[Review] Tint Tint Tint. 3 ยี่ห้อ 3 ราคา สีแดงกับเดือนแห่งความรัก

22 11

สวัสดีค่ะทุกคน..^^ ซีซาร์ค่ะ

วันนี้จะมีรีวิว tint 3 ยี่ห้อในราคาที่แตกต่างกันให้ทุกคนดูกันน้าาา

ได้แก่ยี่ห้อ Benefit, Etude, Mistine ค่ะ

แล้วเดี๋ยวตอนท้ายจะเทียบแต่ละอันให้ดูกันเลยน้าาา

 



 

โชว์ตัวกันหน่อย ลูกๆ

สีที่เลือกมารีวิววันนี้เป็นสีแดง ให้เหมาะกับเดือนแห่งความรัก
สาวๆจะได้มีปากสีแดงระเรื่อ แก้มสีชมพูมีเลือดฝาดกันนะคะ

ไปดูแต่ละตัวกันเล้ยยยยยย 


1. Benefit Tint (12.5 ml - 1,325 bath)



มาเริ่มที่ตัวแรกจากเบเนฟิต ในรูปเป็นขนาด 4 ml นะคะ มาจากเซตค่ะ

ทินท์ที่ทางแบรนด์เค้าบอกว่าทำจากน้ำดอกกุหลาบค่ะ

กลิ่นจะเหมือนดอกกุหลาบเลยนะคะ เวลาทาแก้ม แต่ถ้าทาปากจะกลิ่นฉุดนิดๆเหมือนกินอุทัยทิพย์เลยค่ะ

สีที่ได้จะออกแดงชมพูจางๆ ดูสุขภาพดีแบบเด็กๆ

ไปอ่านมา.. เขาบอกว่าเมื่อก่อนเอาไว้ทาหัวนมนางโชว์ให้เป็นสีชมพู เห็นทีจะจริงแฮะ -..- 

ทาบนแก้มจะเป็นแบบนี้

 




ทาปากจะเป็นแบบนี้

จากรูป  ปากซีดๆ > ทา 1 ครั้ง > ทา 2 ครั้ง



ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา แต่ว่าทำให้ปากดูสุขภาพดีขึ้นเยอะมากๆนะคะ  
 

ทาแก้มทาปากแล้วจะดูสุขภาพดีแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่ความจริงเราฟาดมาเต็มที่ค่ะ อิอิ
 

2. Etude dear darling tine ( 495 bath)



อิทูดี้แบรนด์สัญชาติเกาหลีที่หลายคนคงรู้จักกันดีค่ะ แพคเกจจิ้งน่ารักที่สุดเลยยย

สีทาแล้วจะออกแดงส้มๆหน่อยค่ะ รสชาติอร่อยมากกกกกก อิอิ ชอบ

ทาบนแก้มจะเป็นแบบนี้ค่ะ


 

ทาปากบ้าง

ปากซีดๆ > ทา 1 ครั้ง > ทา 2 ครั้ง



ทาแล้วปากจะสดใสขึ้นค่ะ อันนี้ทาทั้งปากนะ เกลี่ยๆ ไม่ได้ทาแต่ด้านในค่ะ

 

3. Mistine I am ( 49 bath)




แบรนด์สัญชาติไทย ที่ออกแบบลายแพคเกจได้น่ารักกุ๊งกิ๊งเหมือนกันค่ะ

แถมมาในราคาที่น่ารักตามแพคเกจอีกด้วยค่ะ สีจะออกแดงม่วงๆหน่อย

ทาแก้มจะเป็นแบบนี้ค่ะ


ทาปากค่ะ

ปากซีดๆ > ทา 1 ครั้ง > ทา 2 ครั้ง



ของมิสทีนทาแล้วจะสีสดเห็นชัดกว่าทุกแบรนด์ค่ะ เราชอบสีนี้ที่สุด

ทีนี้เรามาดูแต่ละแบรนด์เทียบกันบ้างค่ะ

เริ่มจากหัวแปรง..



 

                                                   Benefit - จะเป็นขนแปรงแบบพู่กันค่ะ ทาง่าย
                                                   Etude - จะเป็นแปรงหัวตัด
                                                   Mistine - จะตรงๆหัวตัดเล็กน้อย

เนื้อผลิตภัณฑ์ค่ะ


 

                                                   Benefit - เนื้อเหลวเป็นน้ำค่ะ ทาแล้วจะกระจายเลย 
                                                   Etude - เป็นเนื้อเจล เกลี่ยง่ายค่ะ
                                                   Mistine - เนื้อเจลเหมือนกันค่ะ แต่จะไม่ดึ๋งเท่ากับอิทูดี้

 

สีที่ได้หลังจากเกลี่ยแล้วค่ะ


 

                                                   Benefit - แดงจางๆ ชมพูอ่อนๆค่ะ 
                                                   Etude - จะออกสีส้มนิดๆ
                                                   Mistine - แดงออกม่วงค่ะ

 

รูปข้างล่างนี้เผลอทาแล้วถ่ายรูปทิ้งไว้นาน.. เลยทำให้เป็นรอยเลยค่ะ

จะเห็นได้ชัดว่า Benefit ทิ้งไว้แล้วค่อยมาเกลี่ยสีก็ยังสม่ำเสมอ 

Etude ก็เริ่มเกลี่ยไม่ไปแล้วค่ะ แต่ Mistine นี่แห้งไวมาก ทาแล้วต้องรีบเกลี่ยเลยนะคะสาวๆ

ทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ ลองเอาไปผ่านน้ำดูก็ติดทน สีชัดเหมือนเดิมค่ะ



เปรียบเทียบบนปากค่ะ

รูปนี้ทาแล้วเอาวาสลีทาทับให้ปากวาวๆนะคะ
 


 

จบแล้วนะคะสำหรับรีวิว หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่สาวๆบ้าง

ลองไปเลือกสีที่ชอบ ราคาที่ใช่กันดูนะคะ  :)

.
.


 

 

 


Venussar

Venussar

สวัสดีค่ะ ซีซาร์ค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ :-)

FULL PROFILE