ปฎิบัติการ ลดอ้วน เป้าหมาย 20 กิโล ใน 3 เดือน

17 45
   
              สาวๆเคยมั้ยคะที่น้อยเนื้อต่ำใจในรูปร่างของตัวเอง ทำไมเราไม่เกิดมามีรูปร่างผอมเพรียวเหมือนคนอื่นเขา
รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมที่บางคนกินอะไรเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เพื่อน จขกท คนนึง นางผอมมากกก แต่กินเก่งสุดๆ
ขนมขบเคี้ยวมีเท่าไหร่ฟาดเรียบไม่มีเหลือ ครั้งนึงเจ้าหล่อนฟาดบราวนี่เข้าไป 6 ชิ้นใหญ่ๆ ในเวลาไม่ถึง 10 นาที !!!   
น้ำหนักของชีไม่เคยเพิ่มหรือลดไปมากกว่า 2 กก. เลย   กรี๊ดด >//< ชั้นเกลียดแก!!!  

-------------------------------------------------------
เคยใช่มั้ยคะที่บอกตัวเองว่า แต่ก่อนชั้นก็ไม่ได้อ้วนแบบนี้นะ เคยใส่สายเดี่ยวได้นะยะ แล้วทำไมเดี๋ยวนี้มันอืดพะโล้ขนาดนี้ 
หรือจะพึ่งยาลดความอ้วน แล้วถ้ากลายเป็นอีบ้าอีบ๊องไปล่ะ เอาล่ะ!! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มควบคุมอาหาร >>>>

วันต่อมา โทรศัพท์ดังละ  “แก!! รวมแก๊งค์ หมูกะทะ ร้านเดิม” ลังเลๆ  -_-“ อืมมมม “พรุ่งนี้ค่อยลดละกัน” แง่วววว
------------------------------------------------
-
                ส่วนตัว จขกท เอง ขอยืดอกยอมรับเลยค่ะ ว่าเคยทานยาลดความอ้วน ทานมาหลายปีมากก
ทานๆหยุดๆมาตลอด พอรู้สึกว่าอ้วนมากก็ไปหาหมอ ซื้อยามาทาน 
พอลดลงก็เริ่มขี้เกียจไปโดยไม่ทานยาหยุด
แถมพอมันอ้วนขึ้นมามันไม่อ้วนเท่าเดิม แต่มันอ้วนมากกว่าเดิมซะอีก
 “ใครเคยเป็นอย่างนี้บ้างยกมือขึ้น!!!” 

อย่าอายค่ะอย่าอาย 
                อย่าอาย ที่จะยอมรับว่าชั้นก็เป็นคนนึงที่เคยกินหรือกินยาลดความอ้วนอยู่ มันไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไรหรอกค่ะ อยู่ที่คุณได้เรียนรู้อะไรจากยาลดความอ้วน 
จขกท ไม่ได้มาบอกว่ายาลดความอ้วนให้โทษอย่างไร เพราะคงมีคนแชร์มากพอสมควรแล้ว 
มีหลายคนที่พอใจกับการกินยาลดความอ้วน การที่เราเลิกทานยาแล้วอ้วนขึ้น
เพราะใจเราเองนั่นแหละสำคัญที่สุด ตอนที่เราทานยา มันจะทำให้เราไม่อยากอาหาร
พอเราเลิกทาน ก็กลับมาสวาปาม เหมือนเดิม มันก็อ้วนๆๆๆ  

ถ้าเราหักห้ามใจ ควบคุมพฤติกรรมการกิน ก็จะรักษารูปร่างไว้ได้ ถ้าเรารับประทานอย่างถูกวิธีและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ มันก็ไม่อันตรายถึงชีวิต   แต่ที่แน่ๆ คือปฎิกิริยาที่มีต่อยา 
เช่น คอแห้ง ปากเหม็น เหนื่อยง่าย ใจสั่น   พะอืดพะอม แล้วแต่อาการของแต่ละคน 

*** มารร้ายอีกตัวนึงที่น่ากลัวสุดๆ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
ศัตรูตัวฉกาจ ที่เป็นภัยเงียบ มันเป็นเหมือนมัลแวร์ ที่แอบซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ ค่อยๆทำลายและสร้างความหายนะให้รูปร่างของเราในที่สุด
จขกท ขอยืดอกรับอีกครั้งว่า เป็นคนดื่นค่อนข้างมาก (แต่ตอนนี้เลิกแล้ว) จุดเปลี่ยนในชีวิตเริ่มขึ้น หลังจากที่ จขกท เริ่มสังสรรค์มากขึ้น เพราะเริ่มชีวิตการทำงานเป็นครั้งแรก
รุ่นพี่ที่ออฟฟิศชวนปาร์ตี้ ทุกวัน ทั้งเหล้า เบียร์ และแน่นอน กับแกล้ม
นับจากวันที่เลิกไปซื้อยาลดความอ้วนมากิน จนกระทั่งเรียนจบ
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเป็น 56 กก. เราก็ชิวๆ ทั้งที่สูงแค่ 160 ซม.

คิดว่าเดี๋ยวค่อยลด ทั้งดื่ม กิน ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน 1 ปีที่ผ่านมา 
รู้สึกตัวอยู่ตลอดว่าอ้วนขึ้นจากเสื้อผ้าที่เริ่มใส่ไม่ได้ แต่คงไม่เท่าไหร่หรอก เดี๋ยวค่อยลด(อีกแล้ว) 
วันหนึ่งในห้างแถวออฟฟิศ จขกท เหลือบไปเห็นเงาในประตูกระจกหน้าร้าน เสียงแรกที่ดังเข้ามาในหัวคือ “ยัยป้านี่คือใคร !! ทำไมถึงได้อ้วน เตี้ย โทรม ดูแก่เกินอายุขนาดนี้ “ 

หลังจากนั้นทุกๆวัน จะมีคนพูดจาเหน็บแนมเรื่องอ้วนของ จขกท ตลอด 
“นี่แกจะอ้วนไปถึงไหนเนี่ย!!”  
“ท้องรึเปล่ายะ” 
“อย่างกับคนมีลูกแล้วแน่ะ” 
“เดินกะแม่นี่เค้านึกว่าพี่น้องกันเลยนะเนี่ย”
ต่างๆนาๆ สารพัดที่จะหามาพูด พอเราบอกว่าอย่าล้อเราเลย ก็จะพูดว่า
“ นี่ชั้นพูดเพราะหวังดีนะเนี่ย เป็นการกระตุ้นให้แกลดความอ้วน ถูกว่ามากๆสิดี จะได้ฮึด” “แกต้องยอมรับความจริงให้ได้สิ นี่มันตัวเรา คนเราเลือกเกิดไม่ได้นะ”


เราก็เริ่มเครียดและกดดัน เริ่มไม่อยากเจอหน้าผู้คน เพราะขี้เกียจฟังคำพูดเหล่านั้น ไม่อยากเดินออกจากบ้าน เก็บเนื้อเก็บตัว อารมย์เสียง่าย เพราะคิดว่าทุกคนรุมเหน็บแนม ถากถาง จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เครียด ซึมเศร้าตลอดเวลา ครอบครัวก็เป็นห่วงมาก ในที่สุดก็ตัดสินใจ ลองชั่งน้ำหนักเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี   หาห้องน้ำมุมลับๆในห้าง หยอดเหรียญบาท วินาทีที่ก้าวขึ้นตาชั่ง เหมือนหมูอ้วนๆตัวนึง ที่กำลังจะขึ้นเขียง - - - -
V
V
V
 
80 kg. 
v
v
( -_-“) > > > > (>//<) > > > > (TOT)    
เกินไปแล้ว 24 กก. ใน 1 ปี ทำไมแกปล่อยตัวได้ขนาดนี้  

เมื่อก่อน จขกท เคยทำงานพิเศษเป็นแดนเซอร์และเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย
(อย่าหาว่าโอ้อวดนะคะ แค่อยากให้เข้าใจอารมย์ตอนนั้น) 
เพื่อนๆที่ ม. ก็นัดเจอกัน แต่เราไม่เคยไปเลย กลัวคนถาม อาย กลัวถูกล้อ ปฏิเสธมาตลอด จนเพื่อนๆเลิกชวนอีกเลย   
                นี่มันบ้าชัดๆ ชั้นจะใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ไปตลอดชีวิตเหรอ?? ไม่เจอหน้าผู้คน อารมย์เสียใส่ทุกคนที่พูดเล่นด้วย ทางเลือกมาอยู่ 2 ทาง คือ ทางแรก ยอมรับความจริง ว่าเรากลายเป็นคนอ้วน ทำใจกับคำพูดต่างๆ นานา ของคนรอบตัว หาซื้อเสื้อผ้าไซส์ใหม่ที่ใส่ได้    หรือทางเลือกที่สอง ในเมื่อความเป็นจริงคือ เรายังเป็นผู้หญิง เป็นเพศที่รักสวยรักงาม ยังปลงสังขารไม่ได้ และเชื่อในสโลแกน คสอ หนึ่งว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” แน่นอน ว่า จขกท เลือกทางที่สอง
เป็นที่มาของ ปฎิบัตการ MLW (แหะๆ คิดชื่อเอง) Mission to Lose Weight
ภารกิจ                    ลดน้ำหนัก ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม 
วัตถุประสงค์          เพื่อความสวยงามของรูปร่าง
       สร้างความมั่นใจในตนเอง
       ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
เป้าหมาย               ลดน้ำหนัก 20 กก. ใน 3 เดือน
วิธีดำเนินการ         กำหนดเมนูอาหารที่รับประทานใน 1 วัน คือ
      เช้า           นม 1 กล่อง ขนมปัง 2 แผ่น
     กลางวัน    ทานตามปกติ เน้นอาหารให้พลังงานไม่สูงเกินไป เช่น  
                                   สุกี้   ก๋วยเตี๋ยวน้ำ
     เย็น            ผลไม้ 10 บาท หรือ บางวันเราก็ไม่ทาน

สัปดาห์แรกเรายังไม่ออกกำลังกาย เพราะด้วยรูปร่าง ต้องการพลังงานเยอะ ต้องลดอาหาร ทั้งยังออกกำลังกายอีก เรากลัวว่าจะทนไม่ไหว และตบะแตกเอาได้ง่ายๆ เลยยังเบาๆ ก่อน แค่ลดอาหารก็พอ
และนี่คือผลที่เราได้หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ 
น้ำหนักจาก 80 กก. ลดเหลือ 75.2 กก. 
เราถ่ายรูป Before & After ตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มลด และจะถ่าย ทุกๆสัปดาห์ ใส่ชุดเดิม ยืนที่เดิม ให้เห็นชัดๆไปเลย 
              
   


plechari

plechari

ผมดำละ

FULL PROFILE