คลังแสงน้อยๆของหนู มารู้ตัวอีกที....ก็เป็นfc YSL ซะแล้ว

33 8

เหมือนเคยนะค่ะ ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าเลย

เน้นแต่skin careเจ๋งๆ ปกติแต่งหน้าที่ชอบคือเป็นรองพื้นเบาๆ ทาแก้ม(แนวtint)

แล้วทาปากสีจัดจ้านเนื้อแมท ก็จบแล้ว ซึ่งที่เคยลองใช้ยี่ห้อนู้นนี่นั้นมา....ก็ไม่เคยถูกใจซะที

จนมาเจอYSL ตอบโจทย์ทุกอย่างเลยค่ะ

พอมารู้ตัวอีกที1ปีที่ผ่านมา ก็ซื้อมาทั้งหมดตามภาพเลยค่ะ ปล.รูปอาจติดข้างหลังเป็นกระปุกยาไม่ว่ากันนะ ถ่ายที่ร้านค่ะ ขายยาไปพิมพ์ไป :((

เริ่มที่ตัวทาปากก่อนเลยนะค่ะ คงไม่พูดเกี่ยวกับลิปสติกเยอะเพราะมีคนรีวิวเยอะมากๆเเล้ว จะพูดในแง่ข้อแตกต่างทั้ง3แบบ และที่ชอบมากที่สุด

YSL rouge pur couture glossy stain

เราเริ่มรู้จักตัวนี้เป็นตัวแรกค่ะ ค่อนข้างชอบมากๆๆๆๆๆมันก้ำกึ่งระหว่างtintกับลิปกลอส มันคืออะไรที่ชอบมาก ทำให้รู้สึกปากแดงสุขภาพดีจริงๆ แบบเหมือนไม่ได้ทาปรุงแต่ง5555คิดเอง ซื้อมา3ตัวเลยทีนี้ก็เลยมาลองใช้เป็นตัวลิปสติกจริงๆด้านล่างค่ะ

YSL rouge volupte shine

ซึ่งพอได้ลองใช้จริง มันก็ดีนะค่ะ แต่รู้สึกเฉยๆมากกว่าเหมือนลิปสติกยี่ห้ออื่นๆที่เคยใช้ ที่มีความมันวาวชุ่มชื้น เอาง่ายๆว่าtextureเหมือน burberry kisses lipstickเปะเลยค่ะ ก็เลยไม่ได้ประทับใจเท่าที่ควร ไม่ได้ซื้อต่อค่ะ แต่จากทั้งหมดมาจบและตายตอนจบที่ตัวนี้ค่ะ

YSL baby doll kiss and blush

คือหลังจากได้ใช้ตัวนี้ ก็ไม่ได้กลับไปซื้อตัวก่อนๆอีกเลยค่ะ ซื้อเพิ่มแต่รุ่นนี้รุ่นเดียว มันเป็นลิปที่ทาเหมือนเนื้อแมต+tintที่ไม่ทำให้ปากแห้งน่าเกลียด (เคยใช้เนื้อแมตหลายยี่ห้อมากแต่ว่าปากมันแห้งมากเป็นร่องๆ ไม่สวยงาม) โดยเรายังสามารถเอาสีมาผสมกันได้เป็นสีใหม่ๆได้อีกนะค่ะ นอกจากนี้ยังทาแก้มได้อีกด้วยค่ะ คือสอบผ่าน ช่างแต่งหน้าชื่อดังหลายคนก็ใช้ตัวนี้นะค่ะ รวมถึงเคยเห็นคุณปุ้กลุก ช่อง7รีวิวว่าชอบตัวนี้มากมายค่ะ เอาเป็นว่าส่วนตัวคิดว่าเป็นลิปสติกที่ดีที่สุดค่ะ เดือนหน้าวันเกิดจะให้ของขวัญตัวเองซื้อให้ครบทุกสีแล้วจะมารีวิวให้ดูกันอีกทีนะค่ะ

YSL fusion ink brush

ตัวนี้เมืองไทยเพิ่งเอามาขายเดือนมค.นี้เองนะค่ะ โดยเนื้อจะเป็นtint+กลอสดูคล้ายลิปกลอสนะค่ะ แต่ไม่ใช่ อย่าใช้ผิดนะเออ 555 จะบอกว่าเนื้อติดทนมากๆ เหมือนเราทาtint ของetudeแต่เนื้อไม่เเห้งเร็วและเนื้อข้นกว่าค่ะ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องรีบเกลี่ยอยู่ดีนะค่ะลองดูจากรูปได้ทิ้งไว้แปปเดียวกลายเป็นสองชั้นสีเห็นชัด

สรุปก็ถือว่าชอบมากค่ะเพราะเป็นคนที่ชอบใช้tintอยู่แล้ว จะซื้อมาลองใช้ให้ครบทุกสีเป็นของขวัญวันเกิดเดือนหน้า แฮร่เพราะเดือนเกิดได้คะแนนสะสมเพิ่มสำหรับสมาชิกนะค่ะ ^^

YSL Instant Moisture Glow

ตัวนี้ก็เพิ่งมีขายในเมืองไทยพร้อมกับYSL fusion ink brush เลยค่ะ ถ้าเทียบง่ายๆอาจเทียบได้กับเบส แต่ไม่มีสีเป็นเนื้อเจลใสๆ ผสมบำรุง เค้าบอกว่ามันเป็นตัวnew secretเปิดเผยความลับที่ทำให้ให้หน้าดูโกลว์ชุ่มช่ำนำ้ หน้าจะลอคความชุ่มชื้นไว้72ชั่วโมง โดยทาหลังทากันแดด แล้วลงรองพื้นได้เลยค่ะ โดยสามารถเติมระหว่างงวันได้หากหน้ารองพื้นเป็นร่องหรืออะไรก็ตาม

โดยหลังทาแล้วจะรู้สึกหน้านุ่มขึ้นมาเลยนะค่ะ อันนี้ไม่ได้โม้(เสียงพี่สมรักษ์) จริงๆนะค่ะตกใจเหมือนกันแต่จริงก็ดูราคาก็ควรจะ555 โดยรวมโอเคค่ะ รู้สึกหน้าโกลว์ปกติชอบหน้าดูวาวเกาหลีอยู่แล้วลองใช้ดูนะค่ะหากใครอยากเปลี่ยนเเนวแต่งหน้าแบบไสยไสยดูบ้าง

YSL fusion ink foundation

อันนี้คงไม่พูดมากเพราะมีคนรีวิวเยอะแล้วเนอะ เอาเป็นว่าถือว่าเป็นfoundation everyday look ไม่หนักเกิน บางเบาแบบรับได้ ค่อนข้างชอบแต่ไม่ที่สุด ถ้าเทียบจริงๆให้พอๆกับchanel les beiges all-in-one healthy glow cream แต่เนื้อจะเหลวกว่าchanelค่ะ

YSL Touche Eclat (Radiant Touch)

ตัวสุดท้ายแว้ววว ตัวนี้เราก็ค่อนข้างชอบนะค่ะเพราะเราใช้เป็นทั้งใต้ตา ไฮไลท์เลย แฮร่ เกลี่ยง่ายดี แต่เรื่องปกปิกอาจพอๆกับตัวแบรนด์อื่นหรือด้อยกว่านิดหน่อย ไม่เด่นมากเท่าไรฮือออ แต่โดยรวมเราชอบนะ มันใช้เวลาแต่งหน้าไม่จัดมากเหมาะดี จะซื้ออีกเพราะส่วนตัวเลยชอบ YSL 555

ปล.จากที่ใช้มา(พูดถึงใต้ตานะค่ะ)เราชอบเเบบเป็นเนื้อครีมมากกว่าค่ะอาจเกลี่ยยากหน่อยแต่ปกปิดอยู่ เอาจริงปกติเราใช้เนื้อแบบน้ำๆก่อนแล้วตบทับด้วยเนื้อครีมอีกทีค่ะ

จบสักที.....เด๋วหลังวันเกิดจะมารีวิวที่ซื้อมาใหม่นะค่ะ เอาแบบครบจัดเต็ม ถ้าตังค์ไม่หมดก่อนนะค่ะ5555 บายยยยยยย


LoNgKhOnG

LoNgKhOnG

❤️❤️

FULL PROFILE