Shopping Guide: คสอ. สำหรับการแต่งหน้ารับปริญญา!!

20 8

แต่งหน้ารับปริญญา ต้องมีอะไรบ้าง?
ใช้อะไรดี? เครื่องสำอางอะไรที่ติดทนนาน?

เนื่องจากเรารับปริญญาไปเมื่อต้นปี และเราก็แต่งหน้าเอง
วันนี้เราเลยจะมารีวิวไอเทมที่เราใช้ ไว้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆน้องๆที่กำลังจะรับปริญญาต่อไปค่า



เริ่มกันที่ขั้นตอนสำคัญที่สุดกันก่อน
คือขั้นตอนของการลง Base Makeup นั่นเอง


Base Makeup Items ที่เราเลือกใช้มี 3 ตัวค่ะ
1) 3 Concept Eyes Pore Silky Balm
เป็นตัวช่วยให้ผิวเรียบลื่นขึ้น ลงเมคอัพได้ง่ายขึ้น
แต่ต้องใช้แต่น้อย ไม่งั้นรองพื้นจะเป็นคราบได้นะคะ สำหรับรีวิวของตัวนี้เคยเขียนไว้แล้วในลิ้งนี้ค่ะ ♥
ถามว่า จำเป็นมั้ย? เราตอบเลยว่าไม่ค่ะ 55555
แต่สำหรับวันที่เราอยากให้หน้าเป๊ะจริงๆนี่นา เราก็อยากได้ตัวช่วยเสริมความมั่นใจ
ถ้าเป็นคนรูขุมขนกว้าง ผิวหน้ามัน การใช้ primer ก็เป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ
มีเตรียมไว้สักตัวของอะไรก็ได้ ก็ไม่เสียหายนี่คะ :)

2) Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Foundation
นี่มันรองพื้นในตำนานนนน!!
เชื่อว่า ถ้าคุณเสิร์จหารองพื้นสำหรับวันรับปริญญา ชื่อของรองพื้นเอสแต่ขวดแก้วนี้ จะขึ้นมาในอันดับแรกๆแน่นอน
ด้วยความที่ปกปิดได้ดี ติดทน และควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยม
เรียกว่าหน้าเป๊ะมากๆ เช้ายันเย็นไม่มีหลุดไม่มีเยิ้ม
เราใช้คู่กับแปรงทารองพื้นค่ะ ค่อยๆทาสโตรกสั้นๆ และกดซ้ำในส่วนที่ต้องการปกปิด
บอกเลยว่าแทบจะไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เพิ่ม


ถามว่าหนามั้ย หนาค่ะ ดูรู้ว่าทารองพื้นมาแน่ๆ แต่มันให้ลุคที่เป็นธรรมชาติอยู่
คือไม่แมทท์เกินไป หน้าไม่แฟลทแบนไม่มีมิติ
เรียกว่ารองพื้นขวดนี้เป็นพระเอกของงานเลยค่ะ ^^

แต่ข้อเสียคือ ไม่มีสีที่พอดีกับหน้าเราค่ะ บีเอลองให้สองสี ตัวหนึ่งออกโทนชมพูค่อนข้างขาวกว่าหน้า
ส่วนตัวนี้ที่ซื้อมาสีออกเหลืองและเข้มกว่าผิวเรา
แต่พอดีเราซื้อมาใช้ในการถ่ายรูปอยู่แล้ว ก็เลยโอเคกับรองพื้นที่สีเข้มนิดหน่อย เพราะจะทำให้ถ่ายรูปได้สวยกว่า

2) Etude Precious Mineral BB Cream All Day Strong
อย่างงนะ ว่าลงรองพื้นแล้ว ยังจะลงบีบีอีกหรอ แถมยังได้ชื่อว่าหนาทั้งคู่อีก ฮ่าๆ
อย่างที่บอกค่ะ ว่ารองพื้นของเอสเต้สีค่อนข้างเข้ม
เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้ลุคส์ที่สว่างกระจ่างใสขึ้น เราจะใช้สองตัวค่ะ
ใช้เอสเต้ในส่วนของกรอบหน้า และบีบีครีมตัวนี้ในส่วนที่ต้องการไฮไลท์ค่ะ ที่หน้าผาก จมูก คาง โหนกแก้ม
ทำให้ได้ผิวหน้าที่ดูมีมิติขึ้น เพราะบีบีมีสีค่อนข้างสว่าง และยังมีความโกลว์กว่ารองพื้นด้วยค่ะ
ได้ผิวที่สวยทีเดียวเลย บีบีตัวนี้ติดทน และไม่เป็นคราบเช่นกันค่ะ ในข้อแม้ว่าใช้แต่น้อยนะคะ
แต่เหมือนจะมีรุ่นใหม่แล้ว ไม่แน่ใจว่าเหมือน/ต่างกันยังไงบ้างนะ



แต่ถ้าหน้ามันมากๆ วิธีนี้จะทำให้ผิวดูมันนะ เพราะฉะนั้นสาวหน้ามันเลี่ยงบีบีครีมดีกว่าค่ะ


ต่อที่ขั้นตอนของการปกปิดแพนด้า และรอยด่างดำ



1) Revlon Photoready Concealer
เป็นคอนซีลเลอร์ที่เนื้อค่อนข้างแห้ง แต่มีกลิตเตอร์ละเอียดยิ้บช่วยกระจายแสงอยู่ด้วย
ปกปิดได้ค่อนข้างดี แต่ติดไม่ทนทั้งวันมีหลุดๆไปบ้าง ตัวนี้ซื้อมาเตรียม แต่วันจริงไม่ได้ใช้ และก็ไม่ได้ใช้อีกเลย
เพราะว่าแพ้อ่ะ u.u ใช้แล้วสิวขึ้น ใช้ทาใต้ตาก็มีเม็ดแดงๆขึ้น
ก็เลยอาศัยการปกปิดจากรองพื้นเอาอย่างเดียวเลย
แต่ถ้าไม่แพ้นะ และมองหาคอนซีลเลอร์ราคาไม่แพง ตัวนี้เป็นอีกตัวที่น่าสนใจค่ะ

2) Essence I Love Stage Eye Shadow Base
เราบอกไม่ถูกจริงๆว่ามันทำให้คสอ.ติดทนขึ้นมั้ย สีชัดขึ้นรึป่าว
แต่สิ่งที่มันทำได้ดีคือช่วยลดความหมองคล้ำรอบดวงตาค่ะ เราเลยใช้เหมือนเป็นคอนซีลเลอร์ตัวนึง
โอเคเลย เนื้อครีมนุ่ม ไม่แห้ง ไม่ตกร่องใต้ตา ผิวดูสว่างขึ้น
แต่ถ้าต้องการใช้ปกปิดแพนด้าตัวโตๆ อาจจะช่วยไม่ได้มากนักนะคะ

ขั้นตอนพิเศษสำหรับเราค่ะ
ผิวที่ดีคือผิวที่มีเลือดฝาด แก้มอมชมพูตลอดเวลา 55555


M.A.C Casual Colour Lip & Cheek Colour #Lazy Sunday
หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว เราจะใช้ครีมบลัชทาพวงแก้มค่ะ ด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่าทำให้ดูเด็กและสดใส
เราเป็นเด็กจบใหม่นี่นา ก็ต้องแก้มใสอมชมพูอย่างงี้แหละ แอร๊ย

ตัวนี้เคยรีวิวไล้แล้วค่า ตามไปอ่าน และดูรูปswatchสีได้ ♥

เมื่อลงผลิตภัณฑ์ประเภทครีมไปหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเซ็ตทุกอย่างด้วยแป้งฝุ่นค่ะ
ท่องไว้ว่าสำหรับการแต่งหน้ารับปริญญาสิ่งที่คุณต้องการคือ แป้งฝุ่นโปร่งแสงและคุมมัน
แต่ถ้าคุณไม่มีมันอยู่ในกระปุกเดียวกัน ก็ให้ผสมมันซะ!!


1) Reis Care Baby Powder
แป้งเด็กที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า! มีคุณสมบัติคุมความมันได้ดีค่ะ แต่สีค่อนข้างขาวและวอก
เราใช้ปัดเบาๆในบริเวณทีโซน เป็นแป้งราคาถูกที่คุมมันได้ดีมากกกกกกกก

2) Beautilicious Ultralight Loose Powder
จากนั้นเซตทุกอย่างด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงอีกที เพราะเราต้องการหน้าที่แน่นและเป๊ะ
เราเลือกใช้พัฟค่อยๆกดแป้งให้กระจายทั่วใบหน้าค่ะ
แป้งตัวนี้ช่วยกระจายแสง ทำให้ผิวหน้าดูเนียนนุ่มฟุ้งเฟ้อมาก
สำหรับลุคที่ได้จะไม่แมทมากค่ะ ใครต้องการผิวหน้าที่ดูแมทกว่านี้ อาจจะต้องเลี่ยงไปดูแป้งตัวอื่นแทน
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ ♥

โอเค ตอนนี้เราเตรียมผิวหน้ากันเสร็จแล้ว
เรามีผิวที่เรียบเนียน แต่สิ่งที่เราต้องการมากกว่านั้น สำหรับการถ่ายรูป
คือโครงหน้าที่ชัดเจน

1) Essence Sun Club Matt Bronzing Powder
เป็นเชดดิ้งที่สีเป็นธรรมชาติไม่อมส้มอมแดงไม่มีวิ้ง ที่ราคาถูก และปริมาณคุ้มค่ามากที่สุด ที่อยากจะแนะนำ
ใช้ปัดรอบกรอบหน้าไล้ดั้งเก็บแก้มและเหนียง เราใช้จนติด แบบว่ามันแตกต่างกันจริงๆระหว่างใช้กับไม่ใช้อ่ะ
เวลาถ่ายรูปมันเห็นความแตกต่างได้เลย ถือเป็นไอเทมที่สำคัญอีกตัวเลยค่ะ
แต่ถ้าถามว่าทนมั้ย? ไม่มากค่ะ คงต้องบอกว่าคุ้มราคา
แต่ไม่ได้แย่ถึงขั้นแบบแป๊ปๆ อ้าว หาย ไรเงี้ย 4-6 ชม. ได้อยู่ค่า

2) 3 Concept Eyes Highlighter สี Gold Pink
มีเชดดิ้งก็ต้องมีไฮไลท์ ตัวนี้คือไฮไลท์ดั้งพุ่งสำหรับเราค่ะ 555
เนื้อค่อนข้างละเอียด ไม่ได้เห็นเป็นกลิตเตอร์ใหญ่ๆอะ ปัดแล้วสวย ปัดเถอะ เคยรีวิวแล้วเช่นกันค่ะ ♥

3) Maybelline Cheeky Glow #Creamy Cinnamon
เป็นบลัชออนราคาประหยัดที่สีสวยดูดี สีนี้เป็นสีออกน้ำตาลบ่มแดดมีวิ้งๆนิดๆ
ตัวแก้มเราทาครีมบลัชสีชมพูไปแล้ว บลัชตัวนี้จะปัดด้านข้างแก้มในแนวเฉียง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นค่ะ
และด้วยความรู้สึกส่วนตัวเหมือนกัน มันทำให้หน้าดูแทนดูโกลว์ดูราคาแพง ฮ่าๆ

ตามมาที่คิ้ว

In2It Eyebrow Powder
สภาพยับเยินมาก 55555 เป็นพาเลตเขียนคิ้วที่มีสามสี ปรับสีให้เข้ากับสีผมได้
ติดทน และราคาถูก แนะนำค่ะ

แต่งตากันบ้างงงง

1) Essence Sunclub Eyeshadow Palette
เป็นพาเลตที่มีวิ้งทุกสีค่ะ สีอ่อนๆ เหมาะกับคนที่เพิ่งหัดแต่งหน้า เพราะแต่งง่ายทาง่ายใช้นิ้วป้ายๆก็ยังได้

2) Sleek i-Divine "Oh So Special"
พาเลตยอดฮิตอีกอัน สีชัดกว่าพาเลตแรกค่ะ ตอนรับปริญญาเราใช้Essenceสีวิ้งๆเป็นbase และใช้Sleekสีเข้มคัดเบ้าค่ะ
เพราะเราต้องการตาที่คมชัด แต่งวิ้งๆอ่อนๆคงไม่ไหว ถ่ายมาไม่เห็นอะไรพอดี

การแต่งตารับปริญญาจะใช้อายชาโดว์ของอะไรก็ได้ค่ะ
แต่ที่อยากแนะนำคือ ลองเลือกพาเลตที่สีแนวๆสองตัวนี้ดู แต่งง่ายและสุภาพค่ะ

ขนตา และอายไลน์เนอร์!

1) Maybelline Volume Express Falsies
เราใช้ปัดเซ็ตขนตาหลังจากดัด แต่ไม่ได้สนใจว่าจะหนาจะยาวจะฟูยังไง เพราะเราติดขนตาปลอมอยู่แล้ว
แต่เราใช้แล้วแอบแพนด้าล่ะ u.u

2) DUO Eyelash Adhesive
กาวติดขนตาปลอม ติดทนตลอดวัน แห้งแล้วกลายเป็นสีใสๆค่ะ ราคาแพง แต่ใช้ได้นาน
ถ้าคิดจะติดขาตาปลอมกาวก็สำคัญนะในวันนั้น เลือกกาวดีๆดีกว่าค่ะ ดีกว่ามาพะวงว่าขนตาฉันจะหลุดมั้ย อะไรมั้ย

3) Preciosa-NAT080
ตอนซื้อเราถามคนขายว่าตัวไหนธรรมชาติสุดก็เลยได้เบอร์นี้มาค่ะ
แกนบางนิ่ม ไม่แข็ง ไม่หนักตา ติดแล้วค่อนข้างเป็นธรรมชาติเลย
ถ้าอยากให้เห็นว่า เออ ชั้นติดขนตามานะ อาจจะขยับเป็นเบอร์ที่ดูหนากว่านี้นิดนึง
เราจำเบอร์ไม่ได้อะ ยังไงลองเลือกดูค่ะ
แต่อยากให้เน้นแบบธรรมชาตินะ ดูน่ารักกว่าขนตาแบบฟูเฟ่อจับช่อตาตุ๊กตาเยอะเลย

4) Maybelline Master Liner
อายไลน์เนอร์แบบดินสอของเมเบอลีน เราใช้สีน้ำตาลค่ะ ซื้อมาแบบไม่คิดอะไร แต่มันดีกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย
เนื้อไม่ได้นุ่มมาก แต่ก็ไม่ได้เจ็บตาเขียนง่าย และติดทนจนได้รับเลือกมาแต่งหน้าในวันถ่ายรูแรับปริญญาเลยล่ะ
คือถ้าไม่ทนเราไม่เอามาใช้อยู่แล้ว เพราะโอกาสเสี่ยงในการกลายเป็นหมีแพนด้ามันค่อนข้างสูง = =
แต่ตัวนี้ผ่านนนนนนนๆๆ น่าเสียดายที่ดินสอแท่งน้อยนี้หมดเร็วมาก เลยยังไม่ได้ลองกับอากาศร้อนๆช่วงนี้เลยค่ะ

5) Lifeford Hi-Precise Eye Pen
หลังจากถมด้วยดินสอแล้วเราจะใช้ปากกากรีดทับอีกทีค่ะ เพื่อความมั่นใจว่ามันจะติดแน่นคงทน
และเพื่อเพิ่มความคมชัดด้วย อายไลน์เนอร์แท่งนี้เขียนง่าย ใช้งานง่าย แห้งเร็ว ไม่เลอะเทอะ
ความติดทนสูง ตอนรับปริญญาไม่เลอะเลย
แต่ตอนนั้นมันหน้าหนาวไง พอมาใช้ตอนนี้ชั้นตาที่หลบในจะแอบเลอะไปเลยค่ะ ฮือออ


ตามมาที่ปาก เราอยากได้ปากสีออกแนว coral สดใส ส้มอมชมพู ชมพูอมส้ม ไปหาซื้อใหม่ก็ไม่เจอที่ถูกใจก็เลยผสมกันเอาเลย ด้วยสองสีนี้ค่ะ
1) Mac Viva Glam GAGA ลิปสีชมพูสดสว่าง เนื้อซาติน ไม่ชุ่ม แต่ไม่แห้งมาก ติดทนมาก
2) Etude Look At My Lip #09 สีออกส้มๆคล้ายๆชานม ทาแล้วค่อนข้างสว่างสดใส เนื้อครีมมี่ชุ่มชื่น


เมื่อผสมกันจะได้สีที่ทาแล้วสดใสตรงสเปคเลย ไม่ชมพูเข้มไปติดส้มหน่อยๆ ดูเป็นสีที่สดใสอะ และก็ยังสุภาพด้วย
ที่สำคัญจะดูชุ่มชื้นจากเนื้อของEtude
แต่ติดทน คือถ้าหลุดก็จะยังคงเหลือStainสีจางๆจากกาก้าค่ะ

Ready to go! ^0^
เท่านี้เราก็สามารถแต่งหน้ารับปริญญาเองได้แล้ว จะบอกว่าของไม่เยอะก็คงจะโกหก ฮ่าๆ
เยอะ! แต่เราว่ามันคุ้มค่ากับการลงทุน คุณจ่ายตังค์สามพันจ้างช่างแต่งหน้าได้วันเดียว
แต่ถ้าคุณจ่ายตังสามพันซื้อเครื่องสำอาง คุณมีอุปกรณ์แต่งหน้าต่อไปได้อีกหลายงานเลยล่ะ

อ่อ แล้วก็ระหว่างวัน แนะนำสิ่งที่ต้องพกไป
ลิปสติกสีเดียวกับที่ทาไป สเปรย์น้ำแร่ และแป้งสักตลับ



1) Evian Facial Spray
ถึงแม้จะแต่งหน้าไปเป๊ะแค่ไหน อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าลืมว่าเราต้องเจออากาศร้อน ทั้งเดินถ่ายรูป ทั้งเหงื่อทั้งแดด
สเปรย์น้ำแร่จะกลายเป็นเพื่อนแท้ของคุณ ฉีดเพื่อเพิ่มความสดชื่น ฉีดเพื่อfix make up บนใบหน้าของคุณ
และซับเบาๆด้วยกระดาษทิชชู่

2) MAYBELLINE CLEAR SMOOTH ALL IN ONE shine free cake powder
ปกติเราไม่ใช้แป้งผสมรองพื้น แต่ตัวนี้เขาว่ากันว่าดี เนียน ควบคุมความมัน บลาๆ
เราใช้แปรงปัดบางๆทั่วใบหน้าเท่านั้นในการทัชอัพ ไม่ได้คาดหวังอะไร
แต่แป้งก็ช่วยทำให้ใบหน้าที่เหนื่อยล้าดูเฟรชขึ้นได้ ถือว่าโอเค เติมได้ไม่เป็นคราบ ไม่ทำให้หน้าหมอง
ย้ำว่าใช้แปรงปัดแต่น้อยนะคะ และซับหน้าก่อนจะเติมแป้งแล้วนะ

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวไอเทมที่ใช้ในการแต่งหน้ารับปริญญา
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ และตอบคำถามได้บ้าง สำหรับคนที่กำลังมองหาว่า
จะเตรียมตัวยังไงดี จะต้องมีเครื่องสำอางอะไรบ้าง ใช้เครื่องสำอางตัวไหนดี
บางอย่างเราไม่ต้องใช้ของแพง บางอย่างเราไม่ต้องซื้อใหม่ก็ได้

ใครมีคำถามเกี่ยวกับอะไรตัวไหน ทิ้งคอมเม้นท์ไว้ได้เลยค่ะ
 


yellowLimes

yellowLimes

FULL PROFILE