ้องกลับเรียกเงินเป็นแสน

ที่จริงเราบริสุทธิ์ใจนะ เพราะว่าแพ้จริง แต่ฟังแล้วก็กลัวอยู่ดี เลยหลังจากได้ใบรับรองมาแล้ว เลยชั่งใจว่าจะเอาไงดี

ลองโทรไปเจรจาแล้วพูดไปตรงๆว่า จะเอาไปรับรองไปทำอะไร ใช่แค่คืนของเข้าสต็อกรึเปล่า แล้วเราก็เล่าเรื่องที่หมอบอกเรื่องฟ้องกลับลูกค้าไปด้วย

ทางพนักงานก็ยืนยันว่าแค่คืนสินค้ากลับเท่านั้น ไม่ได้ใช่ฟ้องกลับแน่นอน

เรากำลังจะเอาใบรับรองไปให้พนักกงานในวันพรุ้งนี้


แต่ก็อยากมาเล่าให้สาวๆระวัง อย่ามานึกเสียดาย และไว้ใจบริการเรื่องสินค้ามากๆเหมือนเรา ยังไงยอมตัดใจทิ้งไปดีกว่าถ้าแพ้

ถึงแม้เค้าจะบอกว่าคืนได้ แต่ก็ดูดีดีนะ