รีวิว Giorgio Armani สวยหรูดูแพง แบรนด์สีแดงที่ใครๆหลายคนยังไม่รู้จัก

17 7

             สวัสดีค่าา วันนี้กลับมาพบกับเราอีกตามเคย วันนี้จะมารีวิวเเบรนด์ในดวงใจ จะบอกว่าเป็นรักเเรกเลยก็ว่าได้เพราะตอนนั้นได้มีโอกาสไปต่างประเทศเเล้วเดินเที่ยวเล่นตามสไตล์คนชอบเที่ยวเเล้วได้สะดุดตากับเเบรนด์นี้ Giorgio Armani เเบรนด์ที่มาพร้อมสีเเดงสดสะกดสายตาเราเเบบนี้ ยิ่งต้องเข้าไปดู ดูไปดูมาก็ได้ติดไม้ติดมือมาหลายเเสนค่ะ(เเสนสาหัส5555) เเล้วพอกลับมาไทยก็รู้สึกว่าอยากให้เเบรนด์นี้มาเปิดที่ไทย คือรอทุกวี่ทุกวัน (ฉันรอเก่งนะ มาเปิดเถอะ อยากเสียเงิน) บางทีรอไม่ไหวก็ต้องฝากพรีฝากหิ้วซึ่งราคาก็โดนบวกไปเยอะอีก ไม่ได้เทสเฉดสีอีก รอก็นานเเรมปี จนกระทั่งเค้ามาเปิดสาขาที่เซนลาด คือต้องบอกก่อนเลยว่าพอรู้ข่าวก็รีบไปเลยค่ะ อดใจไม่ไหวลากคุณเเม่ไปด้วย เทสสีกันเพลินเลยค่ะ อย่างครั้งนี้ก็ได้มาเป็นเซตเลยทีเดียวทั้งคุชชั่น รองพื้น ลิป เเละน้ำหอม ของมันต้องมีจริงๆค่ะ ลองไปดูกันดีกว่าว่าที่ซื้อๆมาเนี่ยเค้าดีอย่างไรบ้าง

              ตัวเเรกอยากนำเสนอที่สุด คือ Giorgio Armani My Armani To Go Cushion SPF23 คุชชั่นหน้าตาล้ำยุคล้ำสมัยมาก อลังการล้านเเปดเลยทีเดียว เเถมมีมาให้เลือกถึง 6 เฉดสี มีตั้งเเต่ผิวอมเหลืองไปถึงอมชมพู คัดมาเเล้วว่าเหมาะกับคนไทย เอาจริงๆไม่คิดไม่ฝันว่าเเบรนด์นี้จะทำคุชชั่นออกมาด้วยซ้ำเเต่พอทำออกมาเเล้วกลับทำให้เป็นที่กล่าวขานเลยทีเดียว มาดูกันที่เเพคเกจจะเป็นทรง (เกือบๆ) กลม ไม่ได้กลมเป็นก้อนๆหรือเหลี่ยมจนดูเเข็งๆ ถึงบอกไงว่าเค้าล้ำจริง 5555 ขนาดอาจจะใหญ่ไปหน่อยถ้าเทียบกับตัวอื่นๆเเต่ก็ยังพกสวยๆไว้อวดชาวบ้านได้อยู่ ถือเเล้วรู้สึกพราวด์มาก ตัวพัฟก็เป็นทรงหยดน้ำที่คิดค้นมาเพื่อให้เราเข้าตามซอกมุมได้เป็นอย่างดีเนื้อคุชชั่นให้มาเยอะมาก กดไปทีก็ฉ่ำออกมาเลย มีเเผ่นกักเก็บคุชชั่นด้วย ชอบมากๆอ่ะ พูดถึงเเพคเกจกันไปเเล้วก็อยากจะพูดถึงประสิทธิภาพกันบ้าง
            ตัวนี้ตอนทาให้ความรู้สึกเนียนซึมเข้าหน้าเราไปเลย เซตตัวไว ฉ่ำวาว คุมมันระดับปานกลาง เเล้วอาร์มานี่ยังใช้เทคโนโลยี Smart Pigment เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของArmaniเลยคือจะปรับให้รองพื้นสามารถเข้ากับสีผิวของหน้าเรามากขึ้นรวมถึงจะปรับให้ดูกระจ่างใสด้วย ที่สำคัญคือไม่เป็นคราบ สำหรับคนที่มีรอยสิวเเนะนำให้ลงคุชชั่นอีกซักรอบสองรอบหรือเน้นตรงเเค่บริเวณที่เป็นสิวก็ได้ ไม่ต้องพึ่งคอลซิลเลอร์ ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่ ถือว่าปกปิดได้ดีเเละยังคงความเบาสบายของหน้าได้อยู่
เเนะนำอีกอย่างคือเราสามารถใช้ Setting Spary ฉีดเพื่อเพิ่มความติดทนมากขึ้น สาวๆที่กำลังหาคุชชั่นดีๆ กึ่งฉ่ำเเละมีกำลังทรัพย์ควรมาสอยไปซักอัน

              ตัวที่สองรองพื้น Maestro fusion makeup maquillage fusion ตัวนี้บล็อกเกอร์ต่างประเทศพูดถึงกันเยอะมากกก จนเราต้องซื้อมาลอง ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง คือตัวเเพคเกจเค้าเรียบหรูเเละทำออกมาเป็นเเบบดรอปเปอร์ บีบๆและหยด หน้าตาเหมือนเซรั่ม เเต่จะมาทำรองพื้นเเบบนี้ได้ต้องบอกเลยว่าเนื้อรองพื้นต้องละเอียดจริงๆไม่งั้นทำเเบบนี้ไม่ได้นะคะ ขวดเป็นเเก้วเเข็งเเรงทนทาน ทำตกเเล้วไม่เเตกเเน่ๆ ฝาสีดำและขวดเป็นทรงกลมใช้งานง่าย ส่วนความรู้สึกตอนทา จะบอกว่าเนื้อเบาบางมากกกก พอทาเเล้วมันซึมเข้าหน้าไปเลย ไม่หนักหน้ารู้สึกว่าทาเหมือนไม่ทาอ่ะ เเล้วเราก็เป็นคนที่หน้าค่อนไปทางใสอยู่เเล้วเลยต้องการได้รองพื้นเเบบโชว์งานผิว ซึ่งตัวนี้ถูกจริตเลยทีเดียว เนื้อรองพื้นเค้าเป็นเเบบกำมะหยี่เเอบมีความเเมทท์ๆ เราทาไปติดทนตลอดทั้งวันนะคุมมันด้วย เเต่อยากจะบอกว่าถ้าคนที่หน้ามันมากๆเเนะนำให้เติมบ้างหรือเซตเเป้งฝุ่นซักหน่อยผิวจะสวย ส่วนเรื่องการปกปิดปิดได้ระดับนึง ก็ถือดีอยู่

             มาต่อกันด้วย Lip Maestro ถือเป็นอีกไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวๆ ที่เราเลือกมาวันนี้คือเบอร์ #400 สีนี้ถือว่าเป็น Signatureของเเบรนด์นี้เลย เเดงสดฉบับArmani มาในเเพคเกจเป็นทรงยาวปราดเปรียว เป็นเเบบจิ้มจุ่ม ตัวหลอดจะเห็นสีลิปชัดเจน ดีไซน์เรียบหรู แปรงเป็นทรงหัวตัดเเหลมๆทำให้เราสามารถวาดขอบปากได้ง่าย หัวแปรงนุ่ม เริศมากๆ ส่วนเนื้อลิปบอกเลยว่าต้องโดน เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มมากๆ ทาเเล้วไม่เป็นร่องและที่สำคัญคือไม่เป็นคราบ เม็ดสีชัดระดับ4K เนื้อลิปฟีลลิ่งกำมะหยี่ เรื่องติดทนก็ยกให้เลยค่ะถึงจะมีต้องเติมบ้างระหว่างวันบ้างเเต่ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นคือเริศ ใครที่ปากคล้ำตัวนี้ช่วยได้เยอะเพราะกลบสีปากได้มิด นี่เรายังอยากจะไปซื้อเบอร์#200มาลองเลยเห็นพี่ๆเค้ารีวิวกัน น่าใช้มาก

             มาถึงตัวสุดท้าย น้ำหอม Si Passione แพคเกจเป็นทรงเหลี่ยม วัสดุทำจากขวดแก้ว ฝาสีดำเป็นทรงหยดน้ำและทวีพลังแรงแห่งสีแดงสดด้วยเทคนิคการเคลือบเงาสีจากด้านในสำหรับเราน้ำหอมนี้ทำให้รู้สึกว่ามีเสน่ห์เเละสดใสในเวลาเดียวกัน เหมือนจะเย้ายวนเเต่ก็กลับคงความสดใสเเละสดชื่อไว้ เหมือนคำกล่าวที่ว่า 'มันเป็นน้ำหอมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของความสง่างาม, ความเข้มเเข็งเเละจิตวิญญาณ' เข้ากับลุคผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง ดีงามจริงๆค่ะกลิ่นนี้ สามารถฉีดในเมืองไทยได้เลยไม่ต้องกลัวฉุน สามารถฉีดแล้วเดินไปเฉิดฉายได้จริงๆค่ะ ถ้าทาลิปเเล้วต้องฉีดน้ำหอมด้วยรับรองผู้ติดตรึมมม55555 

สรุปโดยรวม (มาให้คะเเนนกัน)
     •คุชชั่น : ชอบรูปทรงการออกเเบบมากๆ แปลกใหม่ให้ความฉ่ำวาว เผยผิวธรรมชาติ ติดทนเกือบทั้งวัน ตัวนี้คือคุ้ม สำหรับเรารวมๆเเล้วให้9/10
     •รองพื้น : ชอบที่เนื้อเค้าบางๆ เพราะเราค่อนข้างหน้าใสเป็นทุนเดิมเลยต้องการโชว์งานผิวมากกว่า เป็นรองพื้นที่เซตตัวไว ซึมเข้ากับหน้าไปเลย ผ่านไปหลายชม.ยังเอาอยู่ สำหรับเรา 8.5/10
     •ลิป : เเพคเกจยังไม่สะดุดตาเท่าสีลิป ยอมเค้าเลยค่ะเพราะสีSignatureนี้เค้าเด่นจริงๆ สมเเล้วที่เป็นเเบรนด์Hi-endเนื้อลิปทาเเล้วเนียนไม่เป็นร่อง ติดทน เม็ดสีคมชัด เนื้อเเมทท์กำมะหยี่ เราให้ 9/10
     •น้ำหอม : สำหรับเราน้ำหอมก็ตามอย่างที่บอกไปเลยคือมันต้องจินตนาการเองอ่าไม่สามารถถ่ายอะไรให้ดูได้ มันต้องดมอ่า5555 เป็นน้ำหอมที่มีเสน่ห์เเละทรงคุณค่าอย่างบอกไม่ถูก ฉีดเเล้วดูเเพงอ่ะพูดง่ายๆ เราว่าน้ำหอมรุ่นนี้เหมาะตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงานได้เลย ด้วยกลิ่นที่ไม่หนักจนเกินไป เราให้ 8.5/10 

            อ่านกันมาถึงตรงนี้ก็ยาวมากๆเลยงื้อออ ก่อนจะจากกันไปคืออยากจะบอกว่าไม่ควรพลาดที่จะเสียเงินให้เเบรนด์ Giorgio Armani จริงๆอ่ะ เป็นการจ่ายหนักof the yearเลย ชอบเเพคเกจเป็นที่สุด มันมีความเซ็กซี่ด้วยการใช้สีเเดงสดเเละสีดำเพื่อความน่าค้นหาอ่ะ มองเเล้วต้องเดินเข้าไปซื้อจริงๆนะ สุดท้ายนี้ถ้าเราเขียนผิดไปบ้างก็ขอโทษเพื่อนๆด้วยน้าา เเต่อย่าพึ่งเลิกติดตามกันไป ไว้มาเจอกันอีก วันนี้ลากันเพียงเท่านี้ จุ๊บบบ


Nilaphat

Nilaphat

M e *

FULL PROFILE