[:)-Review-(:] จัดเต็ม! My Beauty Diary Mask & Workshop +++++
tamnarak 19 18
วะ วะ วะ ว้าววว!!!
สวัสดีทุกคนนะครับ ตามเองครับ
วันนี้ตามก็จะขอมารีวิวกิจกรรมที่ตามได้ไปร่วมสนุก
กับทางจีบัน และ My Beauty Diary Mask ซะหน่อยล่ะ
ก่อนอื่นเรามามาทำความรู้จักกับเจ้ามาร์คตัวนี้กันกันก่อนเลย
My Beauty Diary Mask เนี่ยเป็นแบรนด์จากไต้หวัน
ซึ่งเจ้าตัวนี้เนี่ยก็ถือว่าเป็นมาร์คที่สาวๆ ไต้หวันยกให้เป็นอันดับ 1 เลย
ไม่เฉพาะแค่เพียงในไต้หวันเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงฮ่องกง จีน และฝั่งยุโรปอีกด้วย!
ซึ่งตามก็รู้จักเจ้ามาร์คตัวนี้มาก่อนนานแล้วล่ะ เพราะได้ไปอ่านตาม Blog ต่างๆ มากมาย
หลายคนที่มารีวิวเนี่ยก็งงเหมือนกันนะ เพราะเป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่เลย
เพราะโดยปกติแล้วฝรั่งเขาก็ไม่ค่อยจะมาใช้สินค้าของฝั่งเอเชียเท่าไหร่ แต่อันนี้ไม่ใช่!
และแล้ววว มันก็มาถึงไทย!!! ตอนที่ได้เห็นในชั้นวางในวัตสันก็ตื่นเต้นมาก
ไม่รอช้าเลยสอยมาใช้ซะเลย ซึ่งใช้มาเรื่อยๆ ก็ถูกใจมากๆ เพราะเจ้ามาร์คตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นสุดๆ ไปเลย!
เอาล่ะ วันนี้ตามจะมาแนะนำให้รู้จักกันทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทที่นำเข้าได้นำเข้ามาด้วยกัน 7 สูตร ดังนี้
เรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวา : ดอกซากุระญี่ปุ่น, บัลแกเรียไวท์โรส, ไข่มุกดำ, อาร์บูตินไวท์เทนนิ่ง, ไฮยาลูโรนิค แอซิด มอยซ์เจอร์ไรซ์ซิ่ง, แอปเปิ้ล โพลีฟีนอล, ไวน์แดง
ซึ่งตามคงจะสาธยายทั้งหมดคงไม่ไหวเลยขอกล่าวผลลัพธ์โดย
รวมเลยก็แล้วกันจากที่ได้ทดลองใช้มาทั้งหมดแล้ว
ผลลัพธ์หลังจากมาร์คหน้า : โดยรวมที่เด่นมาแต่ไกลเลยก็คือความชุ่มชื้น มาร์คทุกตัวให้ความชุ่มชื้นมากกกก (อยากเติม ก อีก
) ชุ่มจนเอาครีมที่เหลือเนี่ยมาได้คอ ทาแขน ทาข้อศอกได้เลย เรียกได้ว่าทาได้ครบทุกส่วนอ่ะ
ต่อมาเลยก็คือกลิ่น แต่ละตัวเนี่ยก็จะมีกลิ่นแตกต่างกันแต่ทุกตัวล้วนก็ช่วยผ่อนคลายอารมณ์จากความตึงเครียดที่ต้องเจอมาทั้งวัน อย่างตาม ตามชอบกลิ่นซากุระที่สุดเลย มันหอมแบบหวานๆ ผ่อนคลายสุดๆ ส่วนใครถ้าอยากเมาก็ลองไวน์แดงกันได้นะ กลิ่นมันเหมือนมากๆ ดมแล้วนึกว่ากำลังกินไวน์ รู้สึกมึนๆ (เอ๊ะ! หรือคิดไปเอง) ผลลัพธ์อย่างสุดท้ายก็คือในเรื่องของความผ่อง!
ไม่รู้ว่าคนที่ได้ทดลองใช้จะเป็นเหมือนกันไหม แต่หลังจากที่ตามทิ้งมาร์คไว้ 20-30 นาทีแล้วเอาออก แล้วทำการตบๆ นวดๆ รอให้ครีมซึมเข้าหน้า พอมันซึมแล้วเนี่ย โอ้!!! หน้าผ่องได้ใจเลย ดูมีสุขภาพดี สดใสมากมาย Love Love
Spacial : Workshop with My Beauty Diary Mask
ตามได้ทราบข่าวกิจกกรรมนี้จาก Facebook ของทางมาร์คก็เลยคิดอยากที่จะลองเข้าร่วมขึ้นมา
ซึ่งตั้งแต่คลุกคลีกับจีบันมาเนี่ย ไม่เค้ย ไม่เคยที่จะร่วมกิจกรรมอะไรเลย ก็เลยกล้าๆ กลัวๆ
แต่เอานะ! เพื่อของฟรี (Oop! อย่าพูดดังไป) ก็เลยร่วมสนุกไป อุ๊ย!!! ปรากฎว่าได้ด้วย พี่ฟะร้าโทรมาตามใหญ่เลย
เมื่อถึงวันงานก็เตรียมตัวไปอย่างดีเลย ใส่ชุดสีชมพูให้เข้ากับ Concept ของงานเขาซะหน่อย
เมื่อไปถึงก็ลงทะเบียนเข้างาน ฮิฮิ แค่เข้างานก็ได้มาร์คหน้าทั้ง 7 สูตรมาด้วย Love อ่าาา
พอเข้ามาข้างในก็เห็นสาวๆ หลายคนเลยมาถึงกันแล้ว กำลังขมักเขม้นทำ Diary D.I.Y กันอยู่
ตามก็เลยหาที่นั่งทำมั่ง ตอนแรกก็นั่งคิดอยู่นานเลยว่าทำยังไงดี ขอบอกว่านั่งอยู่นานมากยังไม่เริ่มซักที
ก็หาอะไรมาแปะนู่นนี่นั่น เอาอันนู้นมาติด เอาริบบิ้นมาทำเป็นโบว์ ระหว่างนั่งทำก็ได้ทำความรู้จักกับพี่ๆ หลายคนเลย แต่ละคนก็น่ารักทั้งนั้น แถมฝีมือการทำก็สุดยอด ซึ่งการทำไดอารี่ครั้งนี้ก็มีแข่งขันด้วยล่ะ ใครทำได้ถูกใจกรรมการมากที่สุดได้รับมาร์ค เวอร์ชัน Limited ไปเลย มี 3 รางวัลด้วยกัน คิดในใจว่าเราคงหมดสิทธิ์แล้วล่ะ ไม่ได้แน่ๆ เลย ก็เลยทำๆ ไป ได้ออกมาเป็นเช่นนี้
หลังจากนั้นพี่ๆ ก็บอกให้ผู้ที่มาร่วมงานทุกคนเข้าไปนั่งในงานเพื่อร่วม Workshop กัน ซึ่งตามเข้าสายไง
เลยอดทานของว่างที่ทางเจ้าของงานเตรียมไว้ให้ Sad อ่ะ น่ากินทั้งนั้นเลย
เมื่อเข้ามาก็ปรากฎว่าทุกคนพร้อมกันหมดแล้ว พิธีกรก็เข้ามากล่าวเปิดงาน จากนั้นก็เชิญ คุณหมอ ดร.กฤษดา ศิรามพุช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ มาพูดคุย สอนเคล็ดลับต่างๆ มากมายที่ช่วยทำให้หน้าใสซึ่งก็ได้ความรู้ใหม่ๆ หลายๆ อย่างเลย
ตึง!!! และแล้วเวลานั้นก็มาถึง เวลาที่เราจะต้องทดสอบมาร์คหน้ากัน กรี๊ดดดด!!!
ต้องลบหน้าออกก่อนหมดเลย
หลังจากลบหน้ากันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาลงมือ
วันนี้ตามเลือกสูตรบัลแกเรียไวท์โรส เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะสูตรนี้เป็นสูตรเดียวที่ตามยังไม่เคยลองใช้
ก็เลยจัดตัวนี้ซะเลย จากนั้นก็รอไปประมาณ 20-30 นาที ระหว่างนั้นพิธีกรก็คอยถามว่าใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อครบ 20 นาทีได้มั้ง ก็ถึงเวลาถอด! ถอดมาร์คออก หลังจากถอดมาร์คออก ก็ทำการนวด โดยนวดขึ้นด้านบน เพื่อต้านแรงโน้มถ่วง เพื่อให้ผิวหน้าเราแปรผกผันกับแรงโน้มถ่วงของโลก 555+ โอ๊ะ! หลังจากมาร์คซึมเข้าหน้าหมดแล้ว รู้สึกชอบแฮะ หน้าดูกระจ่างใสแล้วก็รู้สึกหน้ามีน้ำมีนวลมากเลย และภายหลังมีพี่คนหนึ่ง (พี่โอ๋) แอบชมว่าตามหน้าใสมากเลยตอนลอกมาร์คออกมา ปลื้มอ่ะ
วันนี้ตามเลือกสูตรบัลแกเรียไวท์โรส เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะสูตรนี้เป็นสูตรเดียวที่ตามยังไม่เคยลองใช้
ก็เลยจัดตัวนี้ซะเลย จากนั้นก็รอไปประมาณ 20-30 นาที ระหว่างนั้นพิธีกรก็คอยถามว่าใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อครบ 20 นาทีได้มั้ง ก็ถึงเวลาถอด! ถอดมาร์คออก หลังจากถอดมาร์คออก ก็ทำการนวด โดยนวดขึ้นด้านบน เพื่อต้านแรงโน้มถ่วง เพื่อให้ผิวหน้าเราแปรผกผันกับแรงโน้มถ่วงของโลก 555+ โอ๊ะ! หลังจากมาร์คซึมเข้าหน้าหมดแล้ว รู้สึกชอบแฮะ หน้าดูกระจ่างใสแล้วก็รู้สึกหน้ามีน้ำมีนวลมากเลย และภายหลังมีพี่คนหนึ่ง (พี่โอ๋) แอบชมว่าตามหน้าใสมากเลยตอนลอกมาร์คออกมา ปลื้มอ่ะ
หลังจากมาร์คหน้ากันเสร็จเรียบร้อยก็มาถึงเวลาประกาศผลไดอารี่ที่ได้รับรางวัล
ซึ่งคนแรกที่ได้...น้องตั้ม??? ใครหว่า??? คงไม่ใช่เรา เอ๊ะ! แต่พอหยิบไดอารี่ออกมา
นั่นมันของเรานี่หว่า ตอนไปรับรางวัลหน้านิ่งมาก แต่ในใจแอบกรี๊ดมากมาย
ไม่คิดว่าจะได้เลย ต่อมาก็ประกาศคนต่อๆ ไป คนที่ได้ที่ 1 ได้มาร์คชุดใหญ่ในกล่อง 34 แผ่นแหนะ
โฮกมากกก! พอประกาศรางวัลเสร็จ ตามแอบสังเกตได้ว่า คนที่ได้รางวัลนั่งติดกันเลย 3 คน แบบว่าเป็นอะไรที่บังเอิญมากมาย เท่านี้ก็เป็นอันจบการ Workshop ครั้งนี้
อันนี้เป็นรางวัลที่ตามได้มาครับ เป็นมาร์ค Limited Edition 22 แผ่นมีด้วยกัน 3 สูตรคือ
ช็อคโกแลต รังนก และอโลเวร่าครับ
การมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ตามรู้สึกสนุกมากๆ เป็นอะไรที่ตามไม่เคยและเป็นครั้งแรก
แต่ก็ทำให้ได้อะไรหลายๆ อย่าง รู้สึกประทับใจกับงานครั้งนี้ ทำให้ได้รู้จักพี่ๆ น่ารักๆ หลายคน ไม่ว่าจะเป็นพี่นก พี่โอ๋ พี่อ้น และคนอื่นๆ ทุกๆ คนน่ารักกันมากๆ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจวำหรับตามมากๆ เลย
สุดท้ายนี้ก็ขอปิดท้ายด้วยภาพถ่ายกับคนดัง ณ จีบัน พี่ฟะร้านั่นเองไว้โอกาสหน้าเจอกันในรีวิวถัดไปครับ
It's me! Tam
ปล. ยาวไปนิด แต่เค้าตั้งใจเขียนนะ
