มาเปรียบเทียบค่า pH ของมาส์กมะขามแต่ละยี่ห้อกันเถอะ l AADIIWAIEW

27 6

สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันกับอิ๋วอีกแล้ว หลังจากที่ไม่ค่อยมีเวลาอัพบล็อกและวีดีโอเท่าไหร่นัก

วันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีมาอัพเดตเรื่องราวดีๆให้เพื่อนๆฟังกันแล้วจ้ะ

ตามหัวข้อเลยนะ วันนี้อิ๋วจะมาทดสอบเปรียบเทียบค่า pH ของมาส์กมะขามแต่ละยี่ห้อกัน เนื่องจากว่าอิ๋วมีมาส์กมะขามค่อนข้างเยอะ แล้วก็อยากรู้ว่าแต่ละตัวมันต่างกันยังไง มีความเป็นกรดต่างกันมั้ย กัดผิวเราขนาดไหน เลยอ่ะ ได้เวลามานั่งทดสอบกันแล้ว

(ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อแบรนด์นะคะ แค่อยากทำเป็นข้อมูลของสาวๆที่หน้าแพ้ง่ายๆแบบเราค่า)


กระทู้นี้ค่อนข้างยาวมาก เผื่อใครขี้เกียจอ่าน อิ๋วแปะลิ้งค์วีดีโอเอาไว้ให้นะคะ


ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแต่ละตัวกันก่อนดีกว่า

1. Anee kah

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อละเอียดเข้มข้นมาก เนื้อนิ่มๆ ไม่มีเกล็ดของเม็ดมะขาม แต่มีเนื้อสมุนไพรอยู่ค่ะ

กลิ่น : มีกลิ่นมะขามและสมุนไพรอื่น ได้กลิ่นของสมุนไพรค่อนข้างชัดเลย แต่ไม่เหม็นนะ รู้สึกธรรมชาติจริงๆ หอมด้วยยย

ความรู้สึกหลังใช้ : อันนี้เป็นอันที่หยิบใช้บ่อยมาก เพราะเนื้อเค้านุ่ม เกลี่ยง่าย เนียนๆ ไม่รู้สึกยุบยับที่ผิว ไม่แสบไม่คันหน้าระหว่างใช้และหลังใช้ เห็นเค้าว่าใช้มะขามเปรี้ยวที่พลาสเจอร์ไรซ์แล้วด้วย



2. มะขามไพรไทย

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อค่อนข้างหยาบ คล้ายๆมีเม็ดสครับอยู่ในตัวงี้ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันหยาบเกินไปสำหรับหน้า

กลิ่น : กลิ่นเหมือนมะขามเปียกจริงๆอ่ะ เปรี้ยวโดดๆ กลิ่นแบบมะขามเปรี้ยวเลย

ความรู้สึกหลังใช้ : อันนี้เป็นอันที่อิ๋วเอาไว้ใช้ขัดตัว เคยเอามาใช้กับหน้าแล้วรู้สึกว่าหน้าระคายเคืองมาก ไม่แน่ใจเป็นเพราะอิ๋วเป็นคนผิวบางแพ้ง่ายอยู่แล้วรึป่าว แต่ไม่ได้หมายถึงว่าใช้แล้วแพ้นะคะ ไม่แพ้ แต่มันระคายเคืองนิดนึง ส่วนตัวอิ๋วเอามาใช้ขัดตัวอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง



3. Wan-Makarm Repair Mask (ว่านมะขาม)

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อสีน้ำตาลเข้ม เหนียวๆ เนื้อละเอียดอยู่ค่ะ แต่ก็ยังมีเปลือกมะขามอยู่ แต่ไม่ถึงขั้นบาดผิวจนแสบขนาดนั้นนะคะ ตัวนี้เค้าใช้มะขามหวานค่ะ

กลิ่น : กลิ่นหอมมะขาม แต่มันมีกลิ่นของขมิ้นอยู่ด้วยเพราะเค้าผสมขมิ้นด้วย

ความรู้สึกหลังใช้ : ใช้แล้วไม่แสบผิวค่ะ มีนิดหน่อยตรงช่วงปีกจมูกที่บางๆหน่อยก็จะแสบ แต่ไม่เป็นปัญหามากค่ะ เวลามาส์กอิ๋วก็เว้นช่วงปีกจมูกและบริเวณที่บางๆไว้ มีส่วนผสมของขมิ้น เพราะฉะนั้นเวลามาส์กเสร็จแล้วผิวจะผ่องๆเหลืองๆกว่ามาส์กมะขามปกตินิดหน่อย แต่ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นขมิ้น เลยแบบต้องทำใจนิดนึงเวลาใช้



4. เขาค้อทะเลภู

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อเหลวมากๆ มีความเกือบจะคล้ายน้ำมะขามเปียกแล้ว ไม่มีเกล็ดสากๆ

กลิ่น : กลิ่นเหมือนมะขามเปียกปกติ เหมือนมาส์กมะขามทั่วไป

ความรู้สึกหลังใช้ : อันนี้เป็นอันที่หยิบใช้บ่อยรองมาจากอะนีฆาเลย เนื้อเค้านุ่มออกไปทางเหลว ทำให้เกลี่ยง่ายมาก ไม่รู้สึกยุบยับที่ผิว ไม่แสบไม่คันหน้าระหว่างใช้และหลังใช้



5. See Scrub Mix Herbals

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อหยาบมาก คล้ายๆมีส่วนผสมของเกล็ดน้ำตาลหรือเกล็ดทรายอยู่ด้วย

กลิ่น : กลิ่นมะขามผสมขมิ้นทานาคา กลิ่นขมิ้นหรือทานาคาค่อนข้างชัดมาก

ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้เป็นตัวที่เค้าเขียนมาเลยว่าสำหรับผิวกาย ​อิ๋วเลยไม่ได้เอามาเทสกับหน้า เพราะคิดว่าต้องบาดหน้ามาก และก็แสบมากๆ เพราะเม็ดสครับเค้าเป็นทรายๆอ่ะ เหมือนเป็นทรายขัดผิว แต่ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองใช้ขัดตัวแล้วไม่หยาบ ไม่สากอย่างที่คิด คือไม่เจ็บผิวเลย (ต้องกับผิวตัวนะ ใช้กับหน้าไม่รอดจ้า) รู้สึกว่าได้สครับจริงๆ ถึงจะไม่ชอบกลิ่นของขมิ้น แต่ว่าส่วนตัวคิดว่าถ้าเป็นสครับสำหรับขัดตัว มีขมิ้นด้วยจะช่วยให้ผิวผ่องขึ้นดี ส่วนตัวชอบมาก



6. ครูยุ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อหนืดๆ สีค่อนไปทางดำ เห็นบอกว่าเป็นมะขามสุกปั่นรวมไม่แยกกาก

กลิ่น : กลิ่นเหมือนมะขามเปียกปกติ ไม่หอมเท่าไหร่

ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้อิ๋วลองใช้กับหน้าแล้วแสบ หลังล้างหน้าก็มีปื้นแดงๆ เลยเอามาใช้ขัดตัว ใช้กับตัวไม่แสบมากค่ะ แต่เนื้อเค้าไม่ค่อยติดผิวอ่ะ 555 มันอยู่กลางๆระหว่างขัดตัวกับขัดหน้า 



อ่ะๆ รู้จักแต่ละแบรนด์ไปแล้วว่าเป็นยังไง

ต่อไปเรามาเทสเรื่องของความเป็นกรดกันเลยดีกว่าค่ะ 

ขออ้างอิงข้อมูลที่ได้มานะคะ

“ตามข้อกำหนด อ.ย. สำหรับ AHA:

สำหรับผู้บริโภค ใช้ได้ไม่เกิน 10% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.5

สำหรับแพทย์ ใช้ได้ไม่เกิน 30% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.0

ระดับ pH ที่เหมาะสม: สูตร AHA ควรจะมี pH ไม่เกิน 4.0 โดยหาก pH สูงกว่า 4.0 ประสิทธิภาพของ AHA จะลดต่ำลงมาก”

และนี่คือรูปที่อิ๋วเอามาเทสแต่ละแบรนด์นะคะ

ผลลัพธ์ก็เป็นตามภาพเลยค่ะ เดี๋ยวอิ๋วขออนุญาตสรุปเรียงตามความเป็นกรดจากมากไปน้อยสุดนะคะ


1. ครูยุ    pH 1-2

2. มะขามไพรไทย  pH 2

3. เขาค้อทะเลภู     pH 3

4. Wan-Makarm Repair Mask   pH 3-3.5

5. Anee kah      pH 3.5-4

6. See Scrub Mix Herbals      pH 6-7


จากที่สรุปได้นะคะ จะเห็นว่าตัวมาส์กมะขามที่เหมาะกับผิวของเราตามข้อมูลที่ได้มาว่าปลอดภัยกับผิวเรา คือ Anee kah และ See Scrub Mix Herbals แต่ตามที่กล่าวไปข้างต้น ตัว See Scrub Mix Herbals เนี้ย เค้าเป็นมาส์กสำหรับผิวกาย เพราะฉะนั้นจะหลุดออกจากลิสต์นี้ไปนะคะ กลายเป็น Anee kah มาแรงแซงทางโค้งไปจ้า

ต่อไปหลังจากเทสแล้ว อิ๋วจะเอาข้อมูลความเป็นกรดที่เทสได้ และความรู้สึกที่ได้ใช้มาส์กแต่ละตัวมาสรุปกันนะคะว่าอิ๋วจัดอันดับความชอบยังไงกันบ้าง


  1. Anee kah แบรนด์นี้ราคาสูงอยู่ แต่ส่วนตัวเทียบกับคุณภาพอิ๋วว่าคุ้ม เพราะมีความเป็นกรดระดับที่ปลอดภัยและไม่ระคายเคืองผิวหน้า ที่สำคัญผลิตจากธรรมชาติแบบ 100% ด้วย และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดีค่ะ เนื้อดี กลิ่นดี ทุกอย่างดี อันนี้เลยยกเป็นอันดับ 1 ในใจตอนนี้เลย 

  2. เขาค้อทะเลภู ตกมาเป็นอันดับ 2 จริงๆทุกอย่างก็ดีแทบทั้งหมด ติดที่ เค้ามีความเป็นกรดมากเกินไปนิดนึง ถ้าเอามาใช้บ่อยๆ หน้าอาจจะบางหรือระคายเคืองได้ แต่เท่าที่ใช้ตอนนี้ ยังไม่มีอาการอะไรค่ะ

  3. Wan-Makarm Repair Mask ตัวนี้เป็นตัวที่อิ๋วใช้แล้วไม่แสบหน้ามากเท่าไหร่ จะมีแค่บริเวณช่วงปีกจมูก และที่บางๆค่ะ ก็จะมาส์กนานไม่ได้ และตัวนี้เค้ามีส่วนผสมของขมิ้น ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นขมิ้น เลยตกมาเป็นอันดับ 3 ค่า


ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กระทู้ยาวมากๆๆ สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ

หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะคะ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

ไว้ครั้งหน้า อิ๋วมีไอเดียดีๆอะไร เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

สวัสดีค่ะ


AadiiwAiew

AadiiwAiew

สวัสดีค่ะ อิ๋วเอง
♥เป็นผู้หญิงผิวสองสี
♥รักการแต่งหน้า
♥ชอบบอกต่อผลิตภัณฑ์ดีๆ

FULL PROFILE