My Beauty Journey เมื่อนักศึกษาไทย ไปแต่งหน้าในสก็อตแลนด์

14 12

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวจีบัน วันนี้ SonoSonia จะมาขอแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์บิวตี้ที่ไม่เหมือนใคร และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าด้วยค่ะ

เริ่มจากในปี 2014 เราได้เดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทที่กรุงเอดินเบอระ เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ และด้วยความที่ตารางเรียนของยูเรา (Edinburgh Napier University อีกทางเลือกหนึ่งของนักศึกษาไทยที่อยากไปเรียนต่อที่เอดินเบอระค่ะ ที่นี่มีคอร์สสาย creative ที่น่าสนใจหลากหลายทีเดียว) ไม่โหดนัก แรกเริ่ม เราก็คิดเหมือนนักศึกษาไทยคนอื่นๆ ว่าเวลาว่างไปเสริ์ฟร้านอาหารไทยดีมั้ย แปมก็ได้ลองไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยชั่วคราว แต่สุดท้ายไม่ได้ทำจริงจังค่ะ วันดีคืนดี ก็เกิดไอเดียขึ้นมา ด้วยความที่เราชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกด้วย เวลาว่างๆ ที่อากาศดีเราจะออกไปถ่ายรูปเล่นค่ะ เอดินเบอระเป็นเมืองที่สวยและมีเสน่ห์มาก เราจึงชอบติดตามเพจในเฟซบุ๊คของช่างภาพในเอดินเบอระ ไปๆ มาๆ ก็เข้าไปเจอกลุ่มในเฟซบุ๊คที่ช่างภาพใช้ติดต่อกันเพื่อหาช่างภาพ นางแบบ และช่างแต่งหน้า เราจึงได้ขอเข้าไปลอง join group ดู รออยู่หลายวันเหมือนกันก็มีคนกด accept เข้ากลุ่มไป

ต้องขอเล่าเพิ่มเติมว่าจากพื้นฐานงานที่เคยทำ เราเคยเป็นนักเขียนบิวตี้ให้นิตยสารหัวหนึ่ง จึงได้ศึกษา เรียนรู้เรื่องการแต่งหน้าในเวลาที่ทำงานที่สตูดิโอร่วมกับพี่ช่างเเต่งหน้าและช่างภาพ ทำให้ซึมซับทักษาะการแต่งหน้าไปในตัว ก็เริ่มฝึกฝนเองเรื่อยๆ แล้วก่อนเดินทางก็นึกไงไม่รู้ ขนเครื่องสำอางไปจัดเต็มมาก เหมือนอยู่ดีๆ ก็คิดเผื่อไว้ว่าอาจได้ลองสวมบท MUA ที่นั่น แต่ก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ทำจริง

จากนั้นงานแรกก็มาแบบงงๆ ค่ะ เมื่อมีช่างภาพอาชีพชาวสก็อตโพสหาช่างแต่งหน้าให้งานถ่ายแบบ Private ในเพจที่ join เข้าไป ก็ลองติดต่อเขาไปค่ะ แชทคุยกันทางเฟซ เขาขอดูผลงานก็ส่งรูปให้เขาดู จากนั้นเขาก็โอเค แบบง่ายๆ เลย (แต่หลังจากนี้มีคนที่ขอดูแล้วไม่โอเค ก็มีค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะถ่ายแบบสไตล์ไหนด้วย) ซึ่งจริงๆ ก่อนจะรับงานเราก็ต้องดูสถานที่ ดูคนที่เราจะร่วมงานด้วยไว้ให้ดีนะคะ เพื่อความปลอดภัย สถานที่นี่นอกจากความปลอดภัยแล้วต้องให้แน่ใจว่าเราไปตามนัดได้แน่ค่ะ สำหรับงานนี้เขาจะถ่ายกันที่ห้องพักโรงแรม ซึ่งอยู่ไม่ไกลแฟลตเรา เดินไปได้ ส่วนนางแบบช่างภาพก็ส่งเฟซบุ๊คนางให้เราได้ brief งาน ทั้งแบบเมคอัพและแบบผมที่นางอยากได้

พอถึงวันจริง ก็ตื่นเต้นมากค่ะ เจอช่าภาพก่อน จากนั้นไปรับนางแบบที่นั่งรถไฟมาจากกลาสโกว์ กะแฟนหนุ่ม สำเนียงนางฟังยากม้ากกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด แต่นางก็น่ารักดีค่ะ แม้ฟังไม่ค่อยออก 555) นางแบบเตรียมเครื่องสำอางของตัวเองมาด้วย เราก็ใช้รองพื้นที่นางเตรียมมา สีผิวจะได้ตรง การได้ลองเมคอัพใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้ก็ทำให้เราต้องลับฝีมือให้เต็มที่ ตาสโมคกี้ก็เราก็ถมให้จัดเต็มตามที่นางอยากได้

ลืมบอกว่า Theme ของการถ่ายแบบครั้งนี้คือสไตล์ Budoir เน้นงานชุดชั้นในเซ็กซี่สักหน่อย นางแแบบตัวเล็กแต่หุ่นบึ้มมากค่ะ เราก็เลยได้แต่งแบบจัดเต็มเลยเพื่องานเซ็กซี่ ก็ออกมาดังภาพที่เห็นค่ะ นางแบบเปลี่ยนลุคไปเลย ส่วนเรื่องค่าตอบแทน เราไม่ได้รับเป็นเงินนะคะ แต่จะได้รูปไว้เก็บลง portfolio จากนั้นช่างภาพก็เลี้ยงอาหารอิตาเลียนอร่อยๆ แถวแฟลตเราเป็นการตอบแทน ก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้ร่วมงานกับช่างภาพท่านนี้ค่ะ แกจะเน้นแนวเซ็กซี่และภาพกีฬา ก็นับเป้นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดีค่ะ

จากนั้นอีกไม่นาน โลกก็เหวี่ยงเราไปเจอกับช่างภาพคู่บุญ โจแอนนา ช่างภาพสาวเปี่ยมพรสวรรค์ชาวโปแลนด์ อายุแค่ 24 แต่มีไฟมากๆ เราเจอกันผ่านเพจเดียวกันนี้ในเฟซบุ๊ค แล้วก็คุยผ่านแชทกันเหมือนเดิม นางกำลังจะเข้าเรียนสาขาการถ่ายภาพที่ College จึงดีลนางแบบมาถ่ายงานเก็บ Port ผลงาน ค่าตอบแทนคือได้รูปเหมือนเดิม สำหรับเรา อย่างน้อยได้ผลงานได้ประสบการณ์ก็โอเคแล้วค่ะ อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปเฉยๆ ใครจะไปคิดว่าเมืองเล็กๆ แสนสงบอย่างเอดินเบอระจะมีสิ่งน่าสนใจให้ทำ และยังเป็น location ถ่ายแบบชั้นเยี่ยมอีกด้วย

งานถ่ายแบบงานแรกกับโจแอนนา นางนัดเราไปที่แฟลตนางแต่เช้าตรู่ เพราะวันนั้นเป็นวันที่มี Lunar eclipse ในเอดินเบอระค่ะ เราก็หอบเมคอัพใส่เป้เดินดุ่มๆไป บ้านนางได้สบาย พอแต่งหน้าให้ตาม key look ที่ช่างภาพบรีฟไว้เสร็จ เราก็บึ่งรถไปที่ Holyrood Park และถ่ายแบบกันอย่างด่วนจี๋ เพราะนางแบบมีคลาสต่อ ถ่ายกันตอน eclipse โผล่อยู่เหนือยอดเนินกันพอดี แม้จะเป็นงานด่วน แต่ช่างภาพฝีมือเทพคนนี้ก็ได้รูปสวยสมใจค่ะ ข่าวดีก็คือ นางติดใจฝีมือเมคอัพของเรามาก รีบจองตัวเราต่อเลยค่ะ อยากให้เราแต่งให้ทุกงานเลยว่างั้น ปลื้มปริ่ม

Image Credit: Joanna Kopacz Photography

หลังจากงานแรกเบาๆ แล้ว เรายังมีงานต่ๆ ไปร่วมกับ Joanna ซึ่งบางงานก็เป็นงานผจญภัยที่สนุกสนานมากเลยทีเดียว แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ

งานต่อไป กับโจแอนนาคนเดิม งานนี้ช่างภาพแอบบ่นว่าหน้านางแบบไม่ค่อยเป๊ะ (แต่เเต่งออกมาแล้วก็ได้อย่างที่เห็นค่ะ ก็ขึ้นอยู่นะ) ช่างภาพสาวมี reference look มาให้เป็นลุคสโมคกี้ถมดำ ติดเกล็ดทองๆ ตอนแรกก้คิดว่าฉันจะไปหาเกล็ดทองมาจากไหนล่ะนั่น สุดท้ายก็ได้ไอเดีย จับห่อช็อคโกแลตราคาถูกที่เป็นกระดาษห่อสีทองนี่แหละค่ะมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วติดด้วย lash glue กาวติดขนตาปลอมค่ะ งานนี้เราสบายมาก เพราะช่างภาพและนางแบบนัดกันมาแต่งหน้าที่แฟลตเราเลย ไม่ต้องหอบเครื่อบสำอางเดินไกลอีกแล้ว เมื่อเเต่งหน้าทำผมเสร็จ เราก็ออกเดินลาดตระเวณ เจอจุดไหนสวยก็หยุดถ่ายตรงนั้น นอกจากต้องถึก ทนลมหนาวแล้ว นางแบบต้องกล้า ไม่อาย ไม่แคร์สื่อด้วยค่ะ

รูปนี้เป็นช็อตโปรดเลย พี่หนวดเดินเข้ามาแจมในเฟรม และกลายเป็นนายแบบรับเชิญที่เท่แและคูลมากๆ ช่างภาพถึงกับบอกว่าเสียดาย น่าขอ contact ไว้นะนี่

ปรับเป็น B&W ก็สวยไปอีกแบบนะ

ถ่ายแบบครั้งต่อไป คราวนี้ถ่ายที่แฟลตเราเลย ไม่ต้องเหนื่อยไปไหนไกล นางแบบคนนี้หน้าสวยมากก ใช้คุ้ม นัดครั้งเดียวแต่ง 3 ลุคเลยค่ะ กิมมิคของลุคแรกอยู่ที่เอาขนมหวานมาทำเป็น accessory ให้นางแบบ ช่างภาพอดทนเอาเข็มและด้ายร้อยมาร์ชเมลโลว์เหนี่ยวๆ ทำเป็นสร้อยคอ ส่วนเมคอัพก็ลุคสีชมพูใสๆ ไม่มีไรมาก นางแบบหน้าสวย เอาอยู่

สร้อยมาร์ชเมลโลว์เส้นนี้เราร้อยเตรียมไว้เองค่ะ ช่างภาพร้อยอีกเส้นที่เป็นลูกกลมๆ แถมมีไส้แยมอีก จัดเต็มมาก งาน handmade ต้องมา

ลุคที่สอง งานหน้าขาว และงานตัดกระดาษทำเป็นสร้อยคอ แถมด้วยไอเดียช่างภาพ เล่นกับก้อนไหมพรม

ลุคสุดท้ายของวัน ถมสโมคกี้และเปลี่ยนสีปากให้เข้ากับลายชุด แบบ street ชิวๆ เดินออกไปถ่ายตามมุมตึกแถวแฟลตเราค่ะ

งานถัดไป เป็นอีกงานที่ประทับใจค่ะ ได้นางแบบหน้าตาน่ารัก (นางแบบทั้งหมดที่ผ่านมานี่ มาจากโรงเรียนสอนเต้นค่ะ ทำให้พวกนางมีความสามารถในการโพสท่าใช้ได้เลย) และโลเคชั่นสวยมากกก ได้ผจญภัยกันแบบสุดๆ งานนี้ reference look ไม่ได้มาแบบนี้ เพราะ material ที่มีไม่พอ ช่างภาพเลยช่วยเรา create ลุคขึ้นมาใหม่ เอาจิวติดเล็บ มาตกแต่งบนหน้าโดยใช้กาวติดขนตาเหมือนเดิม งาน glitter ก็มาเต็ม ปรับไปปรับมาก็ได้ลุคนี้ที่ดูแฟนตาซีมาก ชอบ

FYI ขนตานางแบบที่เห็นนี้ นางแค่ปัดนะคะ ไม่ได้ติดขนตาเลย ขอบอก

นางแบบพาคุณแฟนมาด้วย ฮีจึงบึ่งรถพาเราไปยัง Dean Village หมู่บ้านในอีกฝั่งของมุมเมือง แต่ก็ไม่ไกลจากแฟลตเราค่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยรู้จักกโซนนี้เท่าไหร่ แต่คนในพื้นที่จะรู้ว่ามันเป็นหมู่บ้านในสวนป่าริมธารที่สวยและเหมาะกับการเดินเล่นอย่างที่สุด งานนี้เราเอามือถือเราไป snap เบื้องหลังมาด้วยค่ะ นางแบบคนนี้ต้องทรหดมาก (ทุกครั้งที่ถ่ายแบบกัน ลมหนาวจะมาทุกที พี่ไม่เข้าใจ) ตอนถ่ายรูปกันแล้วมีเปลี่ยนชุดนี่ บางทีก็หามุมหลบๆ เปลี่ยนเอา บางชุดก็เปลี่ยนในรถบ้าง เรียกว่าลุยกันจัดเต็ม

และนี่คือภาพบรรยากาศเก๋ๆ ที่หมู่บ้านแสนสงบและน่ารัก ซุกซ่อนอยู่ในมุมหนึ่งของเอดินเบอระ ส่วน Cherry Blossom นั้น เห็นเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งเข้าใส่ค่ะ 555 ขาดไม่ได้ ต่อไปถึงคราวโชว์รูปจากช่างภาพจริงๆ บ้างค่ะ

หลังจากร่วมงานกันไปได้สักพัก Joanna ก็คงเห็นอะไรในหน้าไท้ย ไทยของเรา หลังจากอ่านหนังสือสอบวิชาเดียวที่มีสอบแบบเครียดสุดๆ จนสิวผุดขึ้นหน้า นางก็ขอให้เราแต่งหน้าตัวเอง เป็นนางแบบเองซะเรย!! ฮือออ ละสิวผุดมาทำไมนะ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ช่างภาพเก่งขนาดนี้เอ่ยปากขอถ่ายให้เองฟรีๆ ในเมืองแสนสวยที่เรารัก แน่นอนค่ะว่าเราต้องคว่้าโอกาสไว้ (สิวผุด Photoshop ช่วยได้ค่ะ เหนือ concealer ยังมีโฟช็อป 555) วันที่ถ่ายแบบก็ เราแต่งหน้า หาเสื้อผ้าเองตามมีตามเกิด แล้วก็ออกไปเดินลุยถ่ายในเมืองกันเหมือนเคย บอกตรงๆ ว่าเขินมากกก ที่ต้องไปโน้มกิ่ง cherry blossom ที่ริมถนน Princes Street เส้นหลักของเมือง โดนเด็กมอง โดนหัวเราะ เสียเซลฟ์มากกกก แต่ก็ได้รูปนี้มา

รูปล่างดูออกหมวยๆ ซะงั้น 555

รูปนี้แอบหลบมุมตึก เลยไม่ค่อยเขิน อารมณ์ว่าช่างภาพเก่ง เราเลยได้รูปที่เก็บไว้หลอกลวงประชาชนได้ตลอดชีวิตเลยค่ะ 5555 ลุคเอเชียแบบคลาสสิคนี้ช่างภาพส่ง reference มาให้เราเลือกๆ เอง ก็ขอแบบเอเชี่ยนลุคเบสิคละกัน กรีดตา ทาปากแดง ติดขนตาซะหน่อย (ถ้าแต่งลุคสะพรึงมาก ตอนถ่ายก็จะยิ่งเขิน เหอๆ)

กลับบ้านมาต่อันอีกลุค ซึ่งมาจากไอเดียเก๋ๆ ของช่างภาพที่นางอยาก present เรา as makeup artist เลยหาลุคหน้าขาวครึ่งหน้ามาให้ เเต่เพราะเราอุปกรณ์ไม่ครบ ขาดแป้งงิ้ว เลยใช้ white eyeliner ถมเป็น guideline ให้ช่างภาพสาวไปโฟช็อปดึงสีขาว ส่วนสีเมคอัพจุดอื่นๆ ลงตามปกติค่ะ

งานต่อไป ช่างภาพส่ง reference look มาให้เป็น street look แต่งหน้าแบบน้องคารา เดอเลอวีญ กับ Brown Smokey เน้นๆ คิ้วเเน่นๆๆ และปากแดงแซ่บ นางแบบคนนี้ก็หน้าเก๋ ปากอิ่มดี เหมาะเลย คราวนี้เราเปลี่ยนเส้นทางไปเดินถนนสายอื่นบ้าง แต่ยังคงอยู่แถวแฟลตเรา เพื่อหามุมตึกที่มีพ่น graffitti เก๋ๆ ผลก็ออกมาน่าพอใจ

เดินลัดเลาะเข้าซอยนู้นซอยนี้ไปเรื่อยๆ ก็บังเอิ๊ญไปเจอคนวางทีวีรุ่นเก่าโละทิ้งไว้ริมถนน ช่างภาพของเราก็เกิดไอเดียบรรเจิด นางขอให้เราช่วยกันยกทีวีตัวนั้นมาเป็น prop ซะเลยค่ะ

เมื่อได้มุม street สมใจนางแล้ว เรากลับห้องไปต่อกันอีกลุค wet look ที่นอจากจะเป็นช่างแต่งหน้าแล้ว เราก็เป็นผู้ช่วยช่างภาพ จัดหาทุกอย่างตามที่นางขอ ขอผ้าสีเข้มๆ มาขึงเป็น background เราก็มีให้ค่ะ จินนี่เสกได้ทุกอย่างจริงๆ 555

สำหรับการครีเอท wet look เราก็เค่เบลนด์สโมคกี้เพิ่มจากลุคเดิม เปลี่ยนปากเป็นสีนู้ด ป้ายวาสลีนทับบนอายแชดดว์และสีปาก แลัวก็พ่นสเปรย์น้ำแร่ลงไป คอยฉีดไปเรื่อยๆ เท่านั้นเองค่ะ

ก็เสร็จสิ้นไปอีกวันกับยามบ่าย สบายๆ (ลมหนาวยังมาเหมือนเดิม) จัดได้สองลุค

ผลงานของเรายังไม่หมดเท่านี้ รอชมกันต่อนะคะ ^^

มาถึงคิวของงานหมู่บ้าง นัดแต่งที่แฟลตเราเหมือนเดิม Location คือ Princes Street Gardens สวนสาธารณะกลางเมือง ธีมเป็นชุดขาวดบฮีเมียนเบาๆ เมคอัพง่ายๆ เเต่เพิ่มกิมมิคด้วยการติดจิวเล็กๆ ลงไป นางแบบก็จะมีลุคที่หลากหลาย ด้วยความที่นางแบบมีหลายคน พวกนางจึงประหยัดเวลาด้วยการลงรองพื้นของตัวเองก่อน เเล้วเราแต่งตากับลงดีเทลให้ ซึ่งบางคนก็แต่งตายากมากก นางจะเคืองตา น้ำตาไหลก็ต้องอดทนกันไป แต่จะมีคนนึงที่เราแต่งให้ทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนแรกค่ะ

ตอนนั้นกำลังเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ ดอกไม้ในสวนจึงเริ่มบานกันบ้างแล้ว เลยพอจะเก็บมุมสวยๆ มาได้ ที่จริงตอนนั้นมีม้าหมุนมาออกงานด้วย แถมเค้ายังใจดีให้ช่างภาพกะนางแบบขึ้นไปถ่ายกันตอนม้ากำลังหมุนแบบฟรีๆ เลย เราช่วยเฝ้าของให้ข้างนอก เรียกว่าตามไปเป็นพี่เลี้ยงนั่นเอง แถมนางแบบยังหามุมเปลี่ยนชุดกันในสวนเลยด้วย ใช้วิธีการแบบผลัดผ้าถุงของไทยเรานั่นแล

เป็นอีกวันที่ลมหนาวมาเช่นเคย เเต่ก็ผ่านไปได้เรียบร้อยดี ไม่เข้าใจทำไมไม่เคยได้ถ่ายวันที่อุ่นเล้ยย 555 ต้องยืนกอดอกทุกที

จากนั้นก็จะมีช่วงที่ช่างภาพสาวเพื่อนเรานางต้องย้ายบ้านและจัดการเรื่องสัมภาษณ์เข้าวิทยาลัย เราเลยคิวไม่ตรงกับนางเท่าไหร่ แต่ก็ยังลองหางานอื่นจากในกรุ๊ปเฟซบุ๊คนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปเจอเข้ากับงานเมคอัพที่ทำแล้วได้ตังค่ะ รายนี้เหมือนดีลผ่านคนกลางก่อนทอดสองทอด เค้าขอต่อรองราคานิสนึง ดีเทลคือให้ไปแต่งหน้างาน Hen Party หรือปาร์ตี้สละโสดของสาวๆ นั่นเอง ธีมเป็น pin up girls แนววินเทจ มีสาวๆ ในงานประมาร 8-12 คน ให้เราช่วยแต่งตาลงดีเทลเฉย ๆ ไม่ต้องแต่งทั้งหน้า ก้ดีลกันไว้ว่า 50 ปอนด์ ซึ่งสำหรับเรานี่เป็นเงินพอสมควรเลยนะคะ ปกติเราประหยัดมาก ซื้อกับข้าวจากซูเปอร์ที่ถูกที่สุด ไปไหนมาไหนในเมืองในระยะที่เดินได้ก็เดินเอา ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือไป campus เราก็เดินไปได้หมดเลยค่ะ

บ้านที่เรียกให้ไปแต่งหน้าก็อยู่แถว campus เราพอดี ก้เดินไปได้อีกเหมือนกัน เปิดหาแผนที่ในกู๋แมพไว้ก็เดินไปได้เลย ปกติเวลาไปบ้านใคร เค้าก็จะอยู่เป็นแฟลต เป็นอพาร์ทเมนต์ แต่รายนี้จะอยู่แบบเป็นบ้านทาวน์โฮม สวยและมีระเบียง วิวดีมากเลยค่ะ

ซึ่งเมคอัพเราก็เน้นแต่งตา คัดเบ้า กรีดตาแบบวินเทจ ติดขนตาปลอมให้ ซึ่งสาวฝรั่งเหล่านี้ปกติไม่ค่อยแต่งตาและไม่เคยติดขนตา พอเราแต่งให้เค้าก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ คนที่เป็น Bride to be เราก็จัดให้พิเศษ ทัชอัพให้เต็มหน่อยๆ ด้วยเวลาที่จำกัดเลยแต่งได้ไม่ครบทุกคน มีแต่งเบาๆ ให้คุณแม่ด้วย เลยขอเก็บภาพสาวๆ ที่ได้ใช้เวลาแต่งตาเต็มที่หน่อยมา 4 คนนะคะ จากที่แต่งได้ประมาณ 7 คน

และคนนี้ค่า ว่าที่เจ้าสาวคนสวย

เบ็ดเสร็จนอกจากเงิน 50 ปอนด์แล้ว เจ้าบ้านยังใจดี แพ็ค scone (อ่านว่าสกอน) ที่อบเองสดๆ จากเตาพร้อมครีมสดให้เรากลับไปทานที่บ้านด้วย เป็นสกอนดโฮมเมดที่อร่อยมากๆ เลยล่ะค่า ก็เป็นอันจบเรื่องราวของงานแรกและงานเดียวที่ได้ค่าจ้าง สนุกดีค่ะ ได้ไปเห็นปาร์ตี้สละโสดน่ารักๆ สไตล์ฝรั่งด้วย

หลังพักจากงงานโจแอนนาไป พวกเราก็เริ่มมีคิวตรงกันอีก คราวนี้เราไปลุยงานกันที่แฟลตใหม่ของโจแอนนา นางแบบคนนี้เป็นสาวสเปน แอร์โฮสเตส Ryan Air โครงหน้านางยาว ไม่ได้สวยเป๊ะแต่ถ่ายออกมาแล้วดูเก๋ และรูปร่างดีมากกกกก นางแบบคนที่ผ่าๆมา ไม่ได้สูงหุ่นนางแบบกันทุกคนนะคะ (รวมทั้งเราด้วย 555) ช่างภาพเธอขอแค่คนที่หน้าตารับกับกล้องและไม่เขินไม่อายเกินกว่าจะถ่ายรูปเป็นพอ แต่สาวสเปนคนนี้หุ่นดีเลยล่ะ ดูจากรูปสไตล์ Lady Gaga นี้ เธอเซี้ยวมาก

Location ก็คือถ่ายกันในห้องพักเลย ช่วยกันย้ายทีวีและโซฟา รวมทั้งเอาโคมไฟตั้งโต๊ะมาใช้ส่องแทนไฟถ่ายรูป ซี่งก็ออกมาเก๋ดี (แต่ภายหลังคุณเธอได้สั่งซื้อชุดไฟมาเองเเล้ว) งานนี้แต่งสองลุค เป็นลุคกรีดตาเฟี้ยว ปากสีม่วงดำดาร์คๆ กับสโมคกี้หนักๆ แก้มสีออกม่วงๆ และปากนู้ด ซึ่งเข้ากะนางแบบดี คอสตูมและพร็อพเราก็เอาพวกเสื้อผ้าที่นางแบบขนมา ทั้งกระโปรงสุ่ม เสื้อลูกไม้ของนางนี่แหละมาเล่นกันไปเรื่อยๆ ก็ได้ออกมาดังนี้


sonoSonia

sonoSonia

Music, makeup lover & world observer
I'm happy to make girls around me look beautiful.

FULL PROFILE