ทุกคนเชื่อเรื่องจังหวะของชีวิตมั้ยคะ
Ladymjjanie 40 14
**เขียนอาจจะยาวหน่อยนะคะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันได้น้าา**
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่าจังหวะชีวิตมันมีอยู่จริงๆ
เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยหวังอะไรในชีวิตเลยค่ะ เพราะการหวังไว้มากๆ สุดท้ายถ้ามันไม่ได้ดั่งที่หวัง มันเจ็บปวด ก็เลยเป็นคนที่เชื่อว่าเราทำอะไรเราจะได้อย่างนั้นมาตลอด ถ้าลงมือทำมันก็จะเกิดสิ่งที่เราทำนั่นแหละ (พอจะเก็ทฟิลมั้ยคะ 555) ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเจนนี่พยายามกับตัวเองไว้หลายอย่างมากๆ ทั้ง พยายามหางาน ส่งรีซูเม่ไว้หลายบริษัท สมัครก็หลายที่แต่ไม่ถูกเรียกสักที่ พยายามอ่านหนังสือมากๆ เพื่อไปสอบราชการ ซึ่งทั้งหมดนี้มันไม่เป็นดั่งที่หวังเลยค่ะ ซึ่งก็นั่นแหละเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ บางคนอาจจะมองว่าเรายังไม่สุด (เฮยย แต่เราสุดแล้วเว้ยแก)
แต่ก็นั่นแหละค่ะ มันถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อว่ามันเป็นจังหวะชีวิตจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นคุณพ่อของเจนนี่เขาดูกราฟชีวิตเป็น (คุณพ่อหนูไม่ได้เป็นหมอดูนะคะ) 2 ปีที่ผ่านมากราฟชีวิตเจนนี่ตกฮวบเลยค่ะ ถ้าใครสายมูก็อาจจะเชื่อว่ามันเป็นเพราะกราฟชีวิตมันตก พอมันตกแล้วมันไม่สามารถทำอะไรได้เลยให้ประสบความสำเร็จสักที มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องอดทนและพยายามต่อไป...
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย มันเป็นจังหวะชีวิตของเรายังไง ซึ่งขอเล่าย้อนไปเกือบๆ 1 ปีที่ผ่านมาก่อนค่ะว่า เราเริ่มต้นการเขียนบทความบิวตี้ค่ะ ทำจนเป็นงานส่วนตัวไปเลย แบบจริงจังมาก ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมา มันดีขึ้นเรื่อยๆ (แต่เราก็ยังไม่ย่อท้อเรื่องการหางานอยู่นะคะ เพราะเราคิดว่าทำงานประจำมันก็ดี ว่าง่ายๆ เราอยากเป็นคนที่มี 2 อาชีพนั่นแหละค่าา 5555) และเราก็เก็บผลงานของเรามาใส่ในพอร์ต จนล่าสุดเมื่อ 2 วันที่แล้ว มี HR ส่งเทสให้เราลองเขียนงานก่อนเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งเขาก็ชอบการเขียนของเรามากๆ เลยค่ะ และวันนี้เขานัดสัมภาษณ์ สรุปว่าเขารับเราเข้าทำงานแล้วค่ะ ความรู้สึกดีใจมากๆ ตลอด 2 ปีที่ฉันหางาน วันนี้ก็เป็นวันของฉัน เย้
เรื่องราวก็เป็นแบบนี้แหละค่าา เจนนี่อยากจะบอกว่า หากเราเจอสถานการณ์ในชีวิตที่เลวร้าย หรือไม่ได้อย่างที่หวัง จงมองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ใครจะบอกว่าเอาไปเป็นแรงพลักดันในชีวิต อยากจะบอกว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับอิฉันค่าา 5555
**ใครที่อ่านจนจบ เจนนี่ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ตั้งใจอ่าน เราก็แค่อยากจะเล่าสู่กันฟังเฉยๆ งับ และจะขอบคุณมากๆ อีกเช่นกันหากเพื่อนๆ คอมเมต์เมาท์มอย์ อิอิ**
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่าจังหวะชีวิตมันมีอยู่จริงๆ
เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยหวังอะไรในชีวิตเลยค่ะ เพราะการหวังไว้มากๆ สุดท้ายถ้ามันไม่ได้ดั่งที่หวัง มันเจ็บปวด ก็เลยเป็นคนที่เชื่อว่าเราทำอะไรเราจะได้อย่างนั้นมาตลอด ถ้าลงมือทำมันก็จะเกิดสิ่งที่เราทำนั่นแหละ (พอจะเก็ทฟิลมั้ยคะ 555) ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเจนนี่พยายามกับตัวเองไว้หลายอย่างมากๆ ทั้ง พยายามหางาน ส่งรีซูเม่ไว้หลายบริษัท สมัครก็หลายที่แต่ไม่ถูกเรียกสักที่ พยายามอ่านหนังสือมากๆ เพื่อไปสอบราชการ ซึ่งทั้งหมดนี้มันไม่เป็นดั่งที่หวังเลยค่ะ ซึ่งก็นั่นแหละเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ บางคนอาจจะมองว่าเรายังไม่สุด (เฮยย แต่เราสุดแล้วเว้ยแก)
แต่ก็นั่นแหละค่ะ มันถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อว่ามันเป็นจังหวะชีวิตจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นคุณพ่อของเจนนี่เขาดูกราฟชีวิตเป็น (คุณพ่อหนูไม่ได้เป็นหมอดูนะคะ) 2 ปีที่ผ่านมากราฟชีวิตเจนนี่ตกฮวบเลยค่ะ ถ้าใครสายมูก็อาจจะเชื่อว่ามันเป็นเพราะกราฟชีวิตมันตก พอมันตกแล้วมันไม่สามารถทำอะไรได้เลยให้ประสบความสำเร็จสักที มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องอดทนและพยายามต่อไป...
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย มันเป็นจังหวะชีวิตของเรายังไง ซึ่งขอเล่าย้อนไปเกือบๆ 1 ปีที่ผ่านมาก่อนค่ะว่า เราเริ่มต้นการเขียนบทความบิวตี้ค่ะ ทำจนเป็นงานส่วนตัวไปเลย แบบจริงจังมาก ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมา มันดีขึ้นเรื่อยๆ (แต่เราก็ยังไม่ย่อท้อเรื่องการหางานอยู่นะคะ เพราะเราคิดว่าทำงานประจำมันก็ดี ว่าง่ายๆ เราอยากเป็นคนที่มี 2 อาชีพนั่นแหละค่าา 5555) และเราก็เก็บผลงานของเรามาใส่ในพอร์ต จนล่าสุดเมื่อ 2 วันที่แล้ว มี HR ส่งเทสให้เราลองเขียนงานก่อนเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งเขาก็ชอบการเขียนของเรามากๆ เลยค่ะ และวันนี้เขานัดสัมภาษณ์ สรุปว่าเขารับเราเข้าทำงานแล้วค่ะ ความรู้สึกดีใจมากๆ ตลอด 2 ปีที่ฉันหางาน วันนี้ก็เป็นวันของฉัน เย้
เรื่องราวก็เป็นแบบนี้แหละค่าา เจนนี่อยากจะบอกว่า หากเราเจอสถานการณ์ในชีวิตที่เลวร้าย หรือไม่ได้อย่างที่หวัง จงมองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ใครจะบอกว่าเอาไปเป็นแรงพลักดันในชีวิต อยากจะบอกว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับอิฉันค่าา 5555
**ใครที่อ่านจนจบ เจนนี่ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ตั้งใจอ่าน เราก็แค่อยากจะเล่าสู่กันฟังเฉยๆ งับ และจะขอบคุณมากๆ อีกเช่นกันหากเพื่อนๆ คอมเมต์เมาท์มอย์ อิอิ**
