{Review} "Skincare Routine" สำหรับสาวผิวแห้งแพ้ง่าย by แพรว Let me in Thailand

26 11

รีวิว Skincare Routine สำหรับสาวผิวแห้งและแพ้ง่าย

     สวัสดีค่า แพรว ธัญวรรณ จากรายการ Let me in Thailand ss1 ep.2 นะคะ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของแพรวในจีบันค่ะ วันนี้จะมารีวิวและแชร์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่แพรวใช้เป็นประจำ ขอออกตัวก่อนเลยว่าสภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ของการใช้สกินแคร์แต่ละตัวก็อาจจะแตกต่างกันได้

" สภาพผิว: ผิวแห้งมาก แพ้ง่ายมาก "     แพรวเป็นคนผิวแห้งมากแล้วก็แพ้ง่ายมากๆด้วยค่ะ เลยจะไม่ค่อยเปลี่ยนสกินแคร์บ่อยๆ ชนิดที่ว่าเจอตัวไหนที่ดีก็จะใช้เป็นประจำเลยค่ะ ไม่กล้าเปลี่ยนไปลองอย่างอื่นเลย เพราะเคยลองแล้วแพ้เยอะมาก 

และนี่คือหน้าตาสมาชิกทั้งหมดของเราในวันนี้ค่ะ

เริ่มต้นที่  Cleansing นะคะ

1. Smooth E Extra Sensitive Makeup Cleansing Water     ตัวนี้เป็น Makeup Remover ที่ชอบมากกกกก ดูจากชื่อแบรนด์ก็รู้แล้วว่าทำมาเพื่อคนผิวแพ้ง่าย เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน(สารกันเสีย) แถมมีการทดลองแล้วว่าไม่ระคายเคืองต่อดวงตา แพรวก็เลยใช้เช็ดเครื่องสำอางทั้งหน้ารวมถึงตาและปากด้วย ปกติไม่ได้เป็นคนแต่งหน้าเยอะอยู่แล้ว เลยเช็ดแค่รอบสองรอบเมคอัพก็หลุดหมดแล้วค่ะ เป็นคลีนซิ่งที่แพรวชอบที่สุดเลยเพราะใช้แล้วไม่แพ้ แถมเช็ดเมคอัพออกสะอาดหมดจดด้วย อีกส่วนที่ชอบคือวิธีใช้ที่ง่ายและสะดวกมากๆ เพราะมีหัวปั๊มเหมือนพวกน้ำยาล้างเล็บ คือแค่กดสำลีลงไปตัวคลีนซิ่งก็จะถูกปั๊มขึ้นมาจนชุ่มเลย สะดวกมากจริงๆ แต่ขอติเรื่องแพ็คเกจนิดหน่อยเนอะ ไม่รู้ว่าเป็นเหมือนกันทุกขวดหรือเปล่า แต่ขวดที่ซื้อมานี่หัวปั๊มหลุดง่ายมากๆ เหมือนไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ค่ะ ตัวนี้ซื้อต่อแน่นอน มีหลายขนาด ขวดเล็กที่ขายในเซเว่นก็ไม่แพงด้วย คุณค่าที่คู่ควรจริงๆ

2. Purevivi Cleansing Lotion; Sensitive Skins     ตัวนี้ลองซื้อมาใช้ดูเพราะตอนนั้นวัตสันลดราคา จาก 490 บาท เหลือ 390 บาท เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำอีกเช่นกัน เห็นว่าเคลมเรื่องความอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีสารลดแรงตึงผิว ไม่มีน้ำหอม ไม่แต่งสี ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำมัน ตามชื่อแบรนด์เขาค่ะ Pureจริงๆ แพรวใช้เช็ดรอบสองรอบเมคอัพก็หลุดหมดแล้วนะ ยกเว้นพวกมาสคาร่า รู้สึกว่าต้องเช็ดซ้ำอีกหน่อย ส่วนตัวแล้วชอบนะเช็ดง่ายดี แถมไม่แพ้อีกต่างหาก อย่างที่บอกว่าเป็นคนแพ้ง่ายใช้อะไรก็แพ้ พอมาเจอตัวนี้ก็ค่อนข้างปลื้มค่ะ ขวดใหญ่ใช้ได้นานเลย

3. Smooth E Babyface gel; Extra Sensitive Cleansing Gel     ยังคงยึดมั่นกับแบรนด์นี้เสมอ ใช้คลีนซิ่งแล้วก็ต่อด้วยเจลล้างหน้าเลย ตัวนี้ก็เป็นลูกรักอีกตัวเพราะความอ่อนโยนของนาง อ่อนโยนขนาดที่ว่าตอนถูๆ หน้าอยู่ไม่รู้สึกว่ามีเจลอยู่บนหน้า (อันนี้ดีหรือไม่ดีไม่รู้5555) แต่พอล้างออกแล้วก็รู้สึกสะอาด ไม่แห้งตึง ที่สำคัญใช้แล้วไม่เคยแพ้ แถมสิวผดก็ลดลงด้วย บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะรู้สึกว่าล้างไม่สะอาด แต่สำหรับแพรวแค่ล้างแล้วรู้สึกไม่หนักหน้า ไม่ตึง ไม่แสบ ไม่แพ้ ไม่คัน ก็เป็นบุญมากๆ แล้ว เพราะหาเจลล้างหน้าใช้ยากมากกกกก แพ้ไปหมดทุกสิ่งอย่างแล้วแต่จะแพ้มากแพ้น้อย เจอตัวนี้ไปคงไม่หนีไปรักใครอีกแล้ว อิอิ

4. Cetaphil Gentle Skin Cleanser     ผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังตลอดกาลสำหรับผิวแพ้ง่าย ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าสีขุ่นๆ เห็นบอกว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กด้วย ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีสบู่ ตอนล้างก็มีความรู้สึกถึงเจลเมือกๆ บนหน้า ล้างออกมาแล้วผิวไม่แห้ง ไม่ตึง รู้สึกผิวลื่นๆ ด้วย ใช้มานานหลายขวดแล้วเหมือนกันค่ะ แต่แพรวจะใช้ตัวนี้สลับกับสมูทอีเจล แต่ในช่วงที่มีสิวหรือสิวผดมากๆ จะหยุดใช้ แล้วไปใช้แต่สมูทอีเจลตัวเดียว

5. น้ำเกลือ Klean&Kare     น้ำเกลือล้างแผลขวดเขียวๆ นี่เห็นเขาว่าดีก็เลยลองซื้อมาใช้บ้าง ส่วนตัวแล้วแพรวจะเอาไว้เช็ดหลังจากล้างหน้าวันที่อยู่บ้านไม่ได้แต่งหน้า ให้น้ำเกลือช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอีกทีแทนโทนเนอร์ เพราะเคยใช้โทนเนอร์แล้วแพ้หมดเลย แต่น้ำเกลือไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสิวอะไรนะ เป็นน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วสะอาดกว่าน้ำประปาเท่านั้นเอง

หมวดรักษาสิว รอยดำ รอยแดง

1. Handok

     สำหรับตัวนี้ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะที่เขียนชื่อให้ได้เท่านี้ เพราะเป็นยาแต้มสิวที่ได้มาจากโรงพยาบาลที่เกาหลี คุณหมอให้มาตอนที่ผิวหน้ามีอาการแพ้อะไรบางอย่างแล้วผดผื่นขึ้นทั่วหน้าเลยค่ะ เท่าที่ลองหาข้อมูลมามีตัวยาชนิดเดียวกับยาแต้มสิวที่รู้จักกันดี พวกคลินด้าเอ็ม ก็เลยคิดว่าสรรพคุณน่าจะคล้ายๆ กัน แพรวจะใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิวแดงๆ และสิวผดวันละ 2ครั้งหลังอาบน้ำเช้า-เย็นก่อนลงครีมบำรุงต่างๆ ใช้แล้วรู้สึกว่าสิวแดงๆ กับสิวผดยุบลงในเวลาไม่กี่วัน ที่ชอบคือมันไม่หมดสักที ใช้ได้ค่อนข้างนานพอสมควรเลย แต่กลิ่นนี่รู้เลยว่ามีแอลกอฮอล์ แต้มแถวๆ แก้ม บางทีระเหยเข้าตาบ้างก็มี 55555

2. Hiruscar & Hiruscar postacne

     มาถึงเจลลดรอยแผลเป็น รอยดำรอยแดงจากสิวกันบ้าง ปกติจะใช้สองตัวนี้คู่กับสมูทอีครีม รอยสิว รอยแผลเป็นต่างๆ หายไวเหมือนโกหก แต่ต้องขยันทาขยันแต้มหน่อย ที่ใช้คู่กับสมุทอีเพราะว่าถ้าใช้แค่สองตัวนี้เพียวๆ บริเวณที่แต้มไปจะลอกเป็นขุย รู้สึกไม่ดีกับหน้าตัวเองเท่าไหร่ 55555 ตัวสีฟ้าเหลืองจะใช้กับรอยแผลเป็นตามตัวมากกว่า คือแพรวแพ้ยุง และน้ำเหลืองไม่ดี ยุงกัดทีคือเป็นแผลเลยไม่เป็นตุ่ม ตัวนี้ก็ช่วยให้รอยดำจางเลยไปเยอะค่ะ ส่วนตัวสีฟ้าขาวจะใช้กับรอยสิวบนผิวหน้า แล้วทาสมูทอีทับอีกที รอยจางหายไปเยอะ แต่ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรค่ะ ต้องอดทนแล้วก็ขยันทาเป็นประจำ 

หมวดครีมทาหน้า

1. Smooth E Cream

     สมูทอีอีกแล้ววว คือเหมือนเป็นคู่แท้ซึ่งกันและกัน ขาดไม่ได้ เขาออกอะไรมาเคลมว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย นี่ก็ตามซื้อตามใช้ไปซะหมด ตัวนี้ใช้มานานมากตั้งแต่มัธยมใสใสวัยกระเตาะ ช่วยเรื่องผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น เรียบเนียน เคยนอกใจไปหาตลับน้ำเงินในตำนานอีกแบรนด์หนึ่งแต่ก็รู้แล้วว่าไม่คู่ควรกัน กลับมาซบอกเจ้าตัวนี้เหมือนเดิม ส่วนใหญ่จะใช้ทาทั้งหน้าเช้า-เย็น ช่วงที่มีรอยสิวก็แต้มซ้ำอีกทีคู่กับฮีรูสการ์แล้วรู้สึกว่ารอยดำๆ จางลงเร็วขึ้นด้วย หลังทาแล้วจะรู้สึกว่าหน้ามันๆ แต่ทนได้ค่ะ ของเขาดีจริงๆ ซื้อซ้ำมาหลายหลอดแล้ว แถมใช้ได้แปบเดียวเพราะใช้เปลือง แต่ถามว่าซื้อต่อไหม ซื้อแน่นอนจ้า

2. Laneige Water Sleeping Mask

     ตัวนี้เป็นสลีปปิ้งมาส์ก โบกแล้วนอน ตื่นมาหน้านุ่มชุ่มชื้น แต่งหน้าแล้วเมคอัพติดหน้าทนมาก หน้าไม่เป็นขุยด้วย ซื้อขนาดเล็กมาลองใช้ก่อนเพราะกลัวแพ้ แต่ไม่แพ้ เย้ 5555 แพรวว่าตัวนี้น่าจะเหมาะกับผิวแห้งมากกว่า เพราะเพื่อนผิวผสมใช้แล้วบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย -3- แต่เราว่าดีจะตายไปป เนื้อครีมจะเป็นครีมสีขุ่นๆ อมฟ้าเนื้อเบาสบาย ทาลงบนหน้าแล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบหน้า แต่ไม่ได้เหนอะหนะ ถ้ารู้ว่ามีงานที่ต้องแต่งหน้าเยอะ แพรวจะใช้ทาก่อนนอนติดกัน 2-3วัน ก่อนวันงาน ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้นขึ้นเยอะ แต่งหน้าง่าย ไม่เป็นขุยค่ะ

3. เจลว่านหางจระเข้ องค์การเภสัชกรรม

     

     สืบเนื่องมากจากมีความอยากใช้เจลว่านหางจระเข้กับคนอื่นเขาบ้าง ก็ไปซื้อกระปุกเขียวยอดฮิตมาลอง อิมพอร์ตจากเกาหลีเลยทีเดียว แต่!! ใช้ไปครั้งเดียวเท่านั้น หน้านี่แดง แสบ คัน ต้องรีบล้างออกแล้วแพ็คกระปุกเจลขายเพื่อนต่อทันที บางทีก็หงุดหงิดตัวเองว่าทำไมต้องแพ้อะไรที่ชาวบ้านเขาว่าดีว่างามกัน ก็เลยเข้ากูเกิ้ลเสิร์ชว่ามีเจลว่านหางไหนที่อ่อนโยนพอแก่ข้าพเจ้าบ้าง แล้วก็ได้พบกับเจลว่านหางขององค์การเภสัชกรรมตัวนี้ เห็นราคาไม่แพงเลยไปสอยมาจากวัตสันซะเลย(วางเรียงบนชั้นในหมวด Aloe Gel แล้วแพ็คเกจไร้ซึ่งความดึงดูดสายตาสุดๆ กว่าจะหาเจอ มองข้ามไปชั้นอื่นละ) ใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ตึงเท่ากับตัวที่แพ้ไป กลิ่นก็ดีกว่านิดหน่อย แช่เย็นแล้วเอามาโปะๆ หน้าสักพักรู้สึกสบายผิวมากๆ แพรวจะใช้เวลาที่รู้สึกหว่าหน้าเหนื่อย หรือแต่งหน้าหนักๆ มา ล้างหน้าเสร็จก็จะโปะไว้เย็นๆ ให้ผิวหน้าได้ผ่อนคลายค่ะ

4. โรลทาใต้ตา Baby Bright Aloe Vera & Fresh Collagen Eye Roller Serum

     อันนี้เคยใช้แบบที่เป็นแผ่นเจลใต้ตาสีเขียวๆ มาก่อนแล้วรู้สึกว่ามันเปลือง ใช้แล้วทิ้งๆ ก็เลยลองซื้อแบบเป็นลูกกลิ้งมาจากอีฟแอนด์บอยตอนลดราคา(อีกแล้ว!) เพราะแบบเจลแปะใต้ตาเขาทำไว้ดีมากค่ะคุณ ถึงแม้ว่าใต้ตาแพรวจะไม่ได้ดำมาก แต่หลังจากแปะแล้วรู้สึกว่ามันไบร์ทขึ้นนะ พอเปลี่ยนมาใช้ลูกกลิ้งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยจ้า ทาหลังอาบน้ำก่อนนอนแค่หัวลูกกลิ้งเย็นๆ แตะที่ใต้ตาก็รู้สึกดีแล้วค่ะ ยังไม่พอค่ะ นางทำให้ริ้วรอยเล็กๆ ที่ใต้ตาดูตื้นขึ้น ใต้ตาไบร์ทขึ้นเป็นที่น่าพอใจมากๆ ของดีราคาไม่แพงอีกตัวหนึ่งค่ะ

5. สเปร์ยน้ำแร่ La Roche-Posay Thermal Spring Water

      ต้องขออภัยที่ใช้รูปจากอินเตอร์เน็ตนะคะ พอดีว่าเพิ่งใช้หมดไปแล้วทิ้งขวดไปแล้วและยังไม่ได้ไปซื้อใหม่ จริงๆ เพิ่งจะใช้ได้ไม่นาน เพราะว่าตั้งแต่อากาศร้อนมากๆ ระหว่างวันอยากล้างหน้าให้สดชื่นก็เสียดายเมคอัพ เลยคิดว่าหาสเปร์ยน้ำแร่ติดตัวไว้ดีกว่า ตอนที่เลือกว่าจะลองใช้สเปร์ยน้ำแร่ของยี่ห้อไหนดี ก็ลังเลระหว่างเอเวียงกับตัวนี้ เพราะเอเวียงก็รีวิวแน่นแถมราคาถูกกว่า แต่เลือกใช้ตัวนี้เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่ามีสารป้องกันการระคายเคืองด้วย เหมาะกับสภาพผิวอ่อนแอของเราพอดีเลย หลังจากใช้แล้วก็ดีนะ ร้อนๆ ก็ฉีดใส่หน้าก็รู้สึกสบายหน้าขึ้นมานิดหน่อย ละอองค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว ฉีดแล้วไม่จับเป็นหยดใหญ่ๆ บนหน้า นอกนั้นก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจน แต่ใช้เปลืองมากเพราะร้อนก็ฉีดเอาๆ ไม่ถึงเดือน 50ml. ก็สลายหายไป แต่เดี๋ยวไปซื้อต่อจ้า 

หมวดดูแลริมฝีปาก

     นอกจากแพรวจะผิวแห้งแพ้ง่ายมากๆ แล้ว ยังปากแห้งแตกง่ายอีกด้วย เบื่อชีวิตที่สุดจุดนี้ ต่อไปนี้จะรีวิวลิปส์แคร์ที่ใช้ประจำนะคะ 

1. ลิปส์แคร์ ตรา เภสัชกร

     ลูกร้ากกกกก รักมากไม่เปลี่ยนใจ เริ่มมาจากเคยใช้ลิปมันอีกตัวหนึ่งที่เคยขายในเซเว่นเหมือนกันแบบตลับสีขาวฝาใสเนื้อลิปสีแดง แต่เซเว่นแถวบ้านไม่เอามาขายนานแล้ว เลยหันมาลองเจ้าตัวนี้แทน แล้วก็ได้พบคู่ชีวิตอีกครั้งค่า ตัวนี้จะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีทีเดียวแต่ต้องทาบ่อยๆ หน่อย เพราะด้วยความที่นางไม่มันมากเลยทำให้รู้สึกว่าแห้งเร็วไปหน่อย แต่เรื่องนี้ได้รับการทนแทนด้วยสรรพคุณที่ทำให้ปากชมพูขึ้น! ไม่ได้ชมพูแบบเว่อร์วังอลังการอะไร แต่คือปากดูมีสีชมพูๆ ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ถึงปากแพรวจะไม่ได้ดำ แต่ก็ออกซีดๆ เหมือนคนป่วยตลอด พอใช้เป็นประจำแล้วปากก็มีสีชมพูมากขึ้นหลายระดับเลยทีเดียว เคยแนะนำให้เพื่อนที่ปากดำใช้ไป เพื่อนก็ติดเลยค่ะ บอกว่าสีปากดูอ่อนลงแล้วก็ชมพูขึ้นเป็นสเต็ป ใครกังวลเรื่องปากซีดปากคล้ำ ลองตัวนี้ดูน้า ใช้เองใช้จริงเอาตลับเปล่าไปชิงโชคได้ป่านนี้คงได้บ้านได้รถแล้วมั้ง

2. Kiehl’s LIP BALM #1

     ตัวนี้ก็รักอีกแล้วค่ะ อิอิ สำหรับตัวนี้จะราคาประมาณ 390 บาท ขนาดเล็กหน่อยแต่ก็ใช้ได้นานพอสมควร หลายเดือนแล้วยังไม่หมดเลย เนื้อลิปจะให้ความรู้สึกเหมือนวาสลีนกับมะละกอหลอดแดง ซึ่งสองตัวที่ว่ามานั้นส่วนตัวแล้วแพรวว่าเอาไปผสมทำสครับปากจะเวิร์คกว่า เพราะเนื้อค่อนข้างแน่น แต่สำหรับคีลส์ เนื้อจะไม่แน่นเท่าไหร่ บางทีอากาศร้อนๆ ก็ละลายเป็นน้ำมันเลยจ้า แพรวก็เลยใช้ตัวนี้โบกก่อนนอนแล้วเปิดแอร์ให้ฉ่ำ ไม่ต้องกังวลเรื่องปากแห้ง ตื่นเช้ามายังรู้สึกว่ามีความมันเคลือบอยู่ที่ปากอยู่เลย เอาแปรงสีฟันถูออกเบาๆ จับดูปากนี่นิ่มมากกกก อยากจุ๊บปากตัวเองเลยค่ะ

3. Skinfood Shea butter Lip Care Bar #Milk #Watermelon

     เกาหลีมาอีกแล้ว สองตัวนี้เป็นลิปสเน่หาล้วนๆ เห็นว่าเล็กๆน่ารักดี ซื้อที่เกาหลีก็ไม่แพงด้วย ตัวสีฟ้ากลิ่นนมช่วยเรื่องปากนุ่ม ก็นุ่มจริงค่ะ นุ่มตอนทา 555555 สักพักก็แห้งเหมือนเดิม ส่วนตัวสีแดงกลิ่นแตงโมซื้อมาแทนกลิ่นราสเบอรี่ที่เคยใช้แต่หาซื้อไม่ได้แล้ว ตัวนี้จะมีสีนิดหน่อยค่ะ ทาแล้วนุ่มๆ สีแดงระเรื่อดูสุขภาพดี แต่แตงโมก็แดงไม่เท่าราสเบอรี่อยู่ดี อยากซื้อต่อค่ะแต่เป็นกลิ่นอื่น แต่ที่เกาหลีเห็นว่าจะเลิกผลิตแล้วไปผลิตตัวที่เป็นลิปมะเขือเทศแทน เสียใจแรงงง

หมวดอื่นๆ

หมวดนี้จะเขียนสั้นๆ นะคะเพราะไม่ได้ใช้บ่อย แต่เห็นว่าดีมีคุณค่าเลยเอามาแชร์สักหน่อย

1. Smooth E Babyface Cleansing Facial Wipes

     กระดาษเช็ดหน้าของสมูทอีจ้า ดีงามพระรามทั้งหลายจริงๆ ซื้อมาจากท็อปส์ตอนไปต่างจังหวัดแล้วลืมเอาคลีนซิ่งไปด้วย ซื้อมาแบบฉุกเฉินแล้วนางก็ช่วยชีวิตได้จริงๆ ค่ะคุณผู้ชมมม ในห่อมี 10 แผ่น 60บาท ได้ กระดาษเนื้อนุ่มเหนียวไม่ขาดง่าย ชุ่มไปด้วยคลีนซิ่งแบบน้ำ เช็ดหน้าแค่สองแผ่นก็เกลี้ยงแล้วค่ะ ไม่ต้องออกแรงมากกระดาษไม่บาดหน้าด้วย แนะนำให้ลองใช้กันดูนะคะ

2. Etude House; Collagen Eye Patch

     ตัวนี้เป็นมาส์กใต้ตาแบบกระดาษ ใช้แล้วทิ้งค่ะ แพรวจะเอาไปแช่เย็นก่อนแล้วค่อยเอามาแปะใต้ตาแล้วนอนไปทั้งอย่างนั้นเลย ตื่นมาก็ลอกออกแล้วจะพบกับใต้ตาที่ดูสดใสขึ้น อย่างที่บอกว่าแพรวมีริ้วรอยใต้ตานิดหน่อย ช่วงที่แปะมาส์กนี้บ่อยๆ จะรู้สึกได้เลยว่าใต้ตาดูเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้นค่ะ

3. Etude House; Mask Sheets #Collagen #Hyaluronic Acid

     มาส์กอีกแล้ว 555555 คือมีของอีทูดี้เยอะเพราะโรงพยาบาลที่แพรวเคยไปทำศัลยกรรมอยู่ใกล้ช็อปอีทูดี้มากๆ แล้วน้องนางแบรนด์นี้ก็มีโปรตลอดปี เราก็หลงเข้าไปหยิบจับมาตลอดด้วย เลยได้มาส์กมาเล่นเยอะเลย แต่ที่ใช้แล้วชอบ ใชแล้วเห็นผลกับผิวหน้าแพรวที่สุดก็จะเป็นสองตัวนี้ ตัวแรกCollagen เอาไปแช่แย็นแล้วมามาส์กทิ้งไว้15นาที เอาออกแล้วรู้สึกหน้าเด้ง ผิวเรียบเนียนด้วย จิ้มแก้มตัวเองทั้งวันเลย นุ๊มนุ่มม เหลือซองสุดท้ายแล้วด้วย อยากไปซื้อมาตุนอีก ชอบมากจริงๆ อีกตัวคือ Hyaluronic acid ตัวนี้เป็น Moisturizer ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ก็ตามนั้นเลยค่ะ มาส์กทิ้งไว้ 15นาที หน้าฉ่ำเลย รู้สึกถึงความมีผิวสุขภาพดี ไม่แห้งเหมือนปกติ ชอบมากๆเหมือนกัน

4. Vistra; Evening Primrose oil

     สุดท้ายแล้ววว ตัวนี้เป็นสกินแคร์แบบกินตัวเดียวที่แพรวกินประจำ ที่เรียกว่าสกินแคร์ก็เพราะว่าจุดประสงค์หลักที่แพรวซื้อมากินก็เพื่อบำรุงผิว เพราะผิวแพรวแห้งมากทั้งผิวหน้าและผิวตัว ศึกษาอยู่นานพอสมควรกว่าจะซื้อมากิน หนึ่งกระปุกมี 75เม็ด แพรวกินวันละเม็ดหลังอาหารเย็น ตอนนี้กินมาได้ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าผิวไม่ค่อยแห้งถึงขนาดเอาเล็บขูดแล้วเป็นรอยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังไม่เห็นผลอย่างอื่น คิดว่าคงต้องรอให้หมดกระปุกก่อน

** Ti p s **ก่อนจากกันวันนี้แพรวมีคำแนะนำเล็กๆ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวบนหน้ามาแชร์ค่ะ

     คนเป็นสิวควรดูแลเรื่องความสะอาดมากๆ อย่างแพรวนี่จะไม่ค่อยไว้เล็บยาวเพราะมือเราต้องจับนั่นทำนี่ตลอด เป็นส่วนที่สกปรกที่สุด ถ้าเล็บยาวก็จะเป็นพื้นที่สะสมเชื้อโรคได้ จึงไม่ควรจับหน้าบ่อยๆ แล้วก็แพรวจะเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดจอโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ อย่างน้อยก็สองวันครั้งค่ะ

******************

จบแล้วว ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ 

ไว้มีโอกาสจะมาเขียนรีวิวอย่างอื่นอีก บ๊ายบายย XOXO.


pandherplace

pandherplace

แพรว ธัญววรณ Let Me In Thailand SS1

FULL PROFILE