Review : Max Factor รองพื้นยี่ห้อดัง(ในตำนาน)จากฝั่งอังกฤษ

15 5

มีใครรู้จัก "Max Factor" บ้างมั้ย?????เชื่อว่าหลายคนคงแบบ มันคือไรวะ? รายการแข่งขันร้องเพลงงี้หรอ? นั่น X-Factor มั้ย!...(กลอกตาวนไป 3 รอบค่ะ! 55555)"Max Factor" เป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากฝั่งอังกฤษค่ะ ถือกำเนิดมานานมากตั้งแต่ยุคฮอลลีวู้ดเริ่มต้นแบบยังเป็นฟิล์มขาวดำอยู่เลย งั้นก็แสดงว่ามีมาตั้งแต่รุ่นคุณย่าคุณยายเลยทีเดียวแบรนด์นี้จะเป็นเมคอัพในไลน์ของ drug store ประมาณ Maybelline New York, Revlon, L'oreal Paris ระดับราคาใกล้เคียงกัน ซื้อง่ายขายคล่องอ้าว! แล้วทำไมมันไม่ฮอตฮิตในเมืองไทยเลยหว่า?อันนี้ทางเราไม่แน่ใจนะฮะ รบกวนสอบถามทาง P&G ประเทศไทยเองจะดีกว่า :)จริงๆแล้ว "Max Factor" เค้ามีสินค้าหลายตัวที่น่าลองอยู่เหมือนกันนะคะ แต่วันนี้ออยขอนำเสนอรองพื้น ที่ทางแบรนด์เค้าเคลมว่าเป็นรองพื้นสูตร 3 in 1 มีส่วนผสมของ Primer, Concealer และ Foundation แถมมีกันแดด SPF 20 มาให้จบในขวดเดียว .......... ไปพิสูจน์กันดีกว่าว่าสภาพจะออกมาเป็นยังไง?

รองพื้นตัวนี้ออยได้มาจากตอนไปเที่ยวเดนมาร์ก ซึ่งราคาที่ซื้อมาจะอยู่ที่ 149 Kr. (ประมาณ 745 บาทไทย) ซึ่งที่ยุโรปก็จะหาซื้อได้ทั่วไปเลยค่ะ คือตอนนั้นออยไม่ได้พกรองพื้นไปเลยสักขวดเพราะคิดว่ามาซื้อเอาที่นี่ง่ายกว่า สรุปไปหยิบอียี่ห้อนี้มาแบบงงๆสำหรับสีที่ออยใช้จะเป็นเบอร์เข้มสุดที่มี ณ เคาน์เตอร์ตอนนั้นเลยค่ะคือ Bronze 80 มีสีให้เลือกค่อนข้างน้อยเหมือนกัน คาดว่าสาวยุโรปอาจจะไม่มีสีผิวที่เข้มไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง 555 เลยมีสุดแค่เบอร์นี้จริงๆ

ลักษณะของเนื้อรองพื้นที่กดออกมาจะเป็นเนื้อครีมที่ไม่ได้เหลวเป็นน้ำ เกลี่ยง่ายปานกลาง ถ้าใช้นิ้วเกลี่ยจะมีความฝืดเบาๆ แต่ก็ไม่ฝืดเท่าเรฟล่อน จะได้ผลดีกว่าเมื่อใช้คู่กับฟองน้ำ เนื้อรองพื้นค่อนข้างแมทต์เลยทีเดียว

ต้องบอกก่อนว่าพื้นผิวหน้าของออยจะมีริ้วรอย ซากแผลเป็นจากสิวเยอะพอสมควรนะคะ พอลงรองพื้นไปใหม่ๆมันจะดูหนาๆแป้งๆ ตามสไตล์รองพื้นเป็นเนื้อแมทต์ อย่างรีวิวรอบนี้ออยลงรองพื้นไปเพียงชั้นเดียว ไม่มีการลงคอนซีลเลอร์เพิ่มเติมเพื่อปกปิดสิวและรอยแผลเป็น จะลงแค่บริเวณใต้ตาเพื่อเพิ่มความสว่างเท่านั้น***ออยแต่งหน้าเสร็จตอน 11 โมงครึ่งนะคะ ระหว่างนี้ก็มีทำงานบ้าน ทำงานหน้าคอมพ์ไปปกติ

หลังจากที่แต่งหน้าเสร็จใหม่ๆจะเป็นตามรูปด้านบน อันนี้คือถ่ายจากแสงธรรมชาติล้วนๆ no filter ใดๆหลังจากนั้นออยก็ทิ้งช่วงไปจนถึงเย็นประมาณ 6 โมงเย็น ค่อยกลับมาเช็คหนังหน้าตัวเองอีกทีว่าไหลไปกับแดดหรือยัง?

ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นไปตามรูปเลยเจ้าค่าาาาา!!!ระหว่างวันมีซับหน้าไปหนึ่งรอบด้วยกระดาษซับมัน ไม่มีการเติมแป้งใดๆทั้งสิ้น นี่นั่งอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเนาะ รบกวนพิจารณาแสงแดดยอดหญ้าบ้านเรานิดนึง เดินออกไปตากผ้าทีนึกว่าใครยิงธนูไฟใส่!!!หน้าอาจจะมีความมันนิดนึงนะ แต่สีรองพื้นมันไม่ได้ดรอปลงเหมือนบางยี่ห้อที่ออยเคยใช้ การปกปิดถือว่าทำได้โอเคเลย อาจจะมีเลือนๆไปบ้างในบริเวณรอยแผลเป็นและจุดด่างดำ ถ้าลงคอนซีลเลอร์ช่วยอาจจะดีขึ้นอีกสักหน่อยออยลองใช้ตอนที่ผิวหน้าค่อนข้างแห้งเนื่องจากสภาพอากาศหนาว มันจะมีเป็นขุยๆบ้าง อันนี้ต้องหาตัวช่วยเป็นพวกมอยส์เจอร์ไรเซอร์และเซรั่มทาก่อนแต่งหน้านะคะ แต่พอเอาเจ้าตัวนี้กลับมาใช้ที่เมืองไทยภายใต้อุณหภูมิ 30+ องศาเซลเซียสนั้นถือว่าสอบผ่านนะคะ คนผิวหน้ามันแบบออยก็ใช้ได้ แต่คนที่มีผิวแห้งมากๆ อาจจะไม่เวิร์คสักเท่าไหร่ เพราะเวลาโดนแดดหน้ามันจะไม่ได้ฉ่ำวาวแบบลุคส์โกลวว์ๆเด้อ!ยี่ห้อนี้อาจจะหาซื้อยากในบ้านเราสักหน่อย แต่ถ้าใครเดินทางไปต่างประเทศและอยากลองแบรนด์ดรักส์สโตร์อื่นๆที่ราคาไม่แรงมาก ยี่ห้อนี้ออยแนะนำนะคะ  ลองหามาเล่นดู :)ไปละ ไว้เจอกันรีวิวต่อไปปปปปปปป.........

See you guys!FunkyOil


FunkyOil

FunkyOil

Crazy about makeup and cooking!

FULL PROFILE