How to// Ordinary Me แต่งง่ายๆแต่เร้าใจ!! by yoryam

กราบสวัสดีงามๆมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน ไม่ได้ทำฮาวทูมานานมาก นานจนมือง่อย ให้มานั่งทำรูปอีกทีแบบว่า เล่นเอาเหงื่อตกเลยทีเดียว

เอาหล่ะ หลังจากโดนผู้คนหวีดร้องให้ทำฮาวทูใหม่ (คนที่ว่าคือเพื่อนอีฉันเอง ฮ่าๆ) ก็เลยขอมาทำฮาวทูง่ายๆ ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ เอาไปแต่งประจำวันได้แบบอินเทรนแบบเกาหมี(เหรอ)

เริ่มจาก อุปกรณ์ช่วยชีวิต

1. Bioderma ขวดเขียว 

2. Hadalabo Super Hyaluronic Acid

3. Base Kiss

4. Concealer/ corrector Bobbi brown

5. Hello Flawless Benefit Foundation

6. Laura Mercier/ Translucent powder

7. Urban decay Primer potion

8. Naked eye shadow

9. พาเลทเขียวคิ้ว KATE

10. Proof 10 auto pencil eyeliner ETUDE

11. Etude code B Gel liner

12. Mascara Kiss me ตาหวาน

13. ขนตาปลอม Meilinda 316

14. กาวติดขนตา Panadda

15. NARS blush on/ Luster

16. MAC Mineralize

17. DHC lip

18. MAC lipstick/ HUG ME

19. ที่ดัดขนตา Shu uemura

คำเตือน  โปรดใช้สติในการเสพฮาวทู หากมีสติแล้ว ไปเบิ่งโลดดด

วะฮ่าๆๆๆ เริ่มจากใบหน้าอันเปล่าเปลือยให้ทุกคนหลอนหนักกว่าดูคนอวดหมี มีแค่คอนแทคตาตุ๊กแกให้ดูสยองเล่น (Stella Grey สะกดงี้รึเปล่านะ) เราเริ่มจากทำความสะอาดใบหน้าก่อน ไอเท็มที่ได้มาใหม่คือ Bioderma สังเกตว่าใช้มาจะหมดขวดใหญ่แล้ว เอาไว้จะมารีวิวนะคะ เช็ดหน้าทำความสะอาดก่อนลงมอยเจอร์

จากนั้นก็ตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ อันนี้ได้มาจากที่ญี่ปุ่น คิดว่าที่ไทยยังไม่มีขาย เป็น Hadalabo Super Hyaluronic Acid ใครที่ว่าฮาดาลาโบะตัวธรรมดาดีแล้ว เจอตัวนี้เข้าไป เมพพพพมาก จากหน้าสากๆ แหกๆ กลับมาเด้งดึ๋งดั๋งเยี่ยงโมจิ (โม้เข้าไป) ได้ความชุ่มชื่นเต็มๆ ส่วนกระจ่างใสไร้ริ้วรอยนั้น ไม่มีผลจ่ะ

เมื่อทำการลองมอยเจอร์ไรเซอร์แล้ว ทางที่ดีควรจะลงกันแดดตามด้วยนะคะ แต่ฮาวทูนี้ลืม...เพราะไม่ได้แต่งออกนอกบ้าน แฮ่ๆ ตามด้วยลงเบสคีสกันหน้ามัน

สังเกตุเบสคีสว่าผ่านการรบมามาก จนโลโก้หายสาบสูญไป อิชั้นใช้แล้วไม่อุดตันนะคะ แต่ถ้าล้างไม่ดีก็มีเฮได้เหมือนกันตัวนี้ ลงด้วยวิธีการกดๆๆๆ ทั่วหน้าค่ะ อย่าปาด กดๆเอาโดยใช้นิ้วเรานี่แหล่ะค่ะ เพราะการกดมันจะทำให้ครีมอยู่กับใบหน้า ทนยิ่งขึ้น

หลังจากนั้นก็ทำการลงคอนซีลเลอร์ อันนี้อิชั้นใช้ของบอบบี้บราวด์ค่ะ ที่มันไม่มีขายแล้ว เป็นเก่าเก็บมาก ไม่รู้หมดอายุรึยัง ฮ่าๆๆ ลง corrector ก่อนอันที่ 1 ตามด้วย 2 คือ concealer ค่ะ ด้วยวิธีการเดิมคือ กดๆๆ ด้วยนิ้วค่ะ แต่อย่ากดแรงนะคะ เดี๋ยวตาจะแหกเอา

เมื่อทำการพิชิตแพนด้าไปแล้ว เราก็ทำการลงรองพื้นได้ค่ะ วิธีเดียวกันคือ กดๆรองพื้นให้ทั่วใบหน้า กดเท่านั้นที่ครองโลก ทำหน้าติดทนอยู่นาน(กว่าปกติ) ที่ใช้อยู่ตอนนี้คือรองพื้นตัวใหม่ของ benefit สำหรับคนหน้าแห้ง เราว่ามันคล้ายชูมาก และสีเหมาะกับคนผิวเข้มอย่างเรามากกก

จากนั้นไซร้ ก็จงหยิบแปรงปัดหน้ามาจ้วงแป้ง ตัวนี้อิชั้นใช้ป้าลอล่า แป้งจักรวาล (เค้าว่างั้น) วิธีปัดคือปัดวนๆทั่วไปหน้าค่ะ อย่าไปกลัวจะเปลือง ปัดมันเข้าไป เอาให้ขึ้นเวทีนางงามได้ค่ะ 555

ปัดวนๆ

Point make up

เริ่มจากการลงเบสที่ตาก่อน สำหรับอิชั้นหนังตามันมาก ลงด้วย Urban decay primer potion ใช้มานานนมจนเปลี่ยนแพคเกจไปแล้ว ก็ยังทู่ใช้ต่อไป บีบเท่าที่เห็นในภาพ ปาดเปลือกตา 2 ข้างอย่างรวดเร็ว เพราะแห้งไวมากค่ะ

จากนั้นก็เปิดตลับมหัศจรรย์ เปลือย... เอ้ย NAKED ของ urban decay เช่นเดียวกัน เริ่มจากสีที่ 1 ลงทั่วเปลือกตา จากนั้นเอาสีที่ 2 มานัวกับสีที่ 1 แบบเบลอ ตบท้ายด้วยการคัดเบ้าด้วยสีที่ 3 แตะๆเป็นแนว 3 เหลี่ยมดังรูป แล้วทำการเบลนทุกอย่างเข้าด้วยกัน

ขั้นตอนต่อไป เราข้ามมาที่คิ้วกันก่อน ฮ่าาาา วันนี้คิดอยากจะหน้าแปลกไปกว่าเดิม สังเกตุจากฮาวทูก่อนๆ อิชั้นไม่ค่อยให้สนใจจะเขียนคิ้วซักเท่าไหร่ คือเขียนๆไปตามทรงที่มีว่างั้น แต่วันนี้ ค้นพบแล้วว่า การเปลี่ยนทรงคิ้วเพียงนิดเดียว ทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยน แปลกไปจริงๆนะเออ มิได้โม้วว ฮ่าฮ่า

เริ่มจากการวาดคิ้วให้เลยจากคิ้วจริง ดั๊นเป็นคนมีคิ้วหนาซ่าสุดๆอยู่แล้ว ฉะนั้น ก็เลยต้องพยายามเขียนให้เปลี่ยนจากทรงจริง คือทรงปกติอาจจะโค้งเล็กน้อย แต่วันนี้อยากได้ทรงแบบเกาหมีที่ฮิต แต่ด้วยรูปหน้าโหนกโคกกระเดิน ไม่สามารถจะวาดทรงตรงอินเทรนแบบเกาหลีได้ เลยได้แต่พยายามวาดให้ตรงๆที่สุดแบบเกาหมีแทน

พาเลทที่ใช้เขียนคิ้วเป็นของเคทค่ะ หากท่านใดไม่มีพาเลทเขียนคิ้ว ก็แนะนำให้ใช้อายแชโดว์สีที่ใกล้เคียงเขียนแทนนะคะ วิธีการของอิชั้นคือใช้พู่กันเขียนคิ้วหัวตัด ปาดไปเบอร์ 1 และ 2 รูดทีเดียว แล้วเอามาร่างทรงคิ้วค่ะ

หลังจากได้ทรงที่คิดว่าเกาหมีพอแล้ว ก็ทำการเบลนหัวตาด้วยสีที่ 2 ด้วยพู่กันพุ่มๆหน่อย หากมันดูแข็งๆไป เอาคัตตอนบัตถูๆไถๆบ้างก็ได้ค่ะ แต่อย่าแรง เพราะเดี๋ยวรองพื้นที่อุตส่าห์กดๆมาจะพาลหายไปเสียหมด อิชั้นทำการเบลนหัวคิ้วขั้นตอนที่ 3 ด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาล เบอร์ 2 และ 3 แบบเบลอๆ พร้อมทำเฉดดิ้งสันจมูกลงมาด้วย เพราะอยากมีดั้งเจ้าค่ะ

และแล้วก็ได้ทรงคิ้วเกาหมีที่ปรารถนา หน้าตาดูผิดหวังอยู่ตลอดเวลาด้วยทรงตรง เคี๊ยกกกกกก

มา point ตาที่เราพักไว้เมื่อตะกี้ต่อ ทำการลงอินเนอร์ บนและล่างตาด้วย Proof 10 Auto liner ของอีตูด ขอบอกว่าราคาย่อมเยามาก และใช้ดีมาก ไม่หลุดไม่เลือน ใช่มาหลายยี่ห้อปรากฏปลื้มนี่ที่สุดแล้ว แม้ว่าไปทำงานตรากตรำเลี้ยงอูฐด้วยองศาที่ร้อนแรงแค่ไหน แต่ตัวนี้ก็เมพ ไม่ทำให้พี่กลายเป็นแพนด้าระหว่างวันนะฮะ ใช้มาหมดหลายแท่งแล้ว หวังว่าจะไม่อุตริเลิกผลิตนะคะคุณอีตูดขา

ส่วน Gel liner ที่ใช้วาดตาบน วิธีวาดของแยมคือดึงตาให้ตี่ แล้วเริ่มปาดจากหัวตาไปหางตา ตวัดเล็กน้อยให้มันจรดกับที่วาดไว้ตรงตาล่าง ส่วนยี่ห้อนั้นก็เจ้าเก่าครองแชมป์ทวินแคม 26 วาวน์ 8 สมัย นามว่า CODE B สีดำสนิทของอีตูด และเป็นที่น่าเศร้าว่า ของดีๆแบบนี้ มันดันเลิกผลิตแล้ว (ที่มาใหม่คือ Drawing show บอกได้คำเดียวว่า แม่ไม่ปลื้ม)  CODE B ที่ว่าดีเพราะว่า เนื้อลื่น ดำสนิท เขียนปั๊บ ลืมตาได้ปุ๊บ เขียนง่ายมาก แต่นัง Drawing show ตัวใหม่ เนื้อลื่นปรื๊ดดด เขียนแล้วเลอะอีก ไม่พอ เขียนแล้วลืมตาปุ๊บ เลอะปั๊บ ไม่ทนระหว่างวันอีก ไม่รักเลยค่าาา เจ็บใจที่สุดตรงที่ว่า พนักงานที่เกาหลีบอกดั๊นตอนไปเสาะหา CODE B ว่า รุ่น Drawing ที่ว่าทำออกมาแทนที่ CODE B ค่าาา อุบร๊ะะะ กล้ามาก.....หากเพื่อนๆคนไหนมีเหลือเฟือเก็บดองไว้อยากแจกจ่าย ส่งมาทางนี้นะคะ รับเลี้ยงดูค่ะ หนู CODE B ของแม่ ฮือๆๆ

เวิ่นยาวมากกับ Gel liner มาต่อด้วยการปัดมาสคาร่า เนื่องจากพื้นฐานขนตาอิชั้นง่อย สั้น บาง เดียวดาย หงอยเหงา เลยต้องพึ่งมาสคาร่าระบบหลอกลวงงอนยาวไปถึงโลกหน้า ค้นพบแล้วว่า ถูกจริตกับมาสคาร่าสัญชาติญี่ปุ่น แพคเกจลายการ์ตูนตาหวานขนตาปิ้งๆ ยี่ห้อ KISS me โดยรูปที่โชว์ไปคือแพคเกจเก่า ตอนนี้เขาเปลี่ยนแพคเกจเป็นสีชมพูแซ่บซ่าแล้วจ่ะ รุ่นที่แยมใช้เป็นรุ่นสำหรับเพื่อขนตายาว งอน โดยเริ่มจากดัดขนตาที่ง่อยๆด้วยที่ดัดขนตา Shu uemura (เคยเปลี่ยนไปใช้ Shiseido อยู่พักนึง ไม่ปลื้มเท่าชูจ่ะ) แล้วปัดประมาณ 2-3 รอบ แล้วตามความพอใจ ถ้าคิดว่าตาระยิบได้ที่ก็พอค่ะ ปัดล่างและบนนะคะ

Point สำคัญของตาวิ้งเจิดจรัสใน Ordinary look วันนี้ ขอเสนอ ขนตาปลอมเบอร์ 316 ยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ แต่จะเอาทรงนี้เท่านั้น ยอมสละร่างเต็มของขนตา ตัดมาแค่ส่วนปลายที่ยาวที่สุด เอามาประมาณ 2 ช่อตามในรูป

ทำการป้ายกาว ของแยมใช้กาวติดขนตาปนัดดา ที่ชอบเพราะมันเป็นสีดำค่ะ สะดวกดี

ติดตรงหางตาดั่งในรูป เราก็จะได้ Look ที่ดูขนตาธรรมชาติแบบหลอกตาประชาชนกันแล้ว ก๊ากกกกก

ใกล้จบละค่ะ แฮ่กๆ อย่าเพิ่งเบื่อนะเคอะ 

เอาหล่ะ ปัดบลัชออนกันเถอะ วันนี้เลือก NARS luster มาใช้เพราะอยากได้แก้มสีแทนๆ ทองๆ ใน How to เก่าๆเคยใช้สี Brown ของลุงชู ใช้จนหมดตลับเลยลองเปลี่ยนบ้าง ก็ได้มาโทนเดิมแต่เปลี่ยนสังกัด ฮ่าๆๆๆๆ

 ปัดแก้มจากด้านข้างหู เข้ามาด้านในตรงแก้ม ปัดวนๆ ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมดั่งภาพ อย่าไปกลัวว่าจะปัดสีเยอะเกินไปค่ะ เพราะเรายังมีขั้นตอนสุดท้ายอยู่ 

นั่นก็คือการปัดแป้ง Finish powder ตัวนี้ส่วนตัวชอบนะคะ เค้าว่ามันคล้าย MMU ที่ใช้คือ MAC Mineralize สี Meduim Dark ปัดวนๆทั่วหน้า อารมณ์นัวๆเบลอๆ แก้มที่เป็นตูดลิงจากเมื่อกี้ ก็เบลนด้วยตัวนี้ก็จะเข้ากันได้ทั้งหน้าค่ะ

ฮ่าาาาา จบด้วยการทาลิป DHC เพื่อให้ปากชุ่มชื่น ตัวนี้ดีจริงๆนะขอบอก รู้ได้เลยว่ามันยอดมากจอร์จจี้ 

ตามด้วยสีอมตะที่อิชั้นรักและหลงคือ MAC HUG ME กอดฉันสิตัวเธอ กร๊ากกกกกกกกกก 

เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอนเตรียมการของขบวนการลวงโลก...........

จากนี้ไปคือการลวงโลกของจริง เคี๊ยกกกกกกกกก 

เอาเมคอัพชัดๆไปเบิ่งแน 

อันนี้ปากชมพูจากการผสมระหว่าง Up the amp + Viva GAGA ของ MAC แต่ไม่ชอบปากชมพูแหว๋ว รู้สึกไม่ได้แต่งทุกวัน

.............................................................

..................................................

........................................

..............................

................

........

อุอุอุอุอุ

อ็ายย แสงแดดสะท้อน!!?? (ได้ข่าวถ่ายตอนตี 1)

หน้าชัดๆ แบบว่า แมนมาก ทำให้นึกว่าตัวเองเป็น 1 ในวง ทิคแทคโทสมัยก่อนรึเปล่า บรรดาหนุ่มหน้าสวยสมัยนั้น ก๊ากกกกกกกกกกกก (เปิดเพลง จ๊าบ คลอเบาๆ)

มาถึงเซตเกาหมี ใครว่าผิวสีแทนอย่างอิชั้น จะแอ๊พเป็นน้องเกาไม่ได้ ไม่จิ๊งงงง

อยากเป็นเกาหมี ไม่รู้เป็นอะร๊ายยยย

ทำคิ้วตรง ทรงผมอินเทรน เสื้อผ้านำสมัย กระเป๋าก็คร็อคโคดาย กางเกงก็ยีนส์ลีวายส์....เอ๊ะ.....!!

ขอทำท่าแบ๊วสุดพลัง ขอตั้งชื่อภาพว่า บู๊วววววว โอปป้า!! (ไม่ไหวแล้ว มั่วมากกก)

ท้ายสุด ขอส่งท้ายด้วยภาพ Before after แบบพลีชีพ เคี๊ยกกกกกกกกก หลังจากทำการบรรจงแต่งหนังหน้าอันเหียกของอิชั้นเป็นน้องเกาหมีสีแทนมาตั้งนาน ได้เวลากลับไทยละน้องเอ้ย

เนื่องจากเราได้ทำการ FULL MAKE UP ไปและได้ทำการปัดมาสคาร่าแบบ water proof ถึง 3 ชั้น ฉะนั้นหากจะมาใช้น้อง Bioderma เช็ดหน้า คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 ปีแสงถึงจะรูดมาสคาร่าออกหมด (พร้อมขนตาร่วงหมดด้วย) เลยต้องพึ่งออยค่ะ ออยเท่านั้นที่เอาเมคอัพพวก water proof ออก แยมใช้ Biore Oil ขวดม่วงค่ะ ถูกดี ไม่แพ้ แล้วหมดจด เอิ้กกกกกก

ล้างกันเห็นๆ

วิ้งงงงง ที่คือผลจากการนวดเพียงครั้งเดียวแล้วล้างน้ำนะคะ ออกหมดจดดีจริงๆ เลิฟมาก เอาไป 10 แต้ม เวลาแยมล้างทีจะกดหลายปั๊มค่ะ ไม่ใช่แบบกดทีเดียวทั่วหน้า อย่างน้อยต้อง 3 เพราะยิ่งออยเยอะ เรานวดตรงตา แป๊บเดียวมันก็ออกมาหมดเลยมาสคาร่า อายแชโดว์ จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาล้างหลายๆรอบค่ะ แต่ล้างออยแล้วอย่าลืมล้างน้ำให้สะอาด ตามด้วยโฟมล้างหน้า และโทนเนอร์นะคะ จะได้สะอาดหมดจด หมดปัญหาสิวมากวนใจ เดี๋ยวจะหาว่าศรีไม่เตือนน

โอ้วววววววววววววว จบซักที ขอขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนและอ่านกันจนจบค่ะ หวังว่าฮาวทูนี้ จำเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย และอย่าลืมว่า ประยุกต์ใช้กับเครื่องสำอางที่เรามีนะคะ และเครื่องสำอางทุกชนิด ไม่ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคนเสมอไป ที่เล่ามาคือลองแล้วโดน ชอบ เลยเอามาเม้าท์ค่ะ

ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้นะจ๊ะ

รักทู๊กคนนนน จ๊วบบบบบบ (ฟิน....อ๊าาา)