{{ Big Haul !!! ->> Face Color Rose LADUREE Giftset 2013 <<- !!!! }}

นานมากกกกก ที่ไม่ได้ตั้งกระทู้ (เกือบปีแน่ะ)

วันนี้เอาฤกษ์เอาชัยให้กับปีใหม่ที่สดใสของตัวเอง และซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดและคริสมาสให้ตัวเองด้วย

ด้วยการ..

เห่ออออ!!! ของเล่นชิ้นใหม่ ชิ้นใหญ่ (ทางจิตใจ) ชิ้นที่ wishlist มานานมากกก แต่ไม่มีโอกาสได้ซื้อ (ซักที)

นั่นก็คือออออ !!!

แค่เห็นถุงก็กรี๊ดลั่นไปถึงหน้าปากซอยแล้วววว

(เว่อออออร์!!)

ตามมาเปิดถุงกันนน

ออกมาจากถุงก็ยังเป็นกล่อง 555 เท้าความนิดนึง
พอดีว่าเพื่อนที่เรียนในห้องเดียวกันเค้าเป็นคนญี่ปุ่น เค้าบอกเค้าจะกลับบ้านช่วงคริสมาส
ไอ้เราก็หูผึ่งเลย (อีนี่ไวตลอดเรื่องจะฝากซื้อของ

)
เพราะช่วงคริสมาส ทาง Laduree ที่ญี่ปุ่นเค้ามี Face color rose Laduree giftset 2013 ออกมาพอดี
เราเลยใจกล้า! หน้าด้าน! เลียบๆเคียงๆฝากซื้อ ซึ่งเพื่อนก็ใจดีหอบหิ้วมาให้ อิอิ

(รูปจากเว็บ Laduree)

ตัวนี่เลยยยย!! ซึ่งเราสามารถเลือกสีไหนก็ได้ 1 สี แม้แต่สีลิมิเตทที่เพิ่งออกมา
ทาง Laduree เค้าก็จะจัดใส่กล่องนี้ให้ (แน่นอนถ้าเอาเซตนี้ต้องมี 'ผอบ' ของบลัชตัวนี้ด้วย)

(รูปจากเว็บ Laduree)

ราคา 10500 yen ซึ่งราคาของมันจริงๆก็เท่ากับเราซื้อบลัชกลีบกุหลาบและผอบรวมกันนั่นและ
(ตอนแรกนึกว่ามันถูกกว่าแบบซื้อแยก มานั่งบวกแล้วเทียบกันใหม่ เออ! เท่ากันนี่หว่า ตรูโง่ดีใจตั้งนาน 555)

แต่มองในอีกแง่คือ เค้าจะจัดใส่กล่องผูกโบว์ให้สวยหรู เหมาะแก่การซื้อเป็นของขวัญให้กันงี้

อ่ะต่อๆๆ

ด้านบนกล่องก็จะสลักชื่อแบรนด์เอาไว้สวยหรู (กล่องยังน่ารักเลยย

)

เปิดกล่องออกมา แต่ แด๊นน !!

ซึ่งก็จะมีสองกล่องที่แยกกันอยู่ คือตัวบลัช และผอบใส่บลัช

เรามาเปิดกล่องผอบกันก่อนดีกว่า

เปิดออกมาไม่ได้เจอตัวผอบเลยน่ะ เค้าจะแยกฝาและตัวผอบไว้อีกชั้นนึง
เราชอบน่ะ ทางแบรนด์ใส่ใจรายละเอียดดีมากก

แต๊ แด๊นนน !! สวยมากก หรูหรา ดูทนสมราคาน่ะ

เทียบกับฝ่ามือให้ดูว่าขนาดมันประมาณไหน ฝ่ามือเราเล็กอยู่น่ะ
ก็เค้าผู้หญิงตัวเล็กๆบอบบางง (หราาาา!!

)

อีกด้านที่ออกแบบมาเหมือนกรอบรูปและมีฉลุรูปผู้หญิงอยู่ภายใน ออกแนวศิลปะทางฝั่งตะวันตก
นี่คือเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ (ซึ่งน่าจะมาจากการออกแบบร่วมกันระหว่างญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสหรือปารีสน่ะ)

เค้าเก็บรายละเอียดได้ดีทีเดียวเลยละ

ซึ่งโอเคมันเล็กกว่าที่เราคาดหวังไว้ แต่ไม่เล็กเกินไป ดูน่าถนุถนอม

มาถึงไฮไลท์ของของชิ้นนี้กันดีกว่าาา !!

มาในรูปของกล่องสีเหลี่ยมจัตุรัสขนาดกำลังพอดี
เปิดข้างในมา เจ้าบลัชก็ยังถูกห่อหุ้มด้วยถุงผ้าสีชมพูสวยหรูอีกชั้นนึง
ถุงผ้าดูเจ้าญิ้งเจ้าหญิงเนาะ

มาดูกันใกล้ๆ กรี๊ดด น่ารักน่าถนุถนอมมากกก

ใกล้แค่ปลายนิ้วมือ เห็นอยู่แค่ในกล่องก็ะลลายแล้ววว

เปิดฝาออกมา โอ๊ยยย!! เป็นลมม นี่ฉันได้มันมาแล้วจริงหรอเนี้ยะ
(ตบหน้าตัวเองหนึ่งที เพี๊ยะ! เออ เจ็บวะ ไม่ได้ฝันไป อิอิ)

เค้าจัดเรียงมาเป็นระเบียบมาก ไม่มีแตกซักกลีบเลยน่ะขอบอก
(ถ้าแตกนี่มีร้องไห้น่ะค่ะ)

เราเลือกสี #101 ซึ่งเป็นสีลิมิเตท ที่ออกมาใหม่ เป็นสี Mix
สีนี้จะออกไปทางโทนส้มซึ่งมีสีชมพูเข้ามาฟิจเจอริ่งด้วย

(รูปจากเว็บ Laduree)

เทียบกับฝ่ามือให้ดู ขนาดกลีบกำลังพอดี เทียบเท่ากับกลีบกุหลาบจริงๆเลย เราว่าน่ะ
ตอนหยิบขึ้นมานี่มือสั่นมากกก!! กลัวแตกนู้นนี่นั่น

แต่ขอบอกเลยว่า กลีบกุหลาบคงรูปของตัวมันเองดีมาก ไม่เปราะบาง ไม่แตกง่าย
(แหม แต่ถ้าทำรุนแรง นางก็แตกนะจ๊ะ

)

หยิบจับที่ละกลีบ ทีละกลีบ ใส่ผอบ

แหมม มันช่างฟุ้งฟิ้ง งุ้งงิ้งๆดีจัง

(อะไรของมัน

)

แล้วฝันฉันก็เป็นจริงงงง !!

สรุปๆๆ แพ็ตเกตเลอค่ามากก สวยหรู ไม่ก๊องแก๊ง
ส่วนบลัช แน่นอนว่ากินใจทีสุด นอกจากการออกแบบที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆแล้ว
คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยลงไปเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก
ถึงราคาจะสูงไปหน่อย แต่ถ้าเราคิดว่าเราซื้องานศิลป่ะชิ้นนึง มันก็คุ้มน่ะ
(ซึ่งนางแพลนที่จะซื้อชิ้นต่อไปอีกแน่ๆ หึหึ

)

เอาแค่แพ็คเกตและราคาก่อนน่ะ ส่วนเรื่องสีเค้าจะมารีวิวกระทูหน้าอีกที แหะๆ ^^
แค่เห่อก็ยาวละนะเนี้ย คนมันเพ้ออ่ะ อิอิ

ยังงงง !!! ละครการเห่อยังไม่จบ อย่าเพิ่งลุกไปไหนนน อิอิ

แน่นอนว่า ทางแบรนด์ซึ่งทำการตลาดอย่างดีมาฆ่าชะนีอย่างอีชั้น

ถ้ามีบลัช ก็ต้องมี ...

แต๊ แด๊นนน !!!

ทางแบรนด์เค้าบอกว่า มันจะดีมากถ้าคุณใช้บลัชควบคู่ไปกับแปรงอันนี้ ซึ่งออกแบบมาให้ใช้คู่กัน อย่างลงตัว

หึหึหึหึหึหึ

แล้วตรูก็ พลาดดดด!! มีหรือที่นางจะไม่ตกเป็นเหยื่อทางการตลาดเช่นนี้

สติหลุดลอยยยย รู้ตัวอีกทีคือ สั่งไปแล้ว 5555

นางถูกใส่ซองพลาสติกและยึดเหนี่ยวด้วยกระดาษฉลุลายหรูหราสไตล์ Laduree มา

เทียบกับฝ่ามือ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังพอดีมือ
ส่วนรูปลักษณ์ แน่นอนว่าหรูหรา ถึงจะเป็นพลาสติก แต่ก็ดูทนน่ะ ไม่เหมือนของเด็กเล่นตามตลาดนัดง่ะ อิอิ

ขนแปรงแน่นกำลังดี และแน่นอน นุ่มไม่บาดหน้า

พุ่มแปรงก็ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป เหมาะแก่การปัดบลัชเป็นที่สุด

มาดูด้านข้าง จะเห็นความแตกต่างว่าตรงโคนของขนแปรงจะมีสีขาว ส่วนปลายจะออกส้มๆชมพูๆ
(ซึ่งเพื่ออะไรนั้น ใครรู้บอกด้วยน่ะจ๊ะ หรือเค้าออกแบบมาให้มันดูเก๋ๆ ไม่น่าเบื่อกันน่ะ ^^)

และถัดลงมาตรงด้ามแปรง ในส่วนด้านบนออกมาแบบมาเป็นสีทอง มีรูปฉลุผู้หญิง
(อารมณ์เหมือนศิลปะโรมันหรือทางฝั่งตะวันตกเลยเนาะ

)
สวยและหรูหราอีกแล้ววว เหมือนแปรงแต่งหน้าสำหรับเจ้าหญิงอ่ะ

ฟุ้งฟิ้ง งุ้งงิ้งๆๆ

โอเคคคคค จบจริงๆแล้ววว ส่วนรีวิว กระทู้หน้านะจ๊ะ วันนี้ขอไปนอนกอดเจ้านี้ก่อน
เผื่ออาจจะฝันว่าเป็นเจ้าหญิงในปราสาทสวยหรูกะเค้ามั้ง

(เพ้อตลอดดด!!

)

ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ จุ๊บๆๆๆ