การดูเเลตัวเอง มันดีเเบบนี้นี่เอง(กระทู้ระบายค่ะ^^)

1 24
วันนี้เราเก็บของเจอรูปๆนึงของเรา
ทำให้เรานึกบางอย่างได้ค่ะ
ขออนุญาตเขียนระบายนิดนึงนะค่ะ><
เรื่องนี้อัดอั้นในใจเรามานานมากหลายปี

-----------------------------------------

ขอเล่าย้อนความว่า....
ตอนเด็กๆอ่ะ ส่วนมากก็ยังวิ่งเล่นๆ ยังไม่ค่อยจะสนใจเรื่องความงามอะไรเลย
จนพอมัธยมต้นเราหน้ามัน สิวขึ้นๆๆๆ เยอะเเยะ
ตอนนั้นเราไม่รู้มาก่อนว่า ในโลกเนี่ยมียารักษาสิว -- --'' ไม่รู้ว่ามีการรักษาสิว
ก็เอาแป้งน้ำโบะๆทาไปตามเรื่อง มันก็หายบ้างไม่หายบ้าง ทิ้งรอยไว้บ้างก็ไม่สนใจ
บีบๆมันบ้าง ช่างมัน(ถึงขนาดเคยมีเพื่อนเเซวว่า ทำไมแกสิวเยอะ เเกล้างหน้ารึป่าวเลย T_T)
เเล้วช่วงนั้นเรียนพิเศษที่สยามก็เน้น ไปเรียนๆกินๆ จนอ้วนเลย
กินทุกอย่างที่อยากกิน

เวลาเห็นคนสวยๆในชั้นเรียนก็คิดว่า ตัวเราเองไม่มีทางเป็นเเบบนั้นได้หรอก
คือคิดว่าเป็นเส้นขนานเลย เหมือนเราเกิดมาคนละประเภท คนละโลก

เคยคิดว่า ตัวเองคงไม่มีทางมีแฟนเเน่ๆ หน้าทั้งสิว ทั้งอ้วนเเบบนี้
เราไม่คู่ควรกะใครทั้งนั้น
เวลาเดินผ่านใครเเล้วเค้ามองเรา เราจะคิดว่า เค้าจะคิดว่าเราประหลาดรึป่าว

จนม.ปลาย ตอนนั้นเเม่มาบอกว่า ให้ลดความอ้วนซะนะ เพราะขาใหญ่มากๆ
หนักประมาณ53มั้ง สูง160 เเต่เราก็ยังเฉยๆ คิดว่า ลดไม่ลงหรอกขนาดนี้เเล้ว

เเต่เราเลยเริ่มควบคุมอาหาร เพราะตอนนั้นใส่เสื้อเเล้วบวมมาก
บวกกะ ไปลองเสื้อกะเพื่อน เพื่อนตัวเล็กน่ารักเชียว><
เลยถามเพื่อนไปว่า ถามจริงๆ เอาตอบเเบบจริงจัง ชั้นอ้วนปะ
เพื่อนก็ พยักหน้าหงิกๆ ><
หลังจากนั้นก็ลดความอ้วนๆ น้ำหนักก็ลงมา 50 ละเเล้วก็คงที่อยู่ที่เท่านี้
ก็รู้สึกดีกว่าเเต่ก่อนเยอะ
เเต่หน้าก็ยังสิวๆมันๆ

เรื่องสิวนี่ ทำให้เวลาคุยกะใคร เราค่อนข้างประหม่า เพราะอายสิว
คิดว่าตัวเองดูไม่ได้มากๆ

คิดไปว่า คงไม่มีใครมาชอบเราหรอก
เค้าก็ต้องเลือกคนที่สวยๆสิ(คิดตอนเด็กๆนะค่ะ)



จนวันนึงเราไปถ่ายรูปเล่นกะเพื่อนๆ ที่เค้าฮิตๆกัน
เเล้วได้รูปกลับมา เราเอารูปเพื่อนสาวมาดู เธอน่ารักเชียว
จู่ๆไม่รู้อะไรดลใจ
เราแอบเอารูปเรามาเทียบกะเพื่อนสาวที่สวยๆ
เเล้วเราก็พบว่า หน้าตาเราดูโทรมๆ สิวๆ ดำๆ ยิ้มปากเบี้ยว ผมฟู- -''
นี่เองคือจุดต่าง
จิตตก แหะๆ

ตอนนั้นเราเเค่คิดว่า ต้องทำไรหน่อยเเล้วให้มันดูได้กว่านี้
ไม่ต้องเท่าเพื่อนหรอก เพราะเป็นไปไมได้
เราเลยกันคิ้ว ให้ได้รูปค่ะ
คือตอนนั้นไปขอให้เเม่กันให้ค่ะ
หน้าตาก็ดูชัดเจนขึ้นมาหน่อย
เริ่มทาครีมที่หน้า บำงรุงบ้าง
เริ่มทากันเเดดบ้าง(ตอนนั้น กันเเดดยังมีเเต่เเบบมันๆ เราทาเเล้วสิวยิ่งขึ้น ><)



พอเอ็นติด เข้ามหาลัย เราย้ายไปอยู่หอ
ตอนนี้ เราเริ่มจำกัดการกินของตัวเองได้ เพราะว่าซื้อกินเอง
เริ่มกินน้ำเยอะขึ้น ทำให้ผิวเริ่มดีขึ้นบ้าง (ส่งผลให้เราติดการดื่มน้ำเยอะๆซึ่งเป็นผลดีมาจนทุกวันนี้)เ
เริ่มกินผลไม้ตามรูมเมท รูมเมทเราดีมากๆ ให้กำลังใจเราตลอดเวลาค่ะ จนเราเริ่มรู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองพอดูได้บ้าง
เริ่มทาโลชั่นที่ตัวทั้งตัวทุกวัน (ส่งผลให้เราติดการทาโลชั่นค่ะ ซึ่งเป็นผลดีมาจนทุกวันนี้)

ต่อมาเราเริ่มไปแอบชอบชาวบ้านข้างเดียว >< เเต่เค้าไม่เเลเราเลย
ไม่อ้วนเท่าเเต่ก่อนเเล้ว ไม่โทรมดำ ไม่สิวเเล้ว

เเต่ว่า ปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกน้อยใจคือ เรามีรอยสิวมากมายที่เเก้มค่ะ
เกิดจากสิวที่รักษาไม่ถูกวิธีในตอน ม ต้น ของเราเอง
มันเหมือนตราบาปบนหน้าเรามากๆ คนอื่นหน้าตาเค้าเรียบๆ เราดันมีรอยสิวเยอะเเยะ ฮือ
เเต่ก็พอเอาแป้งโปะๆไปได้ พอทำใจลืมๆ เฮ้อ ก็มันรักษาไม่ได้หนิค่ะ

เเล้วเราก็จะไปยืดผม ตอนเเรกลังเลมาก กลัวออกมาไม่ดี กลัวผมเสีย
ลองถามเเม่เเล้ว เเม่ค้านค่ะ เเนวว่าสารเคมีๆไม่ดีๆ

เราไม่เคยทำอะไรกะผมเลยยยย เข้าร้านทำผมนับครั้งได้
การยืดผมตอนนั้น ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ลังเลอยู่นาน(เวอร์เนอะตอนนั้น เเหะๆ)

จุดเปลี่ยนคือ วันนึง เราบังเอญเจอคนที่เราชอบ เเล้วผมเราฟู น่าเกลียดมากๆ
เราคิดว่า เห้ย ไม่น่าเลย รู้งี้ไปยืดผม หรือทำผมมาก็ดี จะได้ดูไม่เเย่เเบบนี้
เราเลยคิดว่า ทำไมเรามานั่งลังเล นั่งคิดเเบบ น่าจะทำๆ ก็ทำเลยสิ
อะไรที่มันน่าจะดีกะตัวเอง ทำไมเราไม่ทำ
เราจะไม่ลังเลอีกเเล้ว ยืดเลย
เเต่มันกลับเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนเราไปเลย
เพราะยืดเเล้วเราชอบมากๆ รู้สึกดีกะตัวเอง

ถ้าใครที่ผมฟูมากๆ งอๆเป็ดๆ ยืดเเล้วตรง จะรู้สึกดีกะตัวเองจริงๆค่ะ

ต่อมาก็เริ่มหาข้อมูลทางเน็ต ไปหาหมอสิวค่ะ
เเล้วสิวเเละรอยก็เริ่มดีขึ้น อันนี้ใช้เวลานานเหมือนกัน ค่อยๆรักษามาเรื่อยๆ

จนเพื่อนเริ่มมาทักว่า แกไปทำอะไรมาใช่มั๊ย
เริ่มมีคนทักเยอะขึ้นว่า แกดูดีขึ้นนะ

เราเริ่มเข้าใจว่า การดูเเลตัวเองคืออะไร
ถ้าเราไม่พยายาม มันไม่สำเร็จหรอก นี่คือตัวของเราเอง ถ้าเราไม่รักไม่ดูเเล ใครจะทำ
รางวัลของความพยายามมันดีเเบบนี้นี่เอง คือเรารุ้สึกดีกะตัวเองมากขึ้น มั่นใจขึ้น
เวลาเดินสวนกะใคร เเล้วเค้ามองมา เราไม่ต้องกลัวว่า เค้าเห็นเราเป็นตัวประหลาดหัวฟู หน้าสิว
คนเห็นเราเป็นผู้หญิงปกติเเน่ๆ ฮ่าๆ


เราเริ่มอ่านนิตยสารต่างๆ เก็บเกี่ยวความรู้
เริ่มรู้จักเครื่องสำอาง
เเต่ยังคง mix match เสื้อผ้าไม่เป็น
เเต่ก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ saveรูปดาราที่สวยๆมาดูการเเต่งตัว
สังเกตการเเต่งตัวของเพื่อนๆเเล้วจดจำ

ค่อยๆเรียนรู้สิ่งต่างๆ
หัดmaskหน้า ใช้น้ำหอม เเต่งหน้า เเต่งตัว

เเต่รอยสิวเราก็ยังไม่หายนะค่ะ
สิวหายเเล้ว เเต่รอยมันไม่หายค่ะ เพราะมันเป็นรอยบุบลงไป เศร้าใจมาก

เเล้ววันนึง เพื่อนเราพูดเรื่องการจี้ไฝ
เราหูผึ่งเลย เราเองก็มีไฝที่หน้าค่ะ
ตอนนั้น คิดเลยว่า เห้ย ทำไมเราไม่เอาไฝออกอ่ะ
คือ เรามีไผที่หน้ามาตั้งเเต่เด็กๆ จนชินละ เเต่ตอนนี้พอมาคิดๆดู เอ่อเนอะ ทำไมเราไม่เอาออก
เลยจัดการ เอาออกค่ะ

คือ เวลาเราจะหาหมอ จะใช้ครีม จะเอาไฝออกเนี่ย เราหาข้อมูลสุดๆ คือเราจะต้องมั่นใจ90% ถึงลงมือทำ
เมื่อเราจะดูเเลตัวเองเเล้ว เราต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ให้ตัวเอง เราจะไม่ทำเเล้วมาเสียใจเพราะเราพลาด
เราตัดสินใจทำเลยค่ะ จี้ออกสามเม็ด เเล้วผลออกมาดีมาก ตอนนี้หน้าเกลี้ยงเเล้ว

เเต่รอยสิวยังอยู่
เเล้วก็อ่านรีวิวเจอพี่ท่านนึง เคยมีรอยๆเเล้วกรอหน้ากะใช้เอสเคทู เราเลยสนใจ
เเต่เอสเคทู คนเเพ้เยอะ เราเลยไม่เสี่ยง
เเต่หาข้อมูลเพื่อกรอหน้าเเทน ถามใครต่อใครเยอะมาก เเล้วลงมือไปกรอเลยค่ะ
ผลลัพธ์ออกมา เป็นที่พอใจค่ะ เรากรอไปสี่ครั้ง รอยจางไปเยอะ

ช่วงนั้น เราอกหัก เเล้วก็เรียนหนัก น้ำหนักเลยลดลงมาอีก จนเราหนัก47ค่ะ
เเละเราก็ค่อนข้างพอใจกะน้ำหนักนี้เลย เลยควมคุมให้อยู่ในระดับนี้

เราค่อยๆเรียนรู้สิ่งต่างๆ จนเเทบจะลบภาพเด็กอ้วนหัวฟูในวันวานไปจนหมดค่ะ

ตอนนี้เราทำงานเเล้ว
เเล้วก็มีคนหลายคนมาชอบเรา
เเม้เเต่ คนๆเเรกที่เราชอบที่เค้าไม่เเลเรา ยังกลับมาชอบเรา

เเต่สิ่งเหล่านี้ มันไม่สำคัญเท่าที่เรารู้สึกดีกะตัวเอง
ไม่รู้สึกว่า ตัวเองไม่คู่ควรกะใครเเบบเเต่ก่อน
รู้สึกว่า ตัวเองก็เป็นคนที่ใช้ได้คนนึง มีความสุขกะการใช้ชีวิต
มั่นใจในตัวเองมากขึ้น

ตอนนี้ ไม่อ้วนอีกเเล้ว ผิวไม่โทรมเพราะทาโลชั่นเเละกันเเดดสม่ำเสมอ
สิวไม่ขึ้นอีกเลยค่ะ (เราหยุดหาหมอสิวมาสามปีเเล้วค่ะ ทาเเต่ยารักษาสิวที่จำเป็นเท่านั้น)
ดูเเลเส้นผม รู้จักเเต่งตัว รอยสิวนี่จางลงมากๆ ทาแป้งฝุ่นยังเเทบไม่เห็น
บอกใครว่าเคยมีรอยสิวเเทบไม่มีใครเชื่อ มีเเต่คนถามว่า ทำยังไง ทำไมหน้าใสเเบบนี้


วันนี้เราบังเอิญไปเจอรูปที่สมัยก่อน เราเคยเอามาเทียบกะเพื่อนสาวสวยคนนั้นขึ้นมา
เราเลยเอามาเทียบกะรูปล่าสุดที่เราถ่ายมา
เราเห็นถึงความเเตกต่าง
เราเป็นคนเดิมค่ะ เเต่ทัศนคติที่มีต่อตัวเองของ ณ สองวันเเห่งการถ่ายภาพมันเปลี่ยนไป

การดูเเลตัวเองในวันนั้น มันทำให้วันนี้เรามีความสุขมาก^^


จบเเล้วค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังเรานะค่ะ



As long as you wish to be beautiful, you will be beautiful.



pizzha

pizzha

sawasdee ka

FULL PROFILE