Review BB Cream 4 ตัว ไว้ใช้ในวันขี้เกียจแต่งหน้า Aveeno, Welcos, Freshel, Clinique
Make up Addict 9 3
ในวันสบายๆไม่อยากทาอะไรเยอะ ครีมบำรุง กันแดด รองพื้น โอ้ย…เยอะไปนะ งั้นเป็น BB ครีมตัวเดียว ลงแป้ง เขียนคิ้วไปได้ละ ก่อนอื่นแนะนำที่มาของ BB Cream นิดนึงก่อนนะ BB Cream ย่อมาจาก Blemish Balm Cream ซึ่งส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของ ครีมบำรุง เบส รองพื้น และครีมกันแดด รวมไว้ในหลอดเดียว จึงเหมาะมากในวันเบาๆ หรือวันที่มีเวลาน้อย และนี้คือ BB ทั้ง 4 ตัวที่จะทำการ Review วันนี้ค่ะ เรียงตัวมาเลย
ตัวนี้มาจาก Canada เนื้อครีมใส่ในขวดปั๊มที่ล็อคได้ ใช้พกพา เสียแต่ตอนกดทีแรกครีมปลายจุกจะแข็ง ต้องหยิบทิ้งไปทุกที เนื้อครีมข้น สีที่ได้บีบออกมาค่อนข้างเข้มแต่งพอทาบนหน้าแล้วก็กลมกลืนกับสีผิวดี (เป็นคนผิวขาวเหลือง และมัน T-Zone) เกลี่ยง่ายนะ กลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ มี Glitter วิ้งนิดๆ น้อยมากๆ เรียกได้ว่าไม่สังเกตอาจจะไม่เห็น พอทาช่วงแรกหน้าไม่มันนะ แต่ระหว่างวัน มันจ้า ก็ใช้กระดาษซับมันช่วยไป
Aveeno เป็นอีกแบรนด์ของ Johnson&Johnson ซึ่งส่วนใหญ่ Aveeno เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ และ BB ตัวนี้มีส่วนผสมของถั่วเหลือง (Total Soy Complex) ซึ่งดูใน Web เค้าบอกว่าช่วยบำรุงในระยะยาวเพราะมีโปรตีน เลยมโนไปว่าอ่อนละมุนต่อผิว ล่างออกง่ายบางครั้งก็ล้างด้วยโฟมอย่างเดียวไม่ได้ใช้ Cleanser ก็ Ok นะ ไม่อุดตัน มีข้อเสียที่ทำให้กังวลอีกอย่างคือ หลังขวดเขียนว่า Store at 15-30 degree C คือบ้านเรามันเกินกว่านั้นอยู่แล้วอ่ะนะ ที่ใช้อยู่ก็ไม่ได้เก็บในตู้เย็นมันเลยเสื่อมไปแล้วเปล่าไม่รู้นะ
ราคา: ประมาณ 400 บาท ขนาด 75 ml ปริมาณเยอะใช้ได้นานมากกกกก
คะแนน: 8/10
ตัวนี้แบรนด์เกาหลี เลยไม่แปลกถ้ามีคุณสมบัติ Whitening ด้วย เนื้อครีมข้นมาก ลงบนหน้าทีแรกตกใจ หน้าฉันเทาค่า! ต้องเกลี่ยให้เนื้อครีมบางๆ เลยพอได้ ใครจะลองใช้แนะนำให้ลงบางๆก่อนนะค่ะ ค่อยๆเกลี่ยไป ปกปิดกลางๆ กลิ่นน้ำหอมจัดว่าค่อนข้างแรงนะ ลงตอนแรกไม่มัน แต่เช่นเดิม มันระหว่างวันค่ะ ไปๆมาๆไม่ใช้ครีมแล้วละที่มีปัญหา คือหน้าอิฉันเอง…มัน แต่เอาเป็นว่า Welcos มันน้อยกว่า Aveeno อ่ะ และสำหรับสรรพคุณ Whitening ยังพิสูจน์ไม่ได้เพราะยังไม่เคยลองใช้ตัวเดียวต่อเนื่องนานๆค่ะ ขอละไว้ก่อน ยังไงก็มีหลายคนที่เคยใช้ ชอบตัวนี้นะค่ะ Welcos แต่ส่วนตัวยังมีตัวอื่นน่าสนใจอยู่น้า…
ราคา: ประมาณ 300 บาท ขนาด 50 ml
คะแนน: 7/10
อีกแบรนด์นึงจาก Kanebo ซึ่งมีอยู่หลายสูตรนะ หลอดสีเทานี้สูตร UV ซึ่งมีค่า SPF 41 PA++ ถ้าหลอดสีอื่นจะเป็นสูตรให้ความชุ่มชื้น กับลดริ้วรอย เราเลยเลือกสูตร UV เพราะ SPF เยอะสุดละ เจอครั้งแรกตอนไปลอง Test ที่ Watson ปาดที่มือโอ้โห…เรียบเนียนอ่ะ มือดูเด็กลงเลย ชอบๆ เลยซื้อเลย ใช้แล้วก็ไม่ผิดหวังนะ ปกปิดค่อนข้างดีเลย ผิวผ่อง เนียนดี สีเหมือนสีผิวเรา ไม่วอก ติดทนอยู่ เนื้อครีม Ok มาก กำลังดีไม่เหลวหรือข้นเกินไป เกลี่ยง่าย กลิ่นน้ำหอมบางๆ แต่เอาจริงป่ะ ระหว่างวันก็มันนิดนึง เข้าใจว่า BB ยังไงก็มันนะ เพราะมันมี Moisturize เยอะกว่ารองพื้นอ่ะ แต่เนียนเลยให้อภัย ซับมันเอา ระหว่างวัน
ราคา: ประมาณ 486 บาท ขนาด 50 g
คะแนน: 10/10 เธอโดดเด่นด้วยการให้ผิวที่ดูเรียบเนียนขึ้น, SPF สูง, และราคาถูก
ตัวที่ใช้ Shade 01 อาจจะเป็นเพราะเราเลือก Shade ผิด ตอนทาตกใจนิดนึงว่ามันวอกไป (เป็นคนผิวขาวเหลือง) แต่พอรอสักพัก BB เริ่ม Set ตัวก็พอรับได้ไม่วอกมาก คนที่ปกติใช้สีสำหรับคนขาว เจอตัวนี้ต้องลองอีกทีนะค่ะว่าขาวไปหรือเปล่า เท่าที่เห็นมี Shade 01 และ Shade 02 นะ
กลิ่นน้ำหอมอ่อนมากๆ เรียกได้ว่าแทบไม่ได้กลิ่นเลย ส่วนเนื้อครีมเกลี่ยยากหน่อย ถ้าลงเยอะจะดูหนาได้ง่ายเลยละ บริเวณที่มีสิวเสี้ยนที่เคยโผล่มานิดๆคราวนี้ดูชัดขึ้นมาสวัสดีชาวโลกเลย แต่ก็ให้การปกปิดผิวส่วนอื่นๆดี และเนื้อครีมติดทนนานทั้งวัน ถือว่าไม่มันระหว่างวันนะ ถ้าใช้ควรล้างออกด้วย Cleanser นะค่ะ เพื่อป้องกันการอุดตัน
ราคา: ประมาณ 1300 บาท ขนาด 38 ml
คะแนน: 8/10 เห็นสิวเสี้ยนชัดไม่ค่อยปลื้ม แต่ก็ไม่มัน และติดทนมาก
BB Cream ตัวไหนที่ใช้แล้วมันไป ก็เก็บไว้ใช้ผสมกับตัวที่มีคุณสมบัติแห้งได้นะ ผสมได้ทั้งกับ BB Cream เอง หรือรองพื้น ซื้อมาแล้วไม่ทิ้ง ไม่ทิ้ง ใช้ต่อ
แต่คราวนี้ ถ้าต้องมี BB หลอดเดียวละก็จะซื้อตัวไหนละ
เราขอเลือก…แท้นแท้นแท้น แท่น " หมายแรก 3 Freshel Mineral BB Cream UV" ค่า เย้!!!
จะตื่นเต้นทำไมคะแนนก็ให้เต็มไปแล้วนิเนอะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ เจอกันใหม่ครั้งหน้านะค่ะ แนะนำติชมได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
