คู่รักคนดังที่หวานกันแบบตะโกน

36 15
บรรยากาศแห่งเทศกาลความรักที่คุณอาจจะจะได้กลิ่นความรักตลบอบอวลไปทุกหนทุกแห่ง  แล้ววงการ  Hollywood ล่ะ?   คู่ไหนที่หวานกันแบบตะโกน!  ถึงขนาดผู้คนยกให้เป็น relationship goal   ลองมาเกาะติดกับเราสิคะ


Travis Barker Kourtney Kardashian: รักมากจนสามารถเอาชนะความกลัวได้

ความคลั่งรักของคู่นี้ถึงกับทำให้สมาชิกครอบครัว Kardashian (ที่ขึ้นชื่อเรื่องการโชว์ความรักออกสื่อ) ถึงกับกลอกตาบ่นอุบว่า รักกันได้เรี่ยราดราวกับคู่รักวัยทีน พวกเค้าสามารถโชว์จูบแลกลิ้นทั้งบน social media บนพรมแดง รวมถึงตอนที่รอบล้อมไปด้วยสมาชิกครอบครัว ถึงขนาดที่เด็กๆขอร้องว่า ช่วยหยุดให้พวกเค้า french kiss ต่อหน้าต่อตา  ในขณะที่การแสดงความรักที่เร่าร้อนได้ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ทว่า พวกเค้ากำลังเรียกร้องความสนใจ  แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้หลายคนหันมามองพวกเค้าใหม่

Travis ที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตผู้โดยสารไป 4 ศพกลายมาเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ ใครๆอาจจะมองว่าเขาโชคดีราวกับมีปาฏิหารย์ แต่ภาพความทรงจำหลังจากที่รอดจากแรงกระแทกแล้วต้องต้องกระเสือกกระสนจากเปลวไฟท่วมตัวออกมาจากเครื่องบินที่กำลังระเบิดได้หวุดหวิดได้กลายเป็นความเจ็บปวดตราตรึงฝังลึกในจิตใจจนเขาไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ทั้งหวาดกลัวและรู้สึกผิดที่รอดชีวิตมาได้ ในขณะที่คนอื่นต้องจบชีวิตอย่างสยดสยอง

"ผมมีช่วงที่ออกไปเดินตามถนนหนทางไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าผมมองเห็นเครื่องบินอยู่บนฟ้า ผมจะเกิดความคิดชัดเจนว่ามันจะหล่นมาโหม่งโลก ผมไม่อยากเห็นมันเลย"

เขายังคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ก่อนที่เวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถโดยสารเครื่องบินได้อยู่ดี จนกระทั่งที่เขาได้เริ่มต้นความรักกับ  Kourtney    เขาก็ตระหนักว่า จะต้องก้าวข้าม   trauma นี้ไปให้ได้  เพราะพวกเค้าปรารถนาจะสร้างความทรงจำดีงามร่วมกันในสถานที่งดงามต่างๆทั่วโลก

"เพียงแค่มีเธอ ทุกอย่างก็เป็นไปได้" Travis ได้บรรยายภาพการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี Kourtney ได้ให้กำลังใจให้เขาเอาชนะความหวาดกลัวด้วยอย่างนิ่มนวล และทำให้เขามั่นใจว่า เขาจะมีที่พึ่งพิงที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยเสมอ จากทริปสั้นๆไปยัง Mexico ก็ข้ามไปแถบยุโรป ในหนึ่งเดือนก็บินไปแล้วถึงห้าครั้ง และควงคู่เข้าพิธีวิวาห์แสนหวานใน Italy ได้สำเร็จ

พลังรักช่างมีอานุภาพจริงๆ!
​​​​
Blake Lively  Ryan Reynolds: ยิ่งรักกันก็ยิ่ง troll กัน

อารมณ์ขัน คุณสมบัติที่คู่แต่งงานยอมรับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่รักษาชีวิตคู่ให้ยืนยาว ไม่ว่าจะผ่านปัญหาความรักที่เริ่มจืดจาง ความซ้ำซากจำเจ หรือการใช้อารมณ์กระทบกระทั่งกัน หากพวกเค้าสามารถดึงอารมณ์ขันมาสร้างบรรยากาศที่ชื่นมื่น ย่อมช่วยลดความกดดันลงไปได้ ถึงจะไม่ได้มีภาพลักษณ์แบบคนคลั่งรักที่หวานใส่กันทุกลมหายใจ แต่การเลือกหยอกเย้าน่ารักน่าหยิกนั้นก็น่าจะสร้างความสดใสซาบซ่านไม่แพ้ romance แบบอื่น

คู่รักสายฮาที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจนกลายเป็น  viral หลายครั้งหนีไม่พ้น  Blake&Ryan นั่นเอง

พวกเค้าไม่ได้แอบขำใส่กันอยู่เบื้องหลัง แต่ใช้ social media  เป็นเครื่องมือสร้างรอยยิ้ม   และยอมรับว่า อารมณ์ขันมีบทบาทสำคัญต่อความสัมพันธ์ยาวนานเกินสิบปี  ในขณะที่ผู้คนมองว่า   Ryan ขึ้นชื่อลือชาเรื่องนิสัยช่างจิกกัดแบบขำๆไม่ต่างจากตัวตนของ Deadpool ในหนัง   ในขณะที่  Blake ดูสุขุมกว่า   แต่ที่จริงแล้ว ทั้งคู่ต่างยิงมุกเจ็บแสบแบบไม่ยอมแพ้กันมาตลอดระยะเวลาหลายปี  ยกตัวอย่างเบาๆ    Blake เคย  post  ภาพของ Ryan ในอีเวนท์มอบรางวัลเชิดชูคนดังทรงอิทธิพลของนิตยสาร Time  เธอแสดงความยินดีและยกย่องบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเธอและเป็นชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เธอได้รู้จักมาควรค่าที่ได้รับเกียรติที่ได้อยู่ใน  Time 100   แต่นี่ไม่ใช่  post อวยสามีแต่อย่างใด เพราะเธอได้ขออภัยแทนสามีของเธอที่ดันไปยืนบังชายผู้แสนดีคนนั้น นั่นคือ John Legend !

Ryan อาจจะ troll ทั้งตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูงจนมันเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว แต่เมื่อภรรยาของเขาที่คนภายนอกชื่นชมว่าเป็นนางเอกที่แสน glamorous ราวกับนางพญาสวนกลับด้วยมุกเจ็บๆไม่แพ้กันก็ยิ่งทำให้ชาวเน็ทชื่นชมว่าพวกเค้าคือคู่สร้างคู่สม ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์ทรงเสน่ห์ แต่ลีลาความตลกยังเข้ากันได้เป๊ะ ซึ่งตัว Blake ได้เล่าเคล็ดลับชีวิตแต่งงานแสนสุขว่า เธอมอง Ryan เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่เธอจะรักเขา แต่เธอยังชื่นชอบตัวตนของเขา ความสุขสนุกสนานที่เธอหาได้จากเพื่อนซี้ เธอก็ทำร่วมกับสามีได้ ส่วนคำตอบของ Ryan ก็ไม่แตกต่างกัน เขาเล่าว่า ตอนที่ยัง friend zone กันอยู่ก็ชอบตัวตนกันและกันมากอยู่แล้ว พอขยับขั้นมาเป็น romance ก็ยิ่งชอบกันมากขึ้น

ของบอกว่าอิจฉาแรงๆ  เพราะสิ่งนี้คือ key สำคัญของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน  ดั่งที่เราได้เห็นมานักต่อนักว่า  คู่ที่เคยรักกันทุกลมหายใจเข้าออกก็ยังจบกันแบบเจ็บๆได้  แต่คำว่ารักเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการก้าวต่อไปข้างหน้าร่วมกัน หากไม่สามารถปรับตัว หรือยอมรับตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่   ในที่สุดกลับต้องเลือกเดินคนละทาง

trolling ล่าสุดในที่ให้ชาวเน็ทอมยิ้มคือ เรื่องเล่าจากคุณภรรยาคนสวยว่า เธอซื้อ package ของ ESPN เพื่อจะได้ชมสามีเชียร์ทีม Wrexham (คลับฟุตบอลเล็กๆจากWalesที่เขาลงขันกับเพื่อนซื้อเป็นเจ้าของ) เมื่อได้เห็นอาการกระสับกระส่ายจากความกังวลต่อผลการแข่งขันของเขานั้นทำให้เธอรู้สึกสาแก่ใจจนยืนยันได้ว่า ช่างคุ้มค่าเงินที่ซื้อ ESPN มาชมซะจริงๆ


เห็นหยอกเย้ากันตลอดแบบนี้  เผลออีกทีก็ลูกสี่คนแล้วนะจ๊ะ   Blake เพิ่งจะคลอดเบบี๋ตัวน้อยไปไม่นานนี้เอง  


Hugh Jackman Deborra-Lee Furness: รักกันยาวๆ ไม่แคร์เสียงนกเสียงกา

ความรักที่มีช่องว่างแห่งวัยมักถูกประเมินด้วยทัศนคติด้านลบ โดยเฉพาะเมื่อผู้หญิงเป็นฝ่ายที่อายุมากกว่าหลายปี ก็แทบหลีกเลี่ยงคำครหาไม่ได้ หากเป็นคำพูดแบบโบราณก็อาจจะถูกเปรียบเป็นไก่แก่แม่ปลาช่อน หรือโจมตีเรื่องรูปลักษณ์ว่าดูสูงวัยคล้ายกับแม่ฝ่ายชายที่ยังหนุ่มแน่น และไม่เชื่อถือว่า จะมีผู้ชายคนใดจะมอบความรักที่จริงใจกับผู้หญิงอายุมากกว่า เพราะปักใจว่า ไม่ว่าใครก็ต้องหลงไหลเนื้อหนังมังสาที่สดใหม่ ดูตัวอย่างคนดัง Hollywood มากมาย รายไหนรายนั้น หลังจากแยกทางหย่าร้างกับภรรยาวัยใกล้เคียงกัน ไม่นานต่อมาก็จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ร้อนแรงกับหญิงสาววัยรุ่นราวคราวลูก


แต่การเหมารวมเช่นนั้นใช้ไม่ได้กับคู่สามีภรรยาชื่อดังสัญชาติออสซี่ พวกเค้าแต่งงานกันมาเกือบ 27 ปี แม้คุณสามีจะกลายเป็นพระเอก high profile ของวงการ Hollywood เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรักที่มีต่อเธอ ดังที่เคยพบเห็นหลายกรณีหย่าร้างในวงการบันเทิงที่ทำให้ผู้คนมองว่า ชื่อเสียงเงินทองมักจะเปลี่ยนแปลงใจของคนเราได้เสมอ


age gap 13 ปี อาจจะไม่ได้ฟังดูห่างไกลกันมาก แต่มันกลายเป็นประเด็นที่ผู้คนใช้ทิ่มแทงคู่นี้ รุนแรงถึงขนาดที่ปล่อยข่าวลือว่า Hugh ได้แต่งงานแบบหลอกๆเพื่อปกปิดตัวตนที่ชอบไม้ป่าเดียวกัน และหยามหยันภรรยาของเขาว่า ยอมอยู่กินกับสามีเกย์เพื่อชื่อเสียงและทรัพย์สินของเขา


แต่เดี๋ยวก่อน!


Hugh ยืนยันว่า เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายพยายามเด็ดดอกฟ้า ตอนที่พบกันในกองถ่าย Correlli เป็นครั้งแรกในปี 1995 เธอก็เป็นนางเอกโด่งดังใน Australia และนำแสดงซีรีส์เรื่องนี้ ส่วนเขายังเป็นหน้าใหม่ในวงการ เขามีใจให้เธอทันที่ที่ได้ทำความรู้จักกัน และเพียรพยายามที่จะเอาชนะใจเธอ และแม้ว่าจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก เขาก็มั่นใจแล้วว่า เธอคือ the one ที่ปรารถนาจะใช้ชีวิตคู่ตนชีวิตจะหาไม่ แต่เธอไม่ได้มั่นใจในความสัมพันธ์กับพระเอกรุ่นน้องจนคิดจะแยกทางกัน แต่เขาก็ได้เกลี้ยกล่อมและพิสูจน์ให้เธอได้เห็นความจริงใจ ในปีต่อมา ก็คุกเข่าขอเธอแต่งงาน


ความจริงก็คือ ระยะเริ่มแรกของความสัมพันธ์ Hugh ต่างหากคือคนที่ถูกมองว่าเป็นรองภรรยาอยู่หลายก้าว จนกระทั่งเขาคว้าโอกาสสำคัญในการสร้างความโด่งดังใน Hollywood ด้วยบท Wolverine ทำให้แฟนๆทั่วโลกปลาบปลื้มชื่นชมเขาในฐานะ พระเอก superhero สุดเซ็กซี่   แต่กลับดูถูกดูแคลนภรรยาที่อายุมากกว่าของเขาว่าช่างดูไม่สมกัน


Deborra-Lee   ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับเสียงวิจารณ์ว่า เธอช่างโชคดีเหลือเกินที่มีสามี hot ถึงเพียงนี้ (รวมถึงคนที่นำเรื่องอายุของเธอมาเหน็บแนมว่าเป็นสาวสูงวัยที่คว้าผู้ชายสุดแซ่บมาครองได้)  

"โชคงั้นเหรอ อย่างกับฉันจับฉลากได้รางวัลมา คนเหล่านั้นไม่รู้ตัวเลยว่า ที่จริงแล้วคำพูดบแบบนั้นมันฟังจาบจ้วงกัน ที่มาบอกว่าฉันโชคดีเพราะเขาเป็นหนุ่มรูปงามมีเสน่ห์ล้นเหลือ แต่ภาพที่เห็นนั้นมันแง่มุมของ Hollywood และเป็นแบรนด์ของ Hugh Jackman เท่านั้น"

เมื่อถูกถามว่า เธอรู้สึกอย่างไรกับสถานะหนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดของสามี เธอก็ยิงมุกกลับว่า

"ฉันก็เรียกเขาว่า เฮ้ พ่อหนุ่มเซ็กซี่ วันนี้ถึงตาคุณเอาขยะไปทิ้งแล้วนะ"



เมื่อช่วงเวลาแห่งความหนุ่มสาวได้ล่วงเลยไป เสน่ห์ทางเพศที่ดึงดูดใจผู้คนนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คู่แต่งงานให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ   แต่เป็นความรักความเข้าใจและให้เกียรติกัน  และเห็นได้ชัดว่า ถึงคู่นี้จะต้องเผชิญสายตาพิพากษาจากกลุ่มคนไม่หวังดี   ความรักของทั้งคู่กลับยิ่งดูแนบแน่นและสม่ำเสมอจนแอบจะแอบเว้าวอนในใจว่า อยากจะสัมผัสความรักมั่นคงเช่นนี้บ้าง!
พระเอกดังยกย่องภรรยาเสมอว่า เธอคือสิ่งที่ดีงามที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต เธอและลูกๆคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  ส่วนสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตแต่งงานของเขาราบรื่นมายาวนาน   เขาก็เผยว่า ความใกล้ชิดผูกพันลึกซึ้งคือสิ่งสำคัญที่สุด

"คนอื่นอาจจะมองว่าความใกล้ชิดผูกพันจะต้องเจาะจงเป็นเรื่องบนเตียงเท่านั้น แน่ล่ะว่ามันก็เป็นอย่างนั้นด้วย แต่ความจริงแล้ว มันหมายความว่า เราสามารถแบ่งปันกันทุกอย่าง ทั้งเรื่องดีงาม เรื่องย่ำแย่ ความหวาดกลัว หรือความสำเร็จ"

" Debกับผมก็มีความใกล้ชิดผูกพันกันมาตั้งแต่เริ่มต้น เราหลงรักกันอย่างสุดหัวใจ"


ถึงตอนนี้เขาไม่เคยลืมเติมความหวานให้กับชีวิตคู่ อย่างการ surprise ภรรยาที่มาร่วมเป็นผู้ชมให้กำลังใจในการแสดงbrodway ด้วยการขับร้องเพลงที่ใช้ในงานวิวาห์ของพวกเค้าในปี 1996 หรือลุกขึ้นมาออกลีลาเต้นเพลงสุดฮิตด้วยกัน เธอยืนยันว่า พวกเขาทำกิจกรรมร่วมกันอยู่ไม่ขาด ความรักหวานฉ่ำในวัยหนุ่มสาวนั้นยิ่งลึกซึ้งไปตามวันเวลา



Jon Bon Jovi Dorothea Bongiovi รักกันมาตั้งแต่วัยมัธยม

โลกของ rock star ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่ยั่วยุให้ออกนอกลู่นอกทาง  ไม่ว่าจะเป็นอบายมุขและ groupie สาวๆที่คอยติดตามพวกเขาด้วยความคลั่งไคล้    ความสัมพันธ์แบบรักเดียวใจเดียวอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องที่พบได้ยากเย็น    แต่กรณีของ Jon Bon Jovi    rocker รุ่นใหญ่ที่โลดแล่นในวงการดนตรีมาตั้งแต่เป็นหนุ่มใสหน้าสวย  ก้ได้พิสูจน์แล้วว่า รักแท้ที่มั่นคงกับคนๆเดียวนั้นมีอยู่จริง

Jon  พบกับ Dorothea ในโรงเรียนที่ชุมชนเดียวกัน  ถึงปัจจุบัน เขาก็ยังเก็บภาพสำคัญในช่วงเริ่มตกหลุมรักหญิงสาวในดวงใจและนำมาแชร์ให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า  เขามั่นคงกับเธอแค่ไหน  และประกาศว่า   หากให้นำช่วงเวลาช่วง  high school  ย้อนคืนมาได้ ก็ขอเป็นช่วงที่ตกหลุมรักภรรยา   เพราะมันช่างหวานล้ำฝังใจซะเหลือเกิน

Jon เผยถึงเหตุผลที่พวกเค้าสามารถครองรักกันมาได้ยาวนานเกินสี่ทศวรรษว่า จะต้องให้เกียรติกันและกัน พวกเค้าค่อยๆเติบโตร่วมกันและชื่นชอบในตัวตนของอีกฝ่าย พวกเค้าอยากจะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่เบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตคู่ ส่วน Dorothea เชื่อว่า เธอมีพรสวรรค์ในการอ่านคน เธอรู้ว่า นี่คือผู้ชายที่จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง ทั้งคู่ก้าวสู่วัยหกสิบด้วยชีวิตสมรสที่แข็งแกร่ง ลูกเต้าทั้งสี่คนโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ก็ยังรักกันมากและเป็นตัวอย่างที่เด็กๆยึดมั่นอยากจะดำเนินรอยตาม



เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ทันยุคเฟื่องฟูของดนตรี rock เมื่อหลายสิบปีก่อน แต่กรุ๊ปปี้สาวๆที่คอยติดตามวงดนตรีดังๆนั้นสามารถเข้าใกล้ศิลปินได้มากกว่าหลายคนจะจินตนาการ rockers หลายคนยอมรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับแฟนๆมากหน้าหลายตา ถึงขนาดที่มีคนแอบอยู่กินกับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (กรุ๊ปปี้วง rock 'n' roll ที่เข้าไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับศิลปินดังได้จะถูกยกให้เป็นผู้นำในกลุ่มหรือเป็นตำนานซะด้วยซ้ำ) คุณน่าจะมองออกว่า หนุ่มหล่อตลอดกาลอย่าง Jon Bon Jovi นั้นจะมีสาววัยรุ่นติดตามคลั่งไคล้มากแค่ไหน เขาถูกยกให้เป็น rock sex-god แห่งยุคทำให้พวกเธอเหล่านั้นย่อมมองภาพที่เขาแสดงความรักกับภรรยาด้วยสายตาอิจฉาและยากที่จะทำใจยอมรับ Jon ได้เล่าเรื่องราวในช่วงที่แอบไปแต่งงานในปี 1989 ว่า ในยุคนั้น เด็กสาวๆมองเขาเหมือนกับ Harry Styles ไม่ก็ Justin Timberlake แต่เมื่อหนีตามกันไปแต่งงาน ผู้จัดการวงก็โมโหโกรธาเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานะไม่โสดนั้นไม่ดีนักสำหรับอาชีพนักดนตรี rock ส่วนปฏิกิริยาจากแฟนๆใน America ก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และพยายามทำลายโมเมนท์งดงามแห่งชีวิตของเขา แต่สี่สิบกว่าปีผ่านไป เขากลับกลายมาเป็นตำนาน rock ที่มีภรรยาคนเดียว ไม่ได้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เรื่องการกินเด็กเหมือนกับเพื่อนร่วมวงการ




Brooklyne Beckham ❤ Nicola Peltz คลั่งรักยืนหนึ่งบน social media

เส้นทางความรักของลูกชายคนโตแห่งครอบครัว Beckham กับนางเอกทายาทมหาเศรษฐีนั้นสร้างเสียงโจษจันให้กับ  social media  ได้เสมอ   พวกเค้าคือหนุ่มสาวในช่วงวัยยี่สิบที่ตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์จริงจังหลังจากคบหากันราวๆ 9 เดือน   การเข้าสู่พิธีวิวาห์ในขณะที่ฝ่ายชายมีอายุเพียง 22  ทำให้หลายคนมองว่า  เขากำลังดำเนินรอยตามพ่อแม่ที่แต่งงานกันเมื่ออายุยังน้อย  และสิ่งหนึ่งที่ตามมาหลังจากแชร์ภาพความรักร้อนแรงผ่าน Instagram อย่างสม่ำเสมอ มันก็กลายเป็นแบรนด์คู่รักที่ทำให้พวกเค้ากลายเป็นศูนย์ความสนใจกว่าช่วงที่ยังไม่เริ่มออกเดทอยู่หลายระดับ  ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นปก Vogue  และสื่อบันเทิงทรงอิทธิพลเจ้าอื่น  คำเชื้อเชิญจากแบรนด์ดังให้เข้าร่วมชม  fashion show และอีเวนท์สุดหรูที่เข้ามารัวๆ 

Brooklyn และ  Nicola  แทบจะแข่งขันโปรยถ้อยคำหวานใส่กันบน social media     ยิ่งฝ่ายคุณสามีนั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามีความรักล้นใจจนต้องเขียนพรรณาความรู้สึกต่อภรรยาจนเหมือนกับกำลังแต่งเพลงรัก  จูบแล้วจูบเล่าก็ยังไม่สามารถบรรยายความรักหวานซึ้งกระแทกตาผู้ติดตาม     แม้จะมีผู้มองว่า พวกเค้ายังอยู่ใน Honeymoon phase และยังไม่ได้เรียนรู้ถึงความท้าทายของการมีชีวิตคู่ที่แท้จริง   ทั้งยังมีเสียงปรามาสว่า  ให้อย่างมากไม่เกิน 5 ปี ก็คงยื่นหย่าตามสไตล์ของชาว Hollywood ที่ยิ่งคลั่งรักก็ยิ่งจืดจางเร็ว  แต่อย่าลืมว่า พ่อแม่ของ  Brooklyn ก็เคยเผชิญกับเสียงวิจารณ์แบบเดียวกัน อีกสักหน่อยเดี๋ยวก็เลิก!  แต่พวกเค้าก็ครองคู่กันมาเนิ่นนาน สยบเสียงแช่งจนกริบ
ข่าวลือเรื่องความขัดแย้งในครอบครัว ยิ่งทำให้ชาวเน็ทเชื่อว่า Brooklyn รักภรรยามากจนกล้าลุกขึ้นมาขัดแม่  แม้ว่าที่ผ่านมานั้น ครอบครัว Beckham จะมีสายสัมพันธ์แน่นเหนียวจนถือเป็นแบรนด์ประจำครอบครัว   แต่เมื่อสื่อตีข่าวรัวๆว่า  Nicola และ  Victoria  มีปัญหาแม่สามี  VS สะใภ้จากประเด็นชุดเจ้าสาว   Brooklyn นั้นออกตัวชัดเจนว่า เขาจะยืนอยู่ข้างภรรยาเสมอ   แม้จะพยายามบอกปัดไปว่า  สมาชิกครอบครัวสองฝั่งเข้ากันได้ดี  แต่ก็ดูจะปกปิดเรื่องปัญหาภายในไว้ไม่ได้      ตามประสาคนที่ออกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง   Brooklyn หันมาทุ่มเทให้กับภรรยาคนสวย และใช้เวลากับพ่อแม่และน้องๆน้อยลง    ทำให้หลายฝ่ายมองว่า สามีภรรยาที่ยังหนุ่มสาวคู่นี้พยายามรวมพลังเพื่อผลักดันตัวเองให้ออกมาจากเงาของพ่อแม่ฝ่ายชายที่มีสถานะ icon และหันมาสร้างความสำเร็จในรูปแบบของตัวเอง    และดูเหมือนว่า  พวกเค้ากำลังไปได้สวยเลยล่ะ



Justin Bieber ❤ Hailey Bieber: คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรค

ความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวในวงการบันเทิงที่วนเวียนกับการรักๆเลิกๆ คนในแวดวงเดียวกันอาจจะถูกประเมินค่าว่าเป็นเพียงแค่ความรักสนุกที่เกิดขึ้นมาวูบวาบ ไม่จีรังยั่งยืน  ถึงจะมั่นใจว่าจะอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตและผูกพันกันด้วยการแต่งงาน  แต่สำหรับ  superstar ที่มี fanbase  เป็นเด็กสาวนับล้านๆทั่วโลกอย่าง Justin Bieber นั้น    ผู้ที่ก้าวเข้ามารับบทบาทภรรยาของเขาต้องรับมือกับอุปสรรคโหดหินเอาเรื่อง!

เชื่อว่า ก่อนที่ Hailey จะตอบรับคำของแต่งงานจาก Justin เธอย่อมเตรียมใจมาอยู่แล้วว่าจะต้องพบกับการคุกคามจากแฟนๆสุด hardcore ของสามี แต่ถึงกระนั้น เธอก็ต้องรับมือกับคำพูดว่าร้ายทุกรูปแบบจนยากจะทำใจยอมรับ โดยเฉพาะกลุ่มแฟนไร้วุฒิภาวะที่ฝังใจว่า เธอฉกชิงผู้ชายมาจาก Selena Gomez ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือสารพัดรูปแบบ คำพูดขู่ฆ่า และตามระรานไปถึงงานพรมแดง ที่ผ่านมา Hailey อาจจะพยายามกล้ำกลืนไว้แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามคำพูดย่ำแย่ไปได้ทุกครั้ง แม้ว่า Justin จะออกมาปกป้องเธอโดยไม่หวาดหวั่นจะเสียคะแนนความนิยม เพราะเขาไม่ได้ให้ค่าแฟน toxic ที่เอาแต่ล่วงเกินภรรยา แต่เมื่อคิดถึงใจเรา หากว่าเปลี่ยนไปแทนที่ Hailey ก็อาจจะพบว่า แรงเกลียดชังที่ดูไร้สิ้นสุดได้บั่นทอนจิตใจ ซึ่งมันเกิดขึ้นเพราะพวกเค้ามีความรักและตัดสินใจสร้างครอบครัวด้วยกันไม่ต่างจากคนทั่วไป

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสจากสังคมออนไลน์ก็เริ่มเปลี่ยนทิศ เมื่อเธอได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่เคยเป็นมือที่สามทำลายความสัมพันธ์ของใคร    จริงอยู่ที่รูปแบบความรักที่ดู move on ว่องไวหลังจากที่เขาเลิกกับ Selena นั้นอาจจะทำให้เกิดความคลางแคลงสงสัย  แต่เธอคบหากับ  Justin แบบรักๆเลิกๆมาหลายปี ศึกษาตัวตนกันมาเต็มที่และมั่นใจจริงๆว่าต้องการจะอยู่กัยคนๆนี้  และก่อนจะคบกันก็ต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่า  เขาโสดสนิทจริงๆ    และไม่นานจากนั้น  ภาพของ Selena และ Hailey ที่โพสเคียงข้างกันด้วยรอยยิ้ม ไร้ทีท่าแบบ bad blood ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ความพยายามของกลุ่มคนที่คอยคุกคาม  Hailey เพราะแค้นแทนไอดอลในดวงใจตัวเองนั้นดูเสียเปล่าจริงๆ

ความกดดันหนักหน่วงไม่ได้เกิดขึ้นจากความยึดติดของแฟนๆเท่านั้น Justin และ Hailey เป็นคู่สามีภรรยาอายุยังน้อยที่ต้องฝ่าฟันกับปัญหาเรื่อง mental health ที่หนักหนาสาหัส ในขณะที่ haters มองว่าเธอเข้ามาเกาะติ Justin เพราะหวังผลสร้างกระแสและทรัพย์สินเงินทองของเขา แต่ความเจ็บป่วยทางจิตใจของ Justin ที่เกิดขึ้นจากความโด่งดังตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายนั้นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ Hailey เช่นเดียวกัน และหลายครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกว่าจะไปต่อไม่ไหว จนต้องโทรไปร่ำไห้กับแม่ แต่เป็นเพราะเธอได้รับกำลังใจเต็มที่จากครอบครัวเพื่อนฝูง เธอจึงฮึดขึ้นมาช่วยเหลือเขาในฐานะที่พึ่งทางใจ

"ฉันก้าวมาอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ฉันรู้ดีว่ารักคนๆนี้มายาวนาน และนี่ไม่ใช่เวลาจะยอมแพ้ละทิ้งเขาไป ฉันไม่สามารถทำแบบนั้นกับเขาได้"


ฝ่าย Justin เองยอมรับถึงความท้าทายของการใช้ชีวิตคู่

"การแต่งงานปีแรกเป็นอะไรที่ยากลำบากจริงๆ เพราะมันมีเรื่องของความเจ็บปวดฝังใจอยู่เบื้องหลัง มีปัญหาการขาดความเชื่อใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะยอมรับกับคนที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยเพราะมันช่างน่ากลัว คุณไม่อยากจะสร้างความหวาดหวั่นให้กับพวกเค้าด้วยการยอมรับออกไปว่า คุณกำลังเกิดความหวาดกลัว"


"Hailey เป็นคนมีเหตุผลและหนักแน่นมากครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมโหยหา ผมต้องการจะสิ่งที่ทำให้มั่นคงปลอดภัยมาโดยตลอด จากสมัยที่ยังเป็นเด็ก พ่อของผมก็มักจะไม่ได้อยู่ด้วย เมื่อทำอาชีพนี้ก็ต้องเอาแต่เดินทาง มี lifestyle อย่างที่เห็น ทุกอย่างดูเป็นขาดเสถียรภาพไปซะหมด ผมจำเป็นต้องมีใครสักคนที่ให้หลักประกันความมั่นใจ และเธอคนนั้นก็คือที่รักของผม"




ชีวิตการแต่งงานที่ก้าวสู่ปีที่ 5 อาจจะฟังดูไม่ยาวนานนัก แต่สำหรับวงการ Hollywood ที่คนดังแต่งงานกันได้ปีสองปี (หรือน้อยกว่านั้น) แล้วยื่นขอหย่ากันเป็นเรื่องปกติ Justin และ Hailey นับเป็นคู่รักที่ going strong อย่างไร้ข้อสงสัย พวกเค้าตัวติดกันไปทุกหนทุกแห่งและแสดงความรักที่เต็มไปด้วยความจริงใจสม่ำเสมอ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ playboy หลายใจของคุณสามีเริ่มเลือนหายไป จนมีคนยกย่อง Hailey ว่าเธอพยายามชักนำให้ Justin ให้ใช้ชีวิตอย่าง healthy ขึ้น และฟันธงว่า เธอนี่แหละคือคนที่ใช่ เพราะจากเดิมที่ Justin เคยมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ กลับใช้ชีวิตเข้ารูปเข้ารอยขึ้นมาหลังจากแต่งงาน

Hailey ยังเป็นมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือให้สามีละเลิกเหล้ายาเสพติด จากประสบการณ์ที่เธอได้เห็นพ่อแท้ๆผ่านปัญหาเดียวกันมาก่อน ฝ่าย Justin ก็ได้ให้เครดิตภรรยามาแล้วหลายครั้งว่า เธอมีความสำคัญกับเขาอย่างมากมาย และช่วยเหลือให้ก้าวผ่านวันคืนที่เลวร้ายมาได้ เธอคนนี้นี่เองทำให้เขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริง และเขาเชื่อจริงๆว่า เธอคือรางวัลที่พระเจ้าประทานให้เมื่อเขาหันกลับมาทำความดี


หลากหลายบทเพลงของ Justin จะมีภรรยาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ตัวอย่างที่ชัดเจนของความรักที่ทำให้เกิดพัฒนาการทางด้านดีงามคือเพลง All Around Me ที่มีเนื้อเพลงย้ำๆว่า เขาจำเป็นต้องมีเธออยู่เคียงข้างเพราะเธอคือคนที่เบิกเนตรให้ค้นพบความรู้สึกที่ดีงาม เธอคือผู้ช่วยเหลือเขาได้ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ทั้งๆที่ไม่เคยคิดว่าจะซื่อสัตย์กับใครได้ แต่ก็หันมาทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์ที่จริงจัง และยังมีอีกหลายเพลงที่บ่งชี้ว่า เขาซาบซึ้งใจมากมายเพียงใดที่ได้พบรักกับคนที่ทั้งเข้าอกเข้าใจและเต็มใจร่วมฝ่าฟันไปด้วยกันไม่ว่าจะวันที่ดีหรือร้าย และพยายามจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับเธอ



ในขณะที่ชาวเน็ทคุ้นชินกับภาพของคู่รักคนดังที่แสดงความคลั่งรักในรูปแบบหลากหลาย ทั้งปรนเปรอของขวัญเลอค่าสารพัด สัมผัสร่างกายด้วยความเสน่หาไปทุกหนทุกแห่ง และประกาศความรักด้วยความพูดที่หวานหยดจนมดช็อค แต่ที่สุดแล้ว คนที่มอบความรักให้กันอย่างจริงใจและอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปชั่วชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายปรารถนามากกว่า

คู่สามีภรรยาชื่อดังได้ให้คำสาบานในพิธีวิวาห์ว่า  จะอยู่เคียงข้างกันจนกว่าความตายจะมาพรากจาก   แต่นั่นไม่ได้การันตีว่า   พวกเค้าจะรักษาความรักของไว้ได้ยืนยงตามที่ได้ลั่นวาจาไว้  แต่นับถึงเวลานี้ ความรักสุดหวานของพวกเค้าก็ดูจะไม่แพ้ใครเลย


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE