✦✦✦ (รีวิว) ที่สุดของคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย…ใช้หมดแล้ว ซื้อต่อดีมั้ยนะ? ✦✦✦

19 9

   สภาพผิว : ผิวผสมค่อนไปทางมัน , acne prone, sensitive skin (แหล่งรวมปัญหาผิวชัดๆ ฮื้อ) มีรูขุมขนค่อนข้างกว้างและมีรอยดำรอยแดงประปราย ตอนนี้มีปัญหาสิวอักเสบ แต่ไม่ค่อยมีปัญหาสิวอุดตันค่ะ

   

 ✦✦✦ หมวดสกินแคร์ ✦✦✦

1.Tony Moly Intense Care Calactomyces Life Essence 96.5% ราคา 550 บาท (ซื้อจาก Konvy)

     มีความอยากได้น้ำตบตัวนี้มานานมาก เพราะเคยไปอ่านรีวิวมาแล้วเค้าบอกว่าใช้แทน SKII ได้ (ซึ่งเราแพ้ SKII) ซึ่งหลังจากใช้จนใกล้หมดแล้วก็ไม่เกิดผลอะไรที่ทำให้รู้สึกว้าวเป็นพิเศษ ผิวไม่เนียนละเอียด รูขุมขนไม่เล็กลง หน้าไม่กระจ่างใสดั่งคำเคลมใดๆ ทั้งสิ้น  (หรืออาจต้องใช้ 2 ขวดขึ้นไป?) สรุปได้ว่า เป็นน้ำตบที่แสนอ่อนโยนที่เอาไว้ตบกันตาย เอาไว้ตบพอให้รู้ว่า เออ วันนี้ชั้นใช้น้ำตบแล้วนะ

    จะซื้อต่อมั้ย :  คงต้องขอคิดดูก่อนค่ะ เพราะตอนนี้เรากำลังเล็งๆ น้ำตบของ MISSHA เอาไว้อยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะซื้อต่ออยู่ เพราะว่ามันเป็นน้ำตบสิ้นคิดสำหรับเรา เหมือนกับการที่เดินไปในร้านอาหารตามสั่งแล้วคิดอะไรไม่ออก นอกจากสั่งข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว

2.Centella Blemish Ampule COSRX ราคา 850 บาท (ซื้อจากร้าน Becos)

    ขอสารภาพตรงนี้เลยว่า เราเป็นสาวกตัวยงของ COSRX ค่ะ พอเห็นว่าเซรั่มใบบัวบกตัวนี้ ตีตราประทับ COSRX ตัวโตๆ เราก็หยิบขึ้นมาทันทีโดยไม่คิดอะไรมาก ซึ่งหลังจากที่ใช้จนใกล้หมดแล้วนั้น ผลลัพธ์ของมันก็อะไรที่ไม่คิดมากดีค่ะ คือใช้แล้วไม่ได้เกิดผลอะไรเลย (ฮ่า)  

   โดยก่อนหน้านี้เราเคยใช้ Its Skin propolis ค่ะ ส่วนตัวแล้วเรายังชอบเซรั่มของ COSRX มากกว่า เพราะความเบาบางของเนื้อเซรั่ม แม้ว่ามันจะมีคุณสมบัติเป็นเซรั่มกันตายก็ตาม

   จะซื้อต่อมั้ย : โบกมือบ๊ายบายไปเลยค่ะ แต่มีความเป็นไปได้ที่เราจะไปลองตัว Propolis light ampule ของ COSRX นะ

 

    3.Vitara aloe vera plus panthenol 5%  ราคา 17x-18x บาท (ซื้อจากร้านขายยาแถวศิริราช)

    จำได้ว่าซื้อเจลตัวนี้มาในช่วงที่เราไปเลเซอร์สิวอุดตัน เพราะเห็นว่าไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีสีและบลาๆ  เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับผิว sensitive ดี จนตอนนี้ใช้หมดละ ก็รู้สึกว่าดี ไม่แพ้ แต่ติตรงที่ว่าเราต้องทาเจ้าตัวนี้เดี่ยวๆ เพราะทาร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น (ex. La roche posay etc.) ทีไร มันจะเกิดการ ball up ตลอดเลย

   จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อนะ คงจะซื้อตลอดแหละ รู้สึกเป็นเจลสามัญประจำบ้านดี

   4.Burnova Gel Plus ราคา 65 บาท (ซื้อจาก Tops)

 

    คำเคลมตัวนี้ค่อนข้างเหมือนตัว Vitara ข้างบน ซึ่งก็ดี น่าจะเหมาะกับผิวขี้แพ้แบบเราดี เลยหยิบมาแบบไม่คิดอะไร ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบ Burnova มากกว่า Vitara เพราะมันไม่ Ball up แม้ว่าเวลาทาแล้วมันจะหนืดๆ หนึบๆ ผิวก็ตาม  ที่สำคัญคือกลิ่นเค้าดีมาก ไม่หอมไม่เหม็น แตกต่างจากเจ้าตัว Aloegel ขององค์การเภสัชที่กลิ่นแย่มาก ใช้ไปครั้งสองครั้ง เราทิ้งเลย

 

    จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อนะ เหมือนเป็นเจลสามัญประจำบ้านอีกตัวและคาดว่าคงได้เวลาขยับขยายไปซื้อหลอดใหญ่

    5.La Roche-Posay Effaclar K(+) ราคา 550 บาท (ซื้อวัตสัน)

    เจ้าตัวนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตันที่เกิดจากรูขุมขน  เหมาะกับผิวมัน ส่วนตัวเราใช้คุณลาโรช-เค ในช่วงที่รู้สึกว่ามีสิวฝังใน ผิวไม่เรียบเนียน ค่ะ โดยช่วงที่ใช้นั้นจะเกิดอาการแอบคันหน้ายิบๆ เลยทีเดียว ใช้ไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง สิวจะค่อยๆ ปูดและโผล่ออกมาให้เป็นที่หน้าชอกช้ำใจเล่น สำหรับเราแล้ว คุณลาโรช-เคเค้ามีคุณสมบัติเป็นครีมสิวสามัญประจำบ้านค่ะ จะพยายามซื้อตุนตลอด

    จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อค่ะ ถึงจะมีช่วงที่นอกใจบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ต้องกลับมาตายรังตลอด

     6.La Roche-Posay Effaclar DUO(+) ราคา 550 บาท (ซื้อวัตสัน)

     ส่วนตัวเรามองว่าคุณลาโรช-ดูโอ ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยแตกต่างจากคุณเคเท่าไหร่นะคะ แต่อาจจะเพิ่มในเรื่องของการลดรอยแดงๆบวมๆของสิว คือเหมาะกับผิวที่เป็นทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน  โดยเราจะชอบทาลาโรช-ดูโอลงบนสิวอักเสบที่กำลังจะมีแปรสภาพไปเป็นรอยแดง (ปัญหาโลกแตกมาก รอยแดงเนี่ย) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้น ทำให้เราพึงพอใจมากค่ะ รู้สึกว่าสิวบวมๆแดงๆ หายเร็วกว่าปกติ

     จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อค่ะ จะซื้อจนกว่าเค้าจะเลิกผลิตนั่นแหละค่ะ

     7.Mederma intense gel 10g  ราคา 300 บาท (ซื้อแถวศิริราช)

     ถ้าจะบอกว่า Mederma เป็นเจลรักษารอยแดงรอยดำ (เกิดใหม่) ที่เทพที่สุดเท่าที่เราเคยใช้มา จะหาว่าเวอร์ไปมั้ยนะ? 55555 คือมันดีมากจริงค่ะคุณ ทำให้รอยเกิดใหม่จางลงได้ (แต่รอยดำเก่ายังอยู่ครบถ้วน สงสัยต้องพึ่งพี่คีลส์) เมื่อก่อนเราใช้แต่ Hiruscar post acne หลอดขาวมาตลอด ใช้มาได้สามสี่หลอด ถึงค่อยเปลี่ยนมาลองใช้เมเดอร์ม่า …คือแบบ แทบอยากเคาะกะโหลกตัวเองที่ทนใช้ Hiruscar มาได้ไงตั้งหลายหลอด

     จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อค่ะ ถึงเธอจะแพงแค่ไหน แต่เราก็จะสู้

     8.Smooth E หลอดเขียว ราคา 89 บาท (ซื้อแถวศิริราช)

     ตัวนี้เราใช้ทาทั้งหน้าแล้วสิวขึ้นค่ะ 5555555 พอหลังๆ มานี้รู้วิธีใช้ละ คือเราจะเอาไปป้ายเฉพาะจุดแล้วเอาสก๊อตเทปสำหรับใช้กับแผลมาปิดทับครีมตรงจุดที่เราทา แล้วนอนโดยที่มีสก๊อตเทปแปะหน้านี่แหละค่ะ 555555 แต่ทำเป็นเล่นไป เราเคยแกะสิวจนเกือบได้ Hypertrophic scars (แผลเป็นนูน) มาประดับบนหน้าแล้วนะคะ (คิดดูว่าเราแกะโหดแค่ไหน) แล้วช่วงนั้นด้วยความจิตตก ก็เลยพอกสมูธอีตรงแผลเป็นแล้วเอาสก๊อตเทปแปะทับ ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเดือนๆ จนหายไปเลยค่ะ คือบอกเลยว่า งงมาก ไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนี้

      จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อค่ะ เป็นอีกตัวที่ตั้งใจว่าจะซื้อจนกว่าเขาจะเลิกผลิต

    9.Paula’s Choice Clear Anti-Redness Exfoliating Solution 2% Salicylic Acid Blemish-Prone Skin Regular Strength ราคา 1xxx บาท (ซื้อที่อีฟแอนด์บอย)

    เป็นสกินแคร์ของป้าพอลล่าตัวแรกที่เราซื้อเลยค่ะ (ใช้นานมาก กว่าจะหมด) และเป็นตัวที่เราลังเลมากว่าควรจะซื้อใช้ดีมั้ย หรือควรจะไปซื้อตัว BHA ตัวดังดีนะ? แต่ด้วยความที่กลัวว่าหน้าจะแหกเลยหยิบเอาตัวนี้มา เพราะคิดว่าไม่น่าจะรุนแรงอะไรมาก ทั้งที่จริงแล้ว BHA กับเจ้าตัวนี้มันให้เอฟเฟคที่ต่างกันอยู่นะ

    …อย่างตัวนี้ เค้าเคลมว่า ช่วยป้องกันการเกิด Break outs คือเหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวเยอะๆ แล้วก็ช่วยทำให้รอยแดงจางลง (fades red marks) แล้วที่สำคัญเลย ย้ำว่าเป็นสิ่งที่เราชอบมากก็คือมัน “unclogs & minimize enlarged pores” คือมันช่วยเกี่ยวกับรูขุมขน ทำให้ไม่อุดตันและช่วยลดขนาดรูให้เล็กลงได้ ซึ่งส่วนตัวใช้มาก็พบว่า  มันไม่ได้ช่วยอะไรขนาดนั้น 555555 แต่เข้าใจฟีลที่ว่าเค้าเคลมมาดีม่ะ แล้วพอเราใช้ เราก็แบบเอ๊อ…เราก็ชอบนะ  ถึงมันจะไม่ช่วยอะไรมากแต่มันดีอ่ะ บอกไม่ถูกว่ามันดียังไง แต่รู้สึกชอบมาก เป็นลูกรัก อาจจะเพราะด้วยฟีลตอนใช้ด้วยแหละ คือเนื้อสัมผัสมันดี เป็นเนื้อน้ำ เบา สบายหน้า ไม่แสบยิบ (ยกเว้นโปะลงบนสิว) ไม่ช่วยเรื่องรูขุมขนก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจได้ เราไปเลเซอร์รูเอาก็ได้นะ 55555

    จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อต่อค่ะ ชอบอ่ะ แต่ชอบเพราะอะไรเรายังไม่รู้เลย 55555 แต่รู้สึกได้นะว่ามีความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตรงไหน  (ตลกตัวเอง555) อาจจะรอให้หน้าแข็งแรงกว่านี้อีกนิด คิดว่าจะซื้อแบบ extra strength มาลองใช้ดู

✦✦✦ หมวดสกินแคร์ ✦✦✦

   1.Smooth E CC Cream SPF 25 PA++ (ได้จาก Jeban)

    เป็นซีซีครีมที่เราขอเรียกว่า “ลูกรักลูกชัง” ค่ะ

    สาเหตุที่เป็นลูกรักก็คือ ซีซีครีมตัวนี้เค้าเนื้อดี เกลี่ยง่าย (แต่อาจจะแห้งไว้หน่อย ต้องใช้สปีดในการเกลี่ย) และเคลมว่าเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว และช่วยรักษารอยแดงดำบลาๆ (ซึ่งเราจะไม่คาดหวังตรงนี้มากนะคะ) แต่ส่วนตัวที่ชอบคือ วันไหนที่ใช้แล้วรู้สึกหน้าไบรท์ หน้าดี (ดีจนเพื่อนทัก) รู้สึกสวยขึ้นมาทันที ส่วนสาเหตุที่เป็นลูกชังก็คือ เจ้าซีซีตัวนี้มีส่วนผสมของ ซิลิโคนหลายตัวมาก! (ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกลี่ยดี)

   ก่อนอื่น ต้องอธิบายก่อนว่า เราติดตาม Channel ของ Eddieinseoul โดยคุณเอ็ดดี้ได้มาอธิบายถึงส่วนผสมต่างๆ ที่คนผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่ายควรหลีกเลี่ยง (หาดูได้ในคลิป How to take care of Sensitive Acne Prone Skin Correctly)

     

    แน่นอนว่าส่วนผสมจำพวกซิลิโคนก็ติดอยูในลิสต์ที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย ซึ่งซิลิโคนจะทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ค่อนข้างง่ายมาก ดังนั้นจึงต้องล้างทำความสะอาดให้ดี นอกจากนี้คุณเอ็ดดี้ยังแนะนำด้วยว่า ถ้ามีซิลิโคนเป็นส่วนผสมที่ติดอยู่ลำดับต้นๆ (Top 5) ของผลิตภัณฑ์ ให้พยายามหลีกเลี่ยงไว้จะดีกว่า โดยในข้อนี้ เราค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณเอ็ดดี้ค่ะ เพราะเราเคยใช้ดีดีครีมตัวหนึ่งแล้วพบว่ามันอุดตัวผิวมากมาย ถึงแม้จะเคลมว่าไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอล ไม่มีพาราเบนก็ตาม แต่ซิลิโคนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้นะคะ  

    จะซื้อต่อมั้ย : โบกมือลาค่ะ เราเชื่อมั่นในคุณเอ็ดดี้

 2.BK Acne Concealer  #03 9g. ราคา 389 บาท (ซื้อจาก Konvy)

   เป็นคอนซีลเลอร์ที่ดีงามตัวหนึ่ง ถึงแม้ว่าในหลอดจะมีพื้นที่ของลมประมาณครึ่งหนึ่งก็ตาม (ฮ่า)

   สำหรับสิ่งที่ชอบในน้องคอนตัวนี้คือ เนื้อค่อนข้างลื่น เกลี่ยง่ายพอสมควร และปกปิดได้ดีในระดับหนึ่ง (และหลุดง่ายในระดับหนึ่งเช่นเดียวกัน) ซึ่งสำหรับเบอร์ #03 ที่เราใช้นั้นจะค่อนข้างเข้มกว่าผิวจริงของเราพอสมควร แต่ทั้งนี้เพราะเราซื้อใช้ปิดรอยอารยธรรมเมโสโปเตเมียทั้งหลายแหล่

 จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อแน่นอนค่ะ ถึงแม้มันจะอยู่ไม่ทน แต่เราก็จะซื้อค่ะ

 3.NYX HD studio photogenic Concealer เบอร์ CW06.3 สี Fresh Beige ราคา 345 บาท (ซื้อจากอีฟแอนด์บอย)

   โยนเข้ากรุ “ถูกและดี” ไปเลยค่ะ เป็นคอนซีลเลอร์ที่ปิดดีพอสมควร เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เป็นขุย

(ไม่แน่ใจว่าตกร่องมั้ย เพราะเราไม่เอามาปิดใต้ตาเลย) เหมาะแก่การนำมาปิดรอยดำที่สุด (รอยแดงอาจยังไม่เนียนเท่าไหร่ ตัว BK เนียนกว่าเยอะ) ที่สำคัญคือมีสีให้เลือกเยอะมาก สีที่อ่อนกว่าเอามาทำไฮไลท์ได้ สีเข้มกว่าเอามาทำคอนทัวร์ได้ และยังมีน้องคอนสีม่วง สีเหลืองที่คุณสมบัติของการเป็น Corrector ตรงจุดที่สีมันเพี้ยนๆ ได้อีกด้วย ดีงามสามผ่านไปเลยค่ะ

จะซื้อต่อมั้ย : ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

        สกินแคร์และเครื่องสำอางที่เรานำมารีวิว เป็นของที่เราใช้หมดและใช้เกือบหมดแล้วนะคะ แล้วที่สำคัญก็คือ เราซื้อเองทั้งหมด เป็น cr ไม่ใช่ sr นะคะ ซึ่งหลังจากผ่านการทดลองใช้มาเนิ่นนาน เราเลยตัดสินใจเขียนรีวิวนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยให้คนที่มีปัญหาผิวแบบเราตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และบางอย่างบางตัว อาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับทุกคน เพราะฉะนั้น กรุณาใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อนะคะ

      เจอกันกระทู้ถัดไปค่ะ :D 


katcaramel

katcaramel

1994, Ordinary girl <3

FULL PROFILE