❤ แท๊กซี่ดีๆยังมีอยู่ค่ะ

ปกติสาวคงจะเคยได้ยินเรื่องราวไม่ดีเกี่ยวกับแท๊กซี่
วันนี้เรามีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังค่ะ

เมื่อวานคุณแฟนเพิ่งกลับจากจีน ลงเครื่องเเล้ว (ประมาณทุ่มกว่า)
ก้อมาเรียกแท๊กซี่ (นอกจุดเรียกรถของทางสนามบิน )เพื่อกลับบ้านน้อง เอารถจอดไว้ที่บ้านน้อง ตัวเองพักที่คอนโด
เรียกแท๊กซี่ได้เเล้ว ก้อเอาสัมภาระไว้บนรถ เอาเป้ตัวเองไว้ที่เบาะหลัง
ส่วนตัวเองไปนั่งเบาะหน้า....

พอถึงบ้านน้อง ด้วยความเหนื่อยๆมึนๆ ก้อขนสัมภาระตัวเองลงมาไม่หมด
ทิ้งกระเป๋าเป้ใบนั้นไว้ที่ท้ายรถเฉย
พอนึกขึ้นได้ก้อรีบโทรเเจ้งข้อมูลกับรายการ จส.100 กับ สวพ.fm 91

คุณแฟนจำรายละเอียดรถคันนั้นไม่ได้เลย
ทั้งทะเบียน ชื่อคนขับ หรือแม้กระทั่งสีรถ

ในเป้ใบนั้นมีกล้องตัวใหญ่ ที่มีรูปถ่ายทริปนี้มากมาย
เงินดอลลาร์ จำนวนหนึ่ง
เงินหยวนอีก
เเละยังเงินไทย
ไหนจะซีดีงานอีก รวมๆเเล้วประมาณห้าหมื่น

แจ้งไปทารายการเสร็จ คุณแฟนก้อจ๋อยๆไป
ตัวเค้าเองคิดว่าไม่ได้คืนแน่ๆ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรทัั้งนั้น

ระหว่างนั้นเราก้อคุยโทรศัพท์กับเค้าไปเรื่อยๆ
ก้อยังไม่มีใครโทรเเจ้งอะไรเข้ามาเลย
ดึกจนกระทั่งเราวางสายไปเพื่อจะนอนเเล้ว

อีกสักพักคุณแฟนก้อโทรเข้ามาหาเรา
เพื่อบอกข่าวดี...
น้องเค้าโทรมาบอกว่า พี่เเท๊กซี่เอาของทั้งหมดมาคืนที่บ้านเเล้ว
คุณแฟนเลยบอกให้น้องให้เงินค่าตอบเเทนเค้าไป สองพันบาท
พี่แท๊กซี่บอกว่า เค้าส่งคุณแฟนเสร็จเเล้วก้อจะไปกินเหล้ากับเพื่อน(มั้ง)
บังเอิญว่าเห็นกระเป๋าคุณแฟนซะก่อน เลยเปิดดู ของข้างใน
เค้าเจอกล้องถ่ายรูป ก้อเลยเปิดดูรูปข้างใน บังเอิญในนั้นมีรูปคุณแฟนอยู่
เค้าเลยจำได้ว่าเป็นผู้โดยสารคนไหน

คุณแฟนเล่าว่า หลังจากวางสายไป เค้าได้อธิษฐานว่า
"ถ้าหากได้ของคืนมา เงินไทยกับเงินหยวนที่อยู่ในนั้น จะทำบุญทั้งหมด"
อีกไม่เกินห้านาที น้องคุณแฟนก้อโทรเข้ามาบอกว่าพี่เเท๊กซี่เอาของมาคืนเเล้ว









ต้องขอบคุณพี่เเท๊กซี่คนดีของสังคมด้วยนะคะ
ที่เอาของมาส่งคืนทั้งหมดเลย  ^^
คนดีๆยังมีอยู่ในสังคมค่ะ

อยากเตือนสาวๆด้วยค่ะ
เวลาที่ขึ้นแท๊กซี่ ระหว่างทางก้อนั่งจำทะเบียนรถ สีรถ และข้อมูลคนขับไปด้วยนะคะ
หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจะได้ง่ายต่อการติดตามค่ะ