Howto:มหากาพย์แต่งหน้าสัมภาษณ์งาน/เรียนต่อผ่านSkype!

73 41

 

สวัสดีค่าาาาาาาเพื่อนๆจีบันทุกคน วันนี้กลับมาพร้อมกับลุคของการแต่งหน้า "เพื่อสอบสัมภาษณ์ผ่านทางคอมพิวเตอร์" ไม่ว่าจะ Skype หรืออะไรอื่นๆได้อีกมากมายค่ะ

 

ฮาวทูนี้ ได้มาจากเมื่อตอนเกิดเหตุการณ์ต้องสอบสัมภาษณ์เรียนต่อนั่นเอง เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยส่งเมลมาเรียกให้ไปสอบสัมภาษณ์ โดยให้เลือกว่าจะบินไป หรือ สอบผ่านการ Skype เราคำนวณดูแล้ว เราอาจจะล่มจมได้ถ้าบินไปถึงที่โน่นเพื่อ 1 วัน   เราจึงขอเลือกเป็นการ Skype ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกอย่าง รวมทั้ง เสื้อผ้า หน้าผม วันนี้ก็เลยจะมาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคน เผื่อใครจะได้เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์นะคะ

 

 

 

 

Before-After ตามธรรมเนียม 

 

คำเตือน: กริยาอาการที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ขอเรียกว่า การ"โบ๊ะ" ลืมทฤษฎีการบาลานซ์เครื่องหน้า ประเภท ปากแน่น ส่วนอื่นเบา ไปก่อนชั่วคราวนะคะ

 

 

เริ่มที่กันที่รองพื้น ข้อดีของ skype คือ มันมัว เมื่อมันมัว สิวฝ้ากระจึงไม่เป็นจุดสังเกต แต่ยังไง เพื่อความนวลเนียนดูสดชื่น เราจึงเลือกบีบีครีม ลงให้ทั่วหน้า

 

 

ลงคอนซิลเลอร์ใต้ตา ใช่สีที่อ่อนกว่าผิว 1 เฉดค่ะ ให้ใต้ตาดูสว่างสดใส จะได้ไม่ดูหม่นหมองง่วงซึม

 

เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ข้อเสียของมันคือ เมื่อกล้องมันมัว เราจึงต้องเน้นทุกจุดของใบหน้าให้ชัดเจน ไม่งั้นคนสัมถาษณ์อาจจะ ตกใจนึกว่าสัมภาษณ์ผีไม่มีหน้า การลงรองพื้นเพียงขั้นตอนเดียว จะทำให้เราดูเหมือน มนุษย์หน้ากระด้งซึ่งก็คงไม่มีใครอยากให้ถูกจดจำในทางนั้น ดังนั้น โครงหน้า จึงจำเป็นต้องเน้นให้ชัดเช่นกันค่ะ

 

 

แล้วตามด้วยไฮไลท์ชนิดเหลวที่บริเวณสันจมูก หน้าผาก คาง

 

โครงหน้ามาแล้ว ลงบลัชชนิดครีม เพื่อที่ว่าเมื่อเราปัดแก้มด้วยฝุ่นหลังจากนั้นแล้ว สีจะได้เด่นชัด ไม่เช่นนั้น.... ค่ะ เราก็จะดูซีดเซียว  มีตา มีปาก ไม่มีแก้ม??? ไหวมั้ย?????

วิธีลงก็คือ ยิ้มมมมมม ค่ะ แล้วได้ตรงที่มันนูนขึ้นมา ก็ลงสีในลักษณะเป็นวงกลม แล้วก็เกลี่ยจนกลืนไปกับผิวนะคะ จากนั้นแตะไฮไลท์ตัวเดิมเมื่อสักครู่นิดนึง แตะที่จุดสูงสุดของแก้ม ให้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ

 

 

จบขั้นตอนของการเตรียมพื้นผิว ความรู้สึกตอนนี้คือความ เหนียว ค่ะ ดังนั้น จึงต้องปัดแป้งซะก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว ปฏิบัติการ "โบ๊ะ" ในช่วงของ "ดวงตาอันคมเข้มทรงพลัง เพื่อเสริมลุคมั่นใจเต็มเปี่ยม" อาจจะกลายเป็น "การแต่งตาเพื่อเน้นว่าฉันตื่นเต้นจนนอนไม่พอ จึงเน้นความคล้ำของตาเพื่อเรียกคะแนนสงสาร" แทน เนื่องจากผงสิ่งต่างๆที่อาจตกลงมากองผสมรวมร่างกับรองพื้นนั่นเองค่ะ

 

 


ขึ้นโครงหน้าเสร็จแล้ว ผิวดีแล้ว.....

 

 

 

 

ลงแป้งหน้าแห้งแล้ว แต่งตาาาาาา กันเถอะ....

 

 

 

อย่างที่บอกว่าเราจะเน้นความเข้มคมชัด โดดเด่น ทะลุจอมัวๆของคอมฯ ก่อนจะเริ่มทำอะไร กรุณาลงไพรเมอร์ป้องกันไว้ก่อนเป็นอันดับแรกนะคะ

 

 

 

ลงสีน้ำตาลให้ทั่วกระบอกตา 

 

ตามด้วยสีน้ำตาลเข้ม คัดเบ้า

 

ใช้แปรงสะอาดๆอันใหม่ แตะสีน้ำตาลกลางๆ ระหว่าง2 เฉดเมื่อสักครู่  ลงตรงกลางตาจุดที่เชื่อมระหว่าง2 สีก่อนหน้า แล้ว Blend ให้สีดูกลืนกัน

 

ลงสีดำ เขียนเป็น V shape ล้อมกรอบนอกบริเวณที่เราคัดเบ้าไว้ก่อนหน้า เกลี่ยให้สีกลื่นกัน และลงที่หางตาล่างประมาณ 1/3 ของตาล่าง

 

สุดท้าย ทำความสะอาดและเก็บรายละเอียดทุกอย่างด้วยสี อ่อน เกลี่ยไล้บริเวณโหนกคิ้ว ใต้ตา หัวตา 

 

 

 

 

 

มาถึงขอบตาค่ะ เราลงเจลไลเนอร์ก่อนที่ขอบตาบน ไม่วิง ไม่ตวัด ไม่แคทอายค่ะ สำหรับเรามันจะดูแฟนซีไปนิดสำหรับการสัมภาษณ์หรือเจรจาธุรกิจใดๆ แบบธรรมดาจะช่วยสร้างลุคที่ดูจริงจังได้ดีกว่าค่ะ

 

ลงไลเนอร์ชนิดน้ำทับที่เขียนเจลไว้เมื่อครู่ ช่วยย้ำให้เกิดความดำสนิท

 

 

 

ใช้ดินสอเขียนตานุ่มๆ สีดำ เขียนอินเนอร์ทั้งบนและล่าง (ตอนทำฮาวทูนี้ซื้ออายไลเนอร์ใหม่มา Mac Archie's girl แอบเห่อ ใช้ซะเลย อิๆ) เมื่อเสร็จแล้วก็ปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่างได้เลยค่ะ

 

การแต่งตาคราวนี้ขอให้นึกอารมณ์เขียนตาแบบแขกนะคะ ตาคนแขกแต่งได้คมขนาดไหน หน้าโล่งๆแบบเราก็ขอประมาณนั้นน่ะค่ะ

 

 

 

เขียนคิ้วโลดดดดดด....

 

เขียนคิ้ววันนี้..... คอนเซ็ปเดิม เมื่อตาเข้ม ขนาดนี้ คิ้วก็ควรจะรับกับตานะคะ ไม่ใช่ออกจอมาแล้ว กรรมการบอก อ้าว! ไม่มีคิ้ว!!! ประโยคนี้เจ็บนะ

 

 

ดังนั้น เขียนคิ้วก่อนเลยด้วยดินสอเขียนคิวเฉดที่รับกับสีผม สร้างรูปคิ้วก่อนเลย ค่อยๆใช่ดินสอเขียนเติมส่วนที่ขาด เราพยายามให้หัวคิ้วหนาหน่อยแล้วค่อยๆให้ปลายค่อยๆเรียวลงช่วงปลายค่ะ

 

ลงพาวเดอร์เขียนคิ้วสีเฉดเดียวกับดินสอเขียนคิ้ว เราใช้สีน้ำตาลเข้มช่วงหัวคิ้วค่ะ และใช้สีน้ำตาลที่อ่อนกว่านิดนึงช่วงหางคิ้ว 

 

สุดท้าย จัดการขนคิ้วทั้งหมดให้เป็นระเบียบด้วยมาสคาร่าใสค่ะ

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเขียนคิ้วของแต่ละคนก็ต้องให้รับกับรูปหน้าของตัวเองด้วยนะคะ  คิ้วเป็นสิ่งช่วยเสริมบุคลิกและบอกอารมณ์ของบุคคลด้วยค่ะ จะจริงจัง จะอ่อนโยน จะเศร้า ก็คิ้วนี่แหละค่ะ

 

 

 

ตา มา แล้ววววว

ทำไมต้องเน้นตาขนาดนี้ ทราบมั้ยคะ? เพราะว่าการสัมภาษณ์ผ่านจอคอมฯแบบนี้ มันไม่เห็นหน้า ไม่เห็นแววตา ซึ่ง กรรมการส่วนมากต้องการจะ มอง แววตาของเรา ว่า เรามีความมั่นใจมั้ย? หรือ เราดูป่วยทางจิตมั้ย? (จริงๆนะ)

 

ทีนี้ การคุยกันผ่านจอคอมมัวๆ แบบนี้ ลองนึกสิคะ ถ้าสมมุติเราไม่มีตา เอาง่ายๆเวลาแชทกะเพื่อน หน้าเราจะดูเปนยังไงคะ?? 

ดูง่วงค่ะ!!!!  ง่วง บวม ด้วย ดังนั้น อย่างน้อยการแต่งให้เน้นรูปตาชัดๆแบบนี้  จะช่วงสร้างอิมเมจในด้านบวกให้แก่อีกฝั่ง ทำให้เค้าไม่รู้สึกว่า เราไม่จริงจัง เราไม่เตรียมพร้อม เราง่วง เราจิต เราฯลฯ  ช่วยให้ความ น่าคุย เพิ่มขึ้นในระดับนึงค่ะ 

 

 

 

มาต่อกันที่ ปฎิบัติการ "โบ๊ะ" ช่วงต่อไป

 

ปาก พูดดีเป็นศรีแก่ปาก การสัมภาษณ์ คือการพูด คำพูดที่สวยและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ก็ต้องมาจาก ริมฝีปากที่สวยใช่มั้ยคะ?

 

ในกรณีนี้ เราขอบอกว่า เลือกใช้สีที่ ส่วนตัวคุณ ใช้แล้ว รู้สึก มั่นใจที่สุด (แต่ขออนุญาตงดสีนู้ดทั้งหลายไปก่อนนะคะ จะนู้ดชมพู นู้ดส้ม นู้ดน้ำตาล ดูป่วยอาการโคม่าหมดค่ะ ลองมาแล้ว ถ้าชอบสีนู้ดมากจริงๆ ครั้งนี้ขอให้ใช้เป็นสีน้ำตาลที่เฉด เข้มหน่อยน่ะค่ะ เช่นแบบ MAC Spirit หรืออะไรแบบนั้น)

 

 

ส่วนตัวเราใช้สีนี้

 

 

ปาดดดดด.....แล้ว ทา 

  ของดการลงกลอสทั่วปากนะคะ เนื่องจากเราไม่ต้องการริมฝีปากที่เจ่อบวมดู โจลี่ ในนาทีเช่นนี้ ถ้าอยากลง แค่กลางริมฝีปากนิดๆ ก็พอค่ะ

 

 

จัดการส่วนที่เหลือให้ครบ  แก้ม ขอให้การปัดครั้งนี้การได้แก้มที่น้อยกว่าระดับ "ตูดลิง" 1 ระดับ เพราะว่าเมื่อขึ้นจอแล้ว ไม่เชื่อก้ต้องเชื่อค่ะ ดูระเรื่อสวยเชียว

 

เฉดดิ้งด้วยฝุ่นทับจุดเดิมเมื่อตอนสเต็ปแรก

 

ตามด้วยไฮไลท์ จุดเดิม เพิ่มส่วนโหนกคิ้ว

 

 

จบด้วย finish powder

 

 

เสร็จ แว้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว (ซะที)

 

 

 

 

 

 

หน้าตาเป๊ะพร้อมแล้ว ไหนๆ เราก็ขอพูดถึงองค์ประกอบอื่นๆเสริมไว้หน่อย

 

1. ทรงผม  ถ้าทำได้ ขอให้เกล้าเปิดหน้านะคะ รูปหน้าทั้งหมด จะได้ชัดเจน แถม เวลาอยู่ในจอ เงาจากผมมันจะทำให้หน้าเราดู "ปิด"   ซึ่งก็คงไม่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าทำให้ เก็บผม เปิดหน้าผากเถอะค่ะ

 

 

 

2. เสื้อผ้า เสื้อผ้า สำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะท่อนบน ช่วงคอและไหล่ อย่าใส่อะไรที่ คอกว้าง คว้านลึก และการใส่เบลเซอร์หรือสูทก็จะทำให้ดูสุภาพและดูเป็น Professional ค่ะ (ท่อนล่างก็สำคัญนะคะ จะใส่ใจทั้งที ใส่ใจให้ครบ เพื่อความมั่นใจส่วนตัว และ เผื่อ กรรมการเกิดให้เราลุกขึ้นมาทำอะไร  เราเจอเหมือนกัน แบบ เค้าขอให้ลุกขั้นไปหยิบหนังสือที่ชั้นด้านหลังมาให้ดูหน่อย เกิดไม่ได้ตั้งตัว ท่อนบนอย่างหรู ท่อนล่างกางเกงเล นี่ชีวิตจบเลยนะ เตือน) 

 

 

Tips: เวลาคุย อย่ามองจอนะคะ ให้มอง ตัวกล้อง เหตุผล การมองจออาจจะเหมือนเรามองหน้าเค้าในความรู้สึกของเรา แต่ในมุมที่เขาจะเห็น มันคือ การมองต่ำ หลบตา  ดูเหมือนเราไม่มั่นใจในการตอบคำถามนั่นเอง 

 

ใครกลัวเผลอตัวไม่ได้โฟกัสที่กล้อง หาตัวช่วยค่ะ สติกเกอร์ รูป อะไรก็ได้ แปะไว้ใกล้ๆกล้องแต่อย่าให้บังล่ะ (เราใช้รูปแฟน แหะๆ)

 

อย่าลืมจัดห้องให้เรียบร้อยนะคะ แนะเล็กๆให้ถ้าสมมุติอยากให้ Draw บทสนทนาไปที่ไหน แอบใส่สิ่งนั้นไว้ในฉากหลัง เช่นเรา มันชอบมีคำถามเกี่ยวกับงานอดิเรกยามว่าง เราเลยวางคอมไว้ในจุดที่ฉากหลังเป็นชั้นหนังสือ (นั่นไม่เรียกแอบนะ)  บางคนอาจจะเป็น แจกันดอกไม้  กีต้าร์ ภาพถ่าย ไม้เทนนิส แล้วแต่เลยค่ะ แต่เตรียมตอบคำถามไว้ด้วยล่ะ

 

 

เม้าท์เยอะมากไปละ มาดู Finish Look กันค่ะ

 

 

 

Tips สุดท้ายจากเรา  สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยานะคะ การสร้างความมั่นใจให้แก่ตนเองและการสร้างอิจเมจที่ดีให้กับฝ่ายตรงข้าม แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าอะไร องค์ประกอบทั้งหมดนี้จะไม่มีความหมายเลยถ้า คุณไม่ได้เตรียม ตัว ให้ดี ทำการบ้าน เตรียมข้อมูล เตรียมคำถาม พักผ่อนให้เพียงพอ  อย่ากลวงไปเด็ดขาดเลยนะคะเวลาจะไปทำอะไรแบบนี้ ไม่งั้น จาก อิมเมจ มั่นใจ จริงจัง จะกลายเป็น ตุ๊กตาบาร์บี้ ไปแทน  เพราะฉะนั้น เตรียมตัวไว้ให้ดีค่ะ

 

ถ้าทำได้ แต่งเสร็จลองเปิด Video call กับเพื่อนพ่อแม่น้องใครก็ได้ ให้เค้าช่วยเช็คความเรียบร้อยนะคะ อะไรมากไปลบ อะไรน้อยไปเติม ช่วยซ้อมพูดด้วยก็ดี จะได้ลดความตื่นเต้นลง  อ้อ อย่าลืมเช็คสัญญาณเนตนะคะ

 

 

แถมท้ายด้วยหน้าจริงวันนั้น สัมภาษณ์เสร็จแล้ว ตอนนั้นประมาณ 4 ทุ่ม ล้าแล้ว แต่หลังจากนั้นก็นอนไม่หลับทั้งคืน 55 

 

 

 

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามจนจบนะค้าาาาาาาา  หวังจริงๆว่าจะเป็นประโยชน์กับใครได้บ้าง ไว้คราวหน้าเจอกันนะคะ บ๊ายบาายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 


Santarita L.

Santarita L.

I'm a musician, Theatre girl,makeup addicted since 14.Contact me via me InstraGram account "attitralee" or visit my blog http://santaritalee.blogspot.com/
Nice to know you guys ^^

FULL PROFILE