ทริปปีใหม่ Time for Romance in Pai (ห้วยน้ำดัง-ปาย-ปางอุ๋ง) ^^

12 14

 

สวัสดีปีใหม่จ้า สาวๆจีบัน 

 

ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา HAPPY HOLIDAY ที่ไหนกันมาบ้างเอ่ย?

 

สำหรับเรา วางแผนไว้ตั้งแต่เดือน สิงหาคม แล้ว คุยกะคุณแฟนว่า ปีใหม่นี้เราไป "ปาย" กันนะจ้ะที่รัก 

ว่าแล้วก็เลยจองที่พักที่ตั้งแต่ สิงหาฯ เลยทีเดียวเพราะกลัวจะหายาก 

เดินทางไกล...ครั้งแรกสำหรับเราในครั้งนี้ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์, มิตรภาพ, ความสุข และความทรงจำดีๆมากมายเลยค่ะ

ไปกันแบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ตักตวงความสุขทุกๆวินาทีที่ผ่านเข้ามาไว้ให้ได้มากที่สุด

เพื่อชาร์ตแบตเตรียมตัวลุยงานต่อในปี 2556 

 ว่าแล้วก็เริ่มต้นเดินทางกันดีกว่าค่ะ

 

29 ธ.ค. 55 - เราเริ่มออกเดินทางจาก นครสวรรค์ เวลาประมาณ 20.00 น. โดยเราเป็นสารถี จนถึง เถิน ก็ประมาณ 5 ทุ่มได้ แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. แล้วก็เปลี่ยนให้คุณแฟนขับค่ะ

30 ธ.ค. 55 - ถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 01.30 น. แวะหลับกัน 1 งีบ และออกเดินทางตอน 04.00 น. เข้าโค้งปาย ผ่านจุดพักอ้วกมาได้ 55 ณ จุดๆนี้ กับการเข้า จังหวัดที่มีโค้งเยอะที่สุดในประเทศไทยครั้งแรกของเรา

 

 

ขอแนะนำเลยค่ะ สิ่งที่คุณต้องมีคือ "ยาแก้เมา" 55 เกือบไม่รอด ถึงจุดที่ว่าหายใจเริ่มถี่ เอ้ยยยย ไม่ไหวแว้ววว มือจิกเบาะ 55 แต่เราก็มาถึงจุดหมายแรกจนได้ และพบกับ "แสงแรก"  ที่จุดชมวิวกิ่วลม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ลืมไปเลยค่ะอาการมึนเมาทั้งหลาย ((แต่ลงจากรถยังเดินเซอยู่ ฮ่าๆ))

 

"แสงแรก" กับความประทับใจแรก ที่เยือน "ปาย" ค่ะ 

 

 

 

 

ผ่านช่วงเวลา แสงแรก แล้วเราก็เลยเดินเล่นบนจุดชมวิวค่ะ คนไม่เยอะมากนะสำหรับเรา เป็นสถานที่ๆสวยงามมากๆ สำหรับคนที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ แนะนำเลยค่ะ ครั้งหนึ่งต้องไปเยือนให้ได้นะคะ

 

 

 

แวะส่งโปสการ์ดกับไปรษณีย์ไทยเพื่อบันทึกความทรงจำซักหน่อย 

 

 

แล้วก็ต่อด้วย มันเผาร้อนๆ กับอากาศหนาวๆ.....อ่าา ฟินนนน 55

 

 

ต่อจากจุดชมวิวกิ่วลม ห้วยน้ำดังแล้ว เราก็มาต่อกันที่ โป่งน้ำร้อนท่าปาย

 

ต้นบุก สาวๆเคยเห็นกันมั๊ยค่ะ เราไม่เคยเห็น 55 เลยฮือฮามาก ว่านี่เหรอ ใช่เหรอ? หัวบุกมันอยู่ใต้ดินจ้า

 

 

 อ่า...ถึงบ่อต้มไข่แล้วจ้า

 

 

 

เอ้า...อ้ามมมม.... เหยาะซอสซะหน่อย ความมหัศจรรย์ของน้ำพุร้อนคือ ไข่แดงสุก แต่ไข่ขาวไม่สุกจ้า 

 

แฟนเราบอกว่า เป็นเพราะอุณหภูมิ 80 องศา จ้า....จำมาจากเชฟกระทะเหล็ก ฮ่าๆ

 

 

 

จากนั้นเราก็เข้าที่พักค่ะ เนื่องจากต้องเช็คอินเวลา 14.00 น. ก็เลยต้องแวะเที่ยวก่อน

ที่พักของเราคือ Romance (Another Story in Pai) ค่ะ ห้องที่เราพักคือ ห้องม่านหมอกจ้า

แต่มาถึงห้องตอนบ่าย 2 แบบไม่ได้นอนมาเกือบทั้งคืน เข้ามาเจอแดดส่องบนหมอนพอดี น้ำตาจะไหลอ่ะ 

 

 

 

แต่บรรยากาศที่นี้ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด

จุดถ่ายรูปเยอะมากๆ สาวๆน่าจะชอบ ก็เลยไม่ได้นอนเลยค่ะ ออกมาถ่ายรูปเล่นแทน

วิวที่รีสอร์ทล้วนๆเลยจ้า ที่นี้เป็นเหมือนไร่เกษตรผสมผสาน

มีทั้งน้องแกะ น้องม้า น้องไก่ น้องแมว น้องเป็ด น้องกระต่าย

มีทุ่งข้าวบาร์เล่ย์ (แต่ตอนเราไปเค้าเกี่ยวหมดแล้ว) มีไร่สตอรเบอร์รี่น้อยๆ พื้นที่เยอะมากกกกก

(มีรถ ATV และพี่โอห์มเจ้าของรีสอร์ทพาเที่ยวด้วยนะคะ เช่น ถนนคนเดิน หยุนไหล ฯ) 

 เช้าๆแนะนำเลยว่าให้ปั่นจักรยานเล่นค่ะ อากาศดี บรรยากาศดี ที่รีสอร์ทภูเขารอบล้อม

เพราะฉะนั้นไม่ว่าพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก วิวจะสวยมากๆ เพราะตัดผ่านทิวเขา 

ทุกอย่างที่นี้ Romance สมชื่อจริงๆค่ะ เป็นชีวิตที่โรแมนซ์มาก อยากอยู่ซักเดือน 55

ข้างหลังนั่นคือห้องพักเราค่ะ ห้องม่านหมอก 

 

 

ตะวันลับฟ้า...เวลาโรแมนซ์ 

 

  

แล้วเราก็ไปหาอะไรลงท้องที่ถนนคนเดินค่ะ คนค่อนข้างเยอะ เดินได้นิดหน่อยค่ะ เหนื่อย+ง่วงแล้วด้วย

และพรุ่งนี้วางแผนจะไปปางอุ๋ง จะตื่นกันตั้งแต่ 04.30 น. ก็เลยได้โจ๊กกันคนละถ้วยแล้วก็กลับมาพักผ่อนค่ะ

 

โจ๊กไก่อิสลามปาย ทุกอย่าง 30 บาท อร่อยใช้ได้เลยค่ะ 

 รอดตายไป 1 มื้อ

 

 

บทเพลงปาย น่ารักมากๆค่ะ ขับกล่อมบนถนนคนเดินปาย

ฟอร์ เกะ มี เนาะ .... 

 (จำได้แค่นี้ ฮ่าๆ)

 

 

31 ธ.ค. 55 - ตื่นกันตั้งแต่ 04.30 น. ออกเดินทาง 05.00 น. เพือไป ปางอุ๋งค่ะ คลำเส้นทางกันไปสองตายาย

ทางมืดดดด และ หนาวววววมากๆๆๆ เปิดแอร์ก็หนาว ปิดแอร์ก็ไม่ได้ ฝ้าขึ้น เลยต้องขับรถแบบเปิดหน้าต่างกันไป

อุณหภูมิเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ ไม่แน่ใจว่าถึง 10 องศามั้ยระหว่างทางขึ้นเขา เพราะหนาวมั่กๆ บรื๋อออ อ อ

 

มาถึงปางอุ๋งตอน 8.00 น.โดยประมาณค่ะ เย้ๆ แต่มาไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไม่เป็นไรค่ะ ได้เท่านี้ก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ

 

 

อ่อ ลืมเล่า ทางขึ้นปางอุ๋ง ว่าทางแคบบบมากกกกก รถสวนกันแทบไม่ได้ ต้องจอดค่ะ สาวๆที่ใจไม่ถึงหรือยังขับรถไม่แข็ง หาหนุ่มๆขับรถเก่งๆไปด้วยนะคะ 

ระหว่างทางเดินเข้าอ่างเก็บน้ำ เราชอบนะคะ ได้บรรยากาศน่ารักๆ ของชาวบ้านหมอกจำแป่

มีโจ๊ก มีข้าวต้ม น้ำขิง ฯลฯ ขาย ช่วยกันสนับสนุนชาวบ้านนะคะ นานๆทีเค้าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทีนึง

และไม่มีอะไรขายแพงเลยค่ะ 

 

 

  

เหมือนเฟรนช์ฟรายมั๊ยค่ะ...ตอนแรกเราก็นึกอย่างนั้น เลยจะไม่ซื้อกิน

แต่มาได้ยินนักท่องเที่ยวคุยกัน ว่ามันคือถั่วเหลืองค่ะ!! ก็เลยจัดมา 2 ถุง ถุงละ 20 บาท

และอยากบอกว่า อร่อยค่ะ 

 ถ้าไปลองซื้อทานดูนะคะ

 

 

ถึงแล้วค่ะอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง ระยะทาง 111 กม. จากปาย กับทางขึ้นเขาและอากาศหนาวแสนโหด 55

แต่มีความสุขมากค่ะเมื่อมาถึง หายเหนื่อยเลย ... เมื่อเราเดินทางถึงจุดหมายที่เรารอคอย ไม่ว่าผลมันจะออกมาตรงกับที่เราคาดหวังหรือเปล่า อย่างน้อยๆเราก็ภูมิใจในตัวเองนะคะ 

 

มุมฮิตค่ะ แต่เราถ่ายออกมาได้แค่นี้ 

 

นักท่องเที่ยว ไปกางเต้นท์เยอะมากค่ะ คงได้ดูหมอกลอยบนน้ำกันแน่ๆเลย 

 

 

ทุกอย่างมีหลายด้าน....มองกันหลายๆมุมนะคะ 

 

  

เดินขึ้นมาด้านบน เจอต้นส้มด้วยค่ะ เลยถ่ายเก็บไว้ซักหน่อย 

 

ออกจากปางอุ๋งก็ประมาณ 10 โมงได้

แวะเที่ยวถ้ำปลาต่อค่ะ ที่นี้บรรยากาศดีค่ะ ทางเดินเข้าไปเป็นต้นไม้ร่มรื่น กับสายน้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำตลอดทาง

 

 

ได้แวะแล้วไม่เสียดายเวลาเลยค่ะ 

 

 

 

แต่อยากบอกนิดนึงว่า อาหารปลาที่ขายหน้าอุทยาน ถุงละ 20 บาท ที่เป็นพวกผัก ผลไม้ ถั่ว เราเหมาไป 3 ถุง 50

 

 

 

บาท ปลาไม่กินนะคะ 5555 ปลากินไข่ต้มค่ะ ซึ่งจะมีขายด้านหน้าถ้ำตรงปู่ฤาษีค่ะ แทบจะกระโดดงับกันเลยทีเดียว

 

 

 

จากนั้นเที่ยวถ้ำน้ำลอดต่อค่ะ ถ้ำใหญ่มากกกกก ไกด์กับตะเกียง 1 อัน พาชมจำนวน 3 ถ้ำค่ะ

ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ

หินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ก็ตื่นตาตื่นใจพอสมควร นั่งแพเข้าไป และเดินชมค่ะ

 

 

  

เหมือหนุมานหรือหัวโขน มั๊ยค่ะ 

 

ก้อนนี้เราว่าเหมือนขงเบ้งค่ะ

 

 

 

 

ก้อนนี้ชัดเจนค่ะ จระเข้

 

  

 

เสร็จแล้วแวะทานข้าว เช้า+กลางวัน+เย็นกันเลยค่ะ 4 โมงเย็นแล้วจ้า

 

ถามน้องไกด์ แนะนำ ร้านบ้านโมรา ค่ะ ออกจากถ้ำน้ำลอดไม่ไกลค่ะ 

สายน้ำ ที่จอดรถฝั่งตรงข้ามร้าน

 

 

 

 

 บรรยากาศข้างๆโต๊ะทานข้าวค่ะ 

  

 

จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับปายค่ะ มาเที่ยวในปายต่อ 55 เพราะยังไม่ได้แวะเที่ยวในปายเลยนอกจากถนนคนเดิน

ที่ฮิตค่ะ ใครมาปายต้องมาถ่ายรูปที่นี้ Coffee in Love แต่กล้องเราแบตหมดค่ะ เลยต้องใช้มือถือถ่าย 

 

 

ข้ามมาฝั่งตรงข้ามค่ะ ไร่สตรอเบอร์รี่สีเขียว

 

และก็สะพานปาย แบบมืดๆ 55

 

  

1 ม.ค. 56 - ตื่นกัน 7 โมงเช้าค่ะ วันนี้ต้องกลับ กทม. แล้ว 

ยังไม่ได้เดินเล่นในรีสอร์ทเลยค่ะ ก็เลยตื่นเช้ามาปั่นจักรยานกัน 

 

เดินมาที่ล็อบบี้ ก็เจอเจ้าสองตัวนี้ ... บอกแล้วค่ะว่าทุกวินาทีที่นี้คือ ความโรแมนซ์ 

 

 

เดินมาหาน้องวัว กระดิกหางให้ ร้องมอๆ หิวค่ะ พี่ที่รีสอร์ทเลยเอานมมาให้ ได้บรรยากาศดีๆอีกแล้ว

การตื่นเช้ามันดีอย่างนี้นี่เองเนอะ 

 

 

  

อ่า...พี่เค้าเอามาให้ 2 ถังนะคะ แต่เจ้าตัวนี้ มาแย่งของเพื่อนกิน พอใกล้หมดแล้วก็กลับไปกินถังตัวเอง ซะงั้น 55

 

  

ไปปั่นจักรยานกันค่ะ

 

 

  

 

ปั่นขึ้นเนินเพื่อมาดูทุ่งดอกไม้ค่ะ

 

 

ด้านหน้าล็อบบี้ค่ะ 

 

 

 

 

แล้วก็ปั่นมาหาน้องแกะ กะ น้องม้า ที่ด้านหน้ารีสอร์ท 

 

 

 

 

ดอกบ๊วยที่ป้ายรีสอร์ทค่ะ (ไม่รู้ใช่หรือเปล่า 55 แต่ต้นเหมือนในหนัง The Letter)  

ความโรแมนซ์ นั้นไม่ได้เกิดเฉพาะกับคู่รักนะคะ 

 

และเราก็เช็คเอาท์ ตอน 11.00 น. ค่ะ

ก่อนกลับแวะ วัดศรีดอนชัย ทำบุญรับวันขึ้นปีใหม่กันค่ะ 

วัดศรีดอนชัยอยู่ที่ทางเข้ารีสอร์ทพอดีเลยค่ะ คือรีสอร์ทอยู่หลังวัดจริงๆ 55

 

วัดศรีดอนชัย คือวัดแห่งแรกที่ อ.ปาย
มีอายุมากกว่า ๗๐๐ ปีแล้ว
โดย สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๑๘๕๕
มีองค์พระสิงห์ปาย (พระพุทธสิหิงค์) ศักดิ์สิทธิ์

มีโอกาสไปปาย อยากให้ไปสักการะกันนะคะ ^^

 

 

 

 

 

ทำบุญขันตาล และ ถวายผ้าไตรกันค่ะ  

 

 

 

 

 

จบแล้วค่ะ ทริป Time for Romance in Pai ในครั้งนี้.... มีโอกาสกลับไปอีกแน่นอนค่ะ

เพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้ไป ลองไปสัมผัสดูนะคะ เที่ยวเมืองไทย สุขใจจริงๆค่ะ 

 

 

 

 

 

ยานพาหนะ : โตโยต้า วีออส

ค่าที่พัก : 2800 บาท/คืน

ค่าน้ำมัน : ประมาณ 4000 บาท (ไป-กลับ) จ.นนทบุรี - จ.แม่ฮ่องสอน

กล้อง : Canon G11 + NoteII

 

เก็บเงินซักเดือนละ 1000 บาท ไว้เที่ยวปลายปีให้หายเหนื่อยกันนะคะ 

 

 

ขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาชมค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


cha-lo

cha-lo

FULL PROFILE