# ขี้เห่อ&มินิรีวิว # ผลิตภัณฑ์ส่งท้ายสิ้นเดือนค่ะ

ขอส่งท้ายสิ้นเดือนด้วยการรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่วงนี้นะคะ สกินแคร์ที่ใช้ช่วงนี้ค่ะ

1. JUJU aquamoist c whitening lotion : เริ่มจากโลชั่นน้ำ เนื่องจาก Hada Labo สีขาวเราหมด เลยไปซื้อใหม่แล้วเห็นของ JUJU น่าสนใจดีมีส่วนผสมวิตามินซีด้วย เค้าเคลมว่าไม่ผสมน้ำหอม สี น้ำมัน แอลกอฮอล์ (แต่เราได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่ะ = =”...ตรงส่วนประกอบสำคัญก็ระบุว่ามี ALCOHOL งงเลย โชคดีไม่แพ้) เนื้อโลชั่นซึมเร็วดีไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นดี(แต่น้อยกว่า hadalabo ขวดขาว) หน้านุ่มดีค่ะ หน้าก็ใสดี แต่ไม่ขาวขึ้น 

2. L’oreal white perfect laser ซื้อมาลองใช้เพราะพี่พลอยค่ะ + โปรโมชั่นลดราคาของ Watson 

    2.1) Essence : เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็วดีค่ะใช้มาเกือบเดือนแล้วค่ะรู้สึกได้ว่ารูขุมขนกระชับขึ้น หน้านุมดีนะจุดด่างดำจางลง ส่วนเรื่องขาวโดยส่วนตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลง 

    2.2)Cream : เนื้อครีมหนักไปสำหรับการใช้ตอนกลางวันก่อนการแต่งหน้าสำหรับเราค่ะ ด้วยเนื้อครีมที่เป็นสีชมพู ทำให้หลังจากทาครีมตัวนี้รู้สึกว่าหน้าขาวขึ้น(แต่จริงๆสีผิวไม่ได้เปลี่ยน)เลยมาใช้ตอนกลางคืนแทนให้ความชุ่มชื่นได้ดี....ข้อเสียตรงทีเวลาทาเสร็จบางครั้งเป็นคราบขุยๆซึ่งมักจะเกิดตอนหลังจาก มาส์กหน้าตอนกลางคืนแล้วบำรุงต่อแต่ปริมาณเยอะมากกก กว่าจะหมดคงอีกนาน(อาจจะไม่ซื้อต่อค่ะ) 

3.L’oreal revita lift eye : ขอแม่มาใช้ค่ะ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะเรานอนดึกเหมือนเดิม แต่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นดีค่ะ เวลาลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาเป็นคราบน้อยลง(เกิดจากผิวใต้ตาขาดความชุ่มชื้น) 

มาที่รองพื้นที่เป็นอันดับหนึ่งในใจ สำหรับชีวิตประจำวันค่ะ

Lunasol water cream foundation YO03

       

      กลับมาตายรังที่รองพื้นลูกรักลูนาโซล ก่อนหน้านี้สั่งทางอินเตอร์เน็ต ...แต่อยากเป็นสมาชิกของค่ายนี้ (เผื่อไว้โอกาสแต่งหน้าที่เคาท์เตอร์ด้วย) หลังจากรองพื้น Shu ที่ใช้อยู่กำลังจะหมด ก็รีบไปสอยโลด เจอ BA พี่โอ๋ ณ เคาท์เตอร์เซ็นทรัลพระราม 2 แถมเทสเตอร์คลีนซิ่งออย กับ สบู่ล้างหน้ามาให้เราด้วย (ประทับใจ ><”) ข้อเสีย ของรองพื้นตัวนี้คือ ตกบ่ายหน้าเริ่มมันค่ะ (เราผิวแห้งนะคะ) ถ้าวันไหนใช้เยอะอาจก่อให้เกิดคราบได้ เราเลยหาตัวช่วยมาแก้ไขข้อบกพร่องตรงนี้ของรองพื้นลูกรักค่ะ นั่นคือ การใช้ไพรเมอร์นั่นเอง

 

smashbox photo finish oil-free foundation primer 30 ml.

          เรามีโอกาสไปลองเนื้อไพรเมอร์ตัวนี้ที่เคาท์เตอร์กับเพื่อนค่ะ แล้วกลับมาดูผลปรากฏไม่แพ้ แต่ด้วยความที่ช่วงนี้งบจำกัด เลยสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตเอาค่ะ ตอนแรกก็หวั่นๆกลัวของปลอม แต่พอได้มาแล้วเราจำเนื้อสัมผัสได้โล่งอก.... 

          ใช้ปริมาณนิดเดียว อาจจะคุมมันไม่ได้ 100% แต่ก็ไม่ทำให้ Lunasol เราเป็นคราบค่ะ ;D เครื่องสำอางติดทนขึ้นจริงๆ (ช่วยลดอาการหน้าหมองของเราได้ด้วยนะ ไม่รู้เป็นกันทุกคนรึเปล่า เพราะขนาดเราทดสอบมาใช้กับรองพื้น Shu ของเราที่จะหมดแล้วเนี่ยแหละ ปกติผ่านไป 4-5 ชม. หน้าเราจะหมองๆแล้ว แต่วันที่ใช้คู่กับไพรเมอร์ตัวนี้ กลับมาตอนหัวค่ำ แต่งไปตั้งแต่ 10 โมง หน้าเด้งค่ะ ไม่หมองๆ ปลื้มมากมายยยย) ......แต่ด้วยความที่กลัวเรื่องการอุดตัน เราจึงไปศึกษาข้อมูลการทำความสะอาดหน้าค่ะ ก็ได้คำแนะนำมาว่าควรล้างด้วยคลีนซิ่งออย และด้วยความโชคดีของเราที่ได้เทสเตอร์คลีนซิ่งออยของคาเนโบ้มาทดลองใช้ก็ใช้เจ้านี่แหล่ะล้าง สะอาดดีนะคะ แต่หน้ามันมันๆเราไม่ชอบ ไม่ชินเลยปกติเราเช็ดด้วยคลีนซิ่งแบบน้ำ หลังล้างด้วยออยเราก็ต้องมาเช็ดซ้ำ (เหอๆ โรคจิต) เราก็เลยไปลองหาว่าคลีนซิ่งออยตัวไหนดี ราคาไม่แพง ก็ไปเจอกับตัวนี้เลย.....

 Hada labo cleansing oil อ่านรีวิวมาบอกว่าไม่มีส่วนผสมที่ทำให้แพ้ค่ะ วันนี้ฤกษ์ดีก็เลยไปซื้อที่ Watson ใช้แต้มบัตรลดไป 50 บาท(คุ้มมม!!!) กลับมาลองใช้ ปลื้มมากมายยย มันไม่หนืด ไหลลื่นไปกับหน้าได้ดี นวดเพลินเลย ล้างออกง่ายไม่เหลือความหนืดที่หน้าเลยค่ะ.....แต่ๆๆ มันก็มีข้อเสียนะ เดี๋ยวเราจะเปรียบเทียบคลีนซิ่งออย Kanebo กับ Hada Labo ให้ฟังค่ะ

          Kanebo Blanchir superior oil cleansing : ลักษณะออยค่อนข้างหนืด (แอบกลัวหน้าเหี่ยวเพราะต้องออกแรงนวดกับหน้าอ่า) เลยต้องใช้ปริมาณเยอะหน่อยนะคะ (แต่มันก็ยังหนืดอ่า พอนวดไปซักพักแล้วมันหนืดมากแล้วว เราต้องรีบพรมน้ำ ให้ออยกลายเป็นน้ำนม) หลังล้างออกจนเกลี้ยง ผิวหน้าสะอาดดีค่ะ ชุ่มชื้น แต่มันให้ความรู้สึกหนืดๆเหมือนล้างหน้าไม่สะอาด เราต้องล้างด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นตาม แล้วเช็ดด้วยคลีนซิ่งน้ำอีกทีเพื่อนความสะอาด 100% 

         

  ข้อดี : ล้างหน้าได้สะอาดกว่า Hada labo แต่มันก็แอบทิ้งความหนืดไว้เช่นกัน ต้องล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดนะคะ (เราผิวแห้งเลยไม่อยากใช้โฟมล้างหน้าตามอีกค่ะ) ผิวชุ่มชื่น 

       

 ข้อเสีย : ราคาเกินงบเรา 555++ แล้วที่ไม่ชอบเลย คือ มันทิ้งความหนืดไว้หลังล้างหน้าอ่า ><”

          Hada labo Super Hyaluronic acid moisturizing cleansing oil (ชื่อเต็มยาวมาก = =”) : ลักษณะออยหนืดน้อยกว่า Kanebo ค่ะ ใช้แล้วชอบมาก นวดหน้าสบายมากเลย ล้างออกง่ายด้วย ไม่ทิ้งความหนืดไว้เลย หน้านิ่มๆดี แต่พอเรา เช็ดด้วยคลีนซิ่งน้ำอีกครั้งมันยังมีคราบรองพื้นติดมาเล็กน้อยค่ะ เลยคิดว่าประสิทธิภาพในการทำความสะอาดไม่ล้ำลึกเท่า Kanebo 

       

 ข้อดี : นวดหน้าง่าย(ไม่กลัวเหี่ยว) ไม่ทิ้งความหนืดหลังล้างหน้า ชุ่มชื้นดี ราคาไม่แพงมาก เค้าเคลมว่าไม่ผสม แอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอมและสี 

       

 ข้อเสีย : ทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่า Kanebo เพราะฉะนั้น ใครแต่งหน้าหนักๆแล้วใช้คลีนซิ่งตัวนี้อาจต้องใช้ตัวอื่นร่วมด้วยนะคะ หรือไม่ก็นวดนานๆหน่อย....แต่ที่เราดูรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ เราก็รู้สึกว่ามันลบได้ไม่เกลี้ยงอ่าค่ะ (จากที่รีวิวลบเครื่องสำอางรอบดวงตา) แต่เราต้องการทำความสะอาดผิวที่เราใช้ไพรเมอร์ไปก็ใช้ได้ดีโอเคเลย....ข้อเสียอีกข้อนึง คือ กลิ่นเหม็นมากกกกกกกกกกกค่ะ (มากจริงๆ สังเกตได้จากตัว “ก” ของเรา 555++)

          มาต่อที่ตาข่ายทำฟองสบู่ล้างหน้า เราเคยดูคลิปของคุณนายปลาดิบ เรื่องการล้างหน้าค่ะ แล้วสนใจตาข่ายนี้เลยไปหาซื้อที่ daiso ....ผลลัพธ์ที่ได้ชอบมากกก ฟองฟูนุ่ม เราลองใช้กับสบู่เด็กทำให้เกิดฟอง ฟูนุ่มมากก เวลาสัมผัสกับหน้ามันช่างเพลินดีจริงๆ ><" ถ้าลองใช้กับโฟมวิปคงจะเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก :D (แต่ผิวหน้าเราแห้งค่ะใช้บ่อยไม่ค่อยได้ แต่ติดใจฟองอ่าา 555++...)

ขอจบกระทู้ขี้เห่อ&มินิรีวิวไว้เท่านี้นะคะ ขอบคุณค่ะ

<"<="" span="">