เรื่องจริงเตือนภัยสาวนักช๊อปด้วยบัตรเดบิตค้า
MeLaNie 1 20
สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้มีเรื่องจริงของตัวเมย์เอง ที่เกิดจากการช็อปปิ้งแล้วจ่ายเงินด้วยบัตรเดบิตจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า วันนั้นเมย์มาออกงานอีเว้นท์กับทางบริษัทฯ เพื่อต้อนรับเสด็จฯ พระองค์โสม หลังจากงานเลิกเมย์ก็เดินช็อปปิ้งรอคุณแฟนจะมารับกลับบ้าน เมย์ก็ได้ไปซื้อเครื่องสำอางที่เคาท์เตอร์ลุงชู โดยที่ซื้อลิปสติกกับบลัชออน เป็นจำนวนเงิน 1,512 บาท (ลด10%) เมย์ก็จ่ายด้วยบัตรเดบิต แบบทุกครั้ง ก็ไม่ได้มีอะไรแปลก จากนั้นระหว่างทางที่เมย์จะกลับบ้านแถวพระโขนง เมย์ก็ไปแวะจัสโก้แถวบ้านเพื่อจะซื้อหนังสือและกดเงิน แต่พอเมย์จะกดเงินก็เช็คยอดเงินก่อน แต่ก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนเงินที่หายไปเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ควรจะเป็นคือ เงินควรจะหายไป 1,512 บาท แต่กลับหายไปเป็น 3,024 บาท เมย์ก็เริ่มตกใจแล้วว่าเงินมันหายไปไหนอีกประมาณ 1500 บาท ก็เลยมานั่งทบทวนว่าเราซื้ออะไรหรือกดเงินไปใช้อะไรบ้าง ก็สรุปว่าเราซื้อเครื่องสำอางที่ลุงชูที่เดียว ก็เลยรีบโทรไปที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เค้าต่อไปยังเคาท์เตอร์ลุงชูให้
ปรากฏว่า พี่บีเอของลุงชู ก็พูดว่าตอนที่รูดเงินนั้น พี่เค้ารูดไป 2 ครั้ง ครั้งแรกรูดที่เครื่องแคชเชียร์ตรงออริจิ้นท์ แต่เครื่องแจ้งว่ารูดไม่ได้ไม่ผ่าน เครื่องเสีย สลิปเงินไม่ออก พี่เค้าก็เลยไปรูดอีกเครื่องนึง มันผ่านสลิปเงินก็ออกมา 1 ใบ ตามปกติ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พี่เค้าก็บอกว่าให้เอาหลักฐานมายืนยัน ก็คือ สมุดเงินฝากธนาคารที่ปรับยอดเงินปัจจุบันแล้วพร้อมกับสลิปเงินที่จ่ายไป พอวันจันทร์เมย์ก็ลางานเพื่อที่จะไปจัดการเรื่องให้เสร็จสิ้น แต่พอเมย์ไปกลับกลายเป็นว่าเค้าขอแค่ชื่อ เบอร์ติดต่อกลับ และเลขที่สลิปที่จ่ายเงินแค่นั้น หลักฐานอย่างอื่นที่เค้าบอกไว้ก็ไม่ดู เราก็เลยปรี๊ดเลยค้า ว่าคุณทำไมไม่ขอชื่อกับเบอร์ ตั้งแต่วันที่เมย์โทรไปแจ้ง ถ้าเรื่องแค่นี้โทรมาบอกให้เมย์ส่งแฟ๊กซ์ไปก็ได้ ไปต้องลางานและไม่ต้องถ่อไปตั้งไกล บ้านเมย์ก็อยู่ตั้งพระโขนง ไกลมาก พนักงานแคชเชียร์กับพี่บีเอลุงชูก็ขอโทษเมย์ แต่มันก็รู้สึกว่านี่มันห้างใหญ่นะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าอีกละ ห้างคุณจะทำยังไง
สุดท้าย เมื่อวานหัวหน้าแคชเชียร์ก็โทรมาขอโทษและแจ้งว่ามันเป็นที่ความผิดของเครื่อง ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ธนาคารแล้ว จะดำเนินการคืนเงินให้ประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เมื่อสักพักนี่เองค่ะธนาคารโทรมาแจ้งเมย์ว่าต้องทำการประมาณ 30 วัน ถึงจะคืนเงินให้ได้ แต่ถ้ากรณีต้องการเงินเร่งด่วนจะทำการให้เร็วกว่านั้น
เมย์ก็ขอให้เรื่องนี้เกิดกับเมย์คนเดียวละกันนะค่ะสาวๆ เวลาใช้บัตรเดบิตอิเลคตรอนก็ต้องดูให้ดี ทางที่ดีใช้เงินสดจะปลอดภัยกว่าค่ะ
ขอบคุณที่ทนอ่านเรื่องของเมย์นะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน บาย ค้า
เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า วันนั้นเมย์มาออกงานอีเว้นท์กับทางบริษัทฯ เพื่อต้อนรับเสด็จฯ พระองค์โสม หลังจากงานเลิกเมย์ก็เดินช็อปปิ้งรอคุณแฟนจะมารับกลับบ้าน เมย์ก็ได้ไปซื้อเครื่องสำอางที่เคาท์เตอร์ลุงชู โดยที่ซื้อลิปสติกกับบลัชออน เป็นจำนวนเงิน 1,512 บาท (ลด10%) เมย์ก็จ่ายด้วยบัตรเดบิต แบบทุกครั้ง ก็ไม่ได้มีอะไรแปลก จากนั้นระหว่างทางที่เมย์จะกลับบ้านแถวพระโขนง เมย์ก็ไปแวะจัสโก้แถวบ้านเพื่อจะซื้อหนังสือและกดเงิน แต่พอเมย์จะกดเงินก็เช็คยอดเงินก่อน แต่ก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนเงินที่หายไปเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ควรจะเป็นคือ เงินควรจะหายไป 1,512 บาท แต่กลับหายไปเป็น 3,024 บาท เมย์ก็เริ่มตกใจแล้วว่าเงินมันหายไปไหนอีกประมาณ 1500 บาท ก็เลยมานั่งทบทวนว่าเราซื้ออะไรหรือกดเงินไปใช้อะไรบ้าง ก็สรุปว่าเราซื้อเครื่องสำอางที่ลุงชูที่เดียว ก็เลยรีบโทรไปที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เค้าต่อไปยังเคาท์เตอร์ลุงชูให้
ปรากฏว่า พี่บีเอของลุงชู ก็พูดว่าตอนที่รูดเงินนั้น พี่เค้ารูดไป 2 ครั้ง ครั้งแรกรูดที่เครื่องแคชเชียร์ตรงออริจิ้นท์ แต่เครื่องแจ้งว่ารูดไม่ได้ไม่ผ่าน เครื่องเสีย สลิปเงินไม่ออก พี่เค้าก็เลยไปรูดอีกเครื่องนึง มันผ่านสลิปเงินก็ออกมา 1 ใบ ตามปกติ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พี่เค้าก็บอกว่าให้เอาหลักฐานมายืนยัน ก็คือ สมุดเงินฝากธนาคารที่ปรับยอดเงินปัจจุบันแล้วพร้อมกับสลิปเงินที่จ่ายไป พอวันจันทร์เมย์ก็ลางานเพื่อที่จะไปจัดการเรื่องให้เสร็จสิ้น แต่พอเมย์ไปกลับกลายเป็นว่าเค้าขอแค่ชื่อ เบอร์ติดต่อกลับ และเลขที่สลิปที่จ่ายเงินแค่นั้น หลักฐานอย่างอื่นที่เค้าบอกไว้ก็ไม่ดู เราก็เลยปรี๊ดเลยค้า ว่าคุณทำไมไม่ขอชื่อกับเบอร์ ตั้งแต่วันที่เมย์โทรไปแจ้ง ถ้าเรื่องแค่นี้โทรมาบอกให้เมย์ส่งแฟ๊กซ์ไปก็ได้ ไปต้องลางานและไม่ต้องถ่อไปตั้งไกล บ้านเมย์ก็อยู่ตั้งพระโขนง ไกลมาก พนักงานแคชเชียร์กับพี่บีเอลุงชูก็ขอโทษเมย์ แต่มันก็รู้สึกว่านี่มันห้างใหญ่นะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าอีกละ ห้างคุณจะทำยังไง
สุดท้าย เมื่อวานหัวหน้าแคชเชียร์ก็โทรมาขอโทษและแจ้งว่ามันเป็นที่ความผิดของเครื่อง ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ธนาคารแล้ว จะดำเนินการคืนเงินให้ประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เมื่อสักพักนี่เองค่ะธนาคารโทรมาแจ้งเมย์ว่าต้องทำการประมาณ 30 วัน ถึงจะคืนเงินให้ได้ แต่ถ้ากรณีต้องการเงินเร่งด่วนจะทำการให้เร็วกว่านั้น
เมย์ก็ขอให้เรื่องนี้เกิดกับเมย์คนเดียวละกันนะค่ะสาวๆ เวลาใช้บัตรเดบิตอิเลคตรอนก็ต้องดูให้ดี ทางที่ดีใช้เงินสดจะปลอดภัยกว่าค่ะ
ขอบคุณที่ทนอ่านเรื่องของเมย์นะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน บาย ค้า