ขอระบายหน่อยนะคะ มันไม่ไหวแล้ว

2 11
ขอระบายความในใจหน่อยนะคะ มันไม่ไหวแล้ว

ความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกันของรี่กับเพื่อน(ขอไม่เรียกว่าเพื่อนสนิทนะคะ เหตุผล จะอธิบายให้ข้างล่างค่ะ)
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นตอนที่เราไปฝึกงานด้วยกัน ทุกเช้าเพื่อนก็จะมารับรี่ไปด้วยกันทุกวัน กลับด้วยกันทุกเย็น ไปไหนมาไหนด้วยกัน จนพี่ที่ฝึกงานถามว่า เป็นแฟนหรือเป็นเพื่อนกัน

แต่ความไม่เข้าใจและความเปลี่ยนแปลงระหว่างรี่และเพื่อนก็เริ่มขึ้นเมื่อเพื่อนอีกคนที่เรียนด้วยกัน ซึ่งมาฝึกงานที่เดียวกัน เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทีแรกตัวรี่เองก็ไม่ได้คิดมากอะไร กลับดีใจด้วยซ้ำที่มีเพื่อนเพิ่มขึ้น(เพื่อนคนที่ว่านี้เรียนเอกเดียวกันแต่คนละ sec ก็เลยทำให้ไม่ค่อยรู้จักกัน) เมื่อครั้งที่พี่ที่ฝึกงานชวนไปเที่ยวปาย รี่ก็ชวนเพื่อนใหม่คนนี้ไปด้วย (ส่วนเพื่อนไม่ได้ไปด้วยเพราะคุณแฟนไม่ให้ไป) เราเข้ากันได้ดีมาก เหมือนรู้จักกันมานาน พอกลับมาฝึกงานอีกสองสามวันก็เปลี่ยนไป ทุกทีเวลาพักเที่ยงก็จะเล่นกัน หยอกล้อกัน แต่เกิดอะไรขึ้น รี่ก็ไม่รู้ เพื่อนใหม่คนนี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จะเข้าไปเล่นหรือคุยด้วยก็ทำเป็นหงุดหงิดใส่ ตอนนั้นคิดว่า สงสัยเพราะงานยุ่งหรือยังไง ก็เลยไม่ได้ใส่ใจ

และแล้วความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ทุกวันรี่จะมาฝึกงานกับเพื่อนและเย็นก็กลับด้วยกัน แต่พอกลับมาการไปบรรยายกฏหมายที่ทางศาลเยาวชนฯไปบรรยายที่ อ.กัลยาณิวัฒนามา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด จากทุกเย็นที่กลับด้วยกัน เพื่อนก็ไปกับเพื่อนใหม่ ให้รี่กลับกับเพื่อนอีกคน เป็นแบบนี้แทบจะทุกวัน ก็เคยถามว่า ทำไมไม่กลับด้วยกันเหมือนเดิม ก็ได้คำตอบมาว่า ไม่ว่าง ไปธุระ บลาๆๆๆ ก็เลยทำให้เริ่มห่างๆกัน และที่แปลกใจมากที่สุดคือ เพื่อนที่มาฝึกงานด้วยกัน เปลี่ยนไป ทุกพักเที่ยงเราจะมานั่งคุยกันตรงประชาสัมพันธ์ แต่พักหลังๆ กลับไปนั่งคุยกันที่อื่น พอเดินเข้าไปก็หยุดคุยกันซะงั้น งงค่ะ งงมากๆ และก็จะชวนกันไปนั่นนี่ ไม่ค่อยมาชวนรี่ไปด้วย ไอ่เราก็ไม่อยากคิดอะไรมาก แต่จุดแตกหักมาเกิดขึ้นเอาวันใกล้จะฝึกงานเสร็จ พวกเรานัดกันจะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แต่พอเลิกงาน กลับมาบอกเราว่า ไม่ไปกันแล้ว (มารู้อีกทีว่าพวกเค้านัดกันไปที่อื่นค่ะ)และเพื่อนก็บอกว่าวันนี้ให้กลับด้วยไม่ได้ เพราะไม่ว่าง ไปกลับกับเพื่อนอีกคนแทน ณ วินาทีนั้น มันไม่ไหวแล้ว ก็เลยบอกไปว่า "งั้นกูกลับคนเดียวก็ได้" แล้วก็เดินออกมาเลย มายืนรอรถจะกลับบ้านก็ยืนร้องไห้อยู่คนเดียวจนคนแถวนั้นมองกันใหญ่ พอฝึกงานเสร็จก็ห่างๆกับเพื่อนกลุ่มนี้ไป เพราะเราก็ใช้ชีวิตของเราไป

เปิดเทอมเรียนซัมเมอร์ก็ยังเจอเพื่อนคนนี้อยู่ ไม่วายมาเจอกันในวิชาที่ลงเหมือนกันอีก พอเจอกัน รี่ก็เฉยๆไม่อยากเข้าไปคุยหรืออะไรด้วยแล้ว มันรู้สึกแย่นะคะ ไม่ได้จะเห็นแก่ตัวนะ ที่ว่าอยากเก็บเพื่อนเอาไว้คนเดียว แต่จู่ๆก็เปลี่ยนไปแบบนั้นมันทำอะไรไม่ถูก งง สับสน ไม่เข้าใจ ก็เลยแสดงออกด้วยการ เมิน ไม่สนใจ เธอจะทำอะไรก็เรื่องของเธอฉันไม่เกี่ยว แล้วเพื่อนคนนี้ก็เมล์มาคุยกับรี่เลยว่า "ทำไมเมินกัน ทำเป็นไม่ใส่ใจกัน ฉันรู้สึกแย่ที่แกเป็นแบบนี้...." ก็เลยตอบกลับไปว่า "แล้วที่เราคบกันมานานสี่ปีกว่าๆแกไม่รู้จักนิสัยฉันบ้างเลยหรอ ไม่รู้เลยหรอว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันรู้จักนิสัยแก รู้ว่าแกชอบไม่ชอบอะไร แต่แกกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันเลย (เพื่อนกันก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่นี่กลับไม่ใช่ให้ฉันเรียนรู้แกไปคนเดียว มันไม่แฟร์) ในเมื่อแกมีเพื่อนใหม่แล้วก็ยินดีด้วย ทุกครั้งที่แกมีปัญหาฉันเป็นคนแรกที่แกจะมาปรึกษาแต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง หากฉันทำให้แกรู้สึกแย่ก็ขอโทษด้วย" จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีก แต่เมื่อสามสี่วันที่ผ่านมา เพื่อนคนนี้ก็โทรมาเล่าให้ฟังว่าเลิกกับแฟนแล้วและก็ขอโทษที่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างเราขึ้น.....รี่ก็ดีใจที่เรากลับมาเป็นเพื่อนกันอีกได้

และวันนี้ ก็เป็นวันเกิดเพื่อนซี้ แต่เค้ากลับไม่ชวนไปเที่ยวด้วยกันและนี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ครั้งแรก ก็เคยถามไปว่า "ไปเที่ยวไหนกันมาว่ะ ไมไม่ชวนกัน" แต่คำตอบที่ได้กลับคืนมาคือ "ขี้เกียจโทรไปหาแกน่ะ เพราะรู้ว่าชวนแกๆก็ไม่ไปอยู่แล้ว" ใช่ ถ้าไปเที่ยวผับกัน รี่ไม่ค่อยอยากไปแล้ว ห่วงสุขภาพตัวเองค่ะ มันเกิดอะไรขึ้นอีกค่ะ ไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจอะไรอีกแล้ว พอแล้วเหนื่อยกับเพื่อนคนนี้มาก ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ แต่นับจากนี้ก็ไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าแล้วค่ะ คำว่า เพื่อนสนิท กับเพื่อนคนนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เพื่อนสนิท คือเพื่อนที่รู้ใจกัน เข้าใจกัน รู้นิสัยกันและกัน แต่กับคนนี้ไม่ใช่อย่างงั้นเลย รี่ต้องเรียนรู้ รู้จัก และเข้าใจเค้าเป็นส่วนมาก แค่คำว่าเพื่อน ก็เพียงพอแล้วค่ะ อย่าให้มันลดลงมาเป็นแค่ คนรู้จัก เลย

ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ......นั่งพิมพ์ไปด้วยน้ำตาซึมไปด้วยค่ะ


สาวเมืองเหนือ

สาวเมืองเหนือ

สาวเหนือคนนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้า

FULL PROFILE