รีวิว [Review] : ย้อมสีผมกับโฟมนุ่มๆ Liese จ้าาา

(เครดิตภาพจากเว็บ : ไม่ได้เซฟชื่อเว็บมา แต่เอามาจากเว็บต่างประเทศค่ะ ขอขอบคุณและขออภัย ณ ที่นี้นะคะ ขอโทษค่า T T)



หลังจากที่เดินวนเวียนไปๆมาๆว่าจะเอาสีอะไรดี

- Sweet Apricot
- Glossy Brown
- Chiffon Beige
- Marshmallow Brown

แล้วก็ไปเจออีกยี่ห้อนึงที่เป็นโฟมเหมือนกัน SCHWARZKOPF แต่สีน้อยกว่า 
ลังเลมากๆ แต่ก็เลือกมาได้เป็นเจ้ากล่องนี้...

 Liese Sweet Apricot โฟมเปลี่ยนสีผม น้ำตาลเลื่อมส้ม

ความสว่างของสี Sweet Aprtcot อยู่ที่ระดับ =

ผมเราก็สภาพย่ำแย่มาก เพราะทำอะไรกับมันเยอะมาก
เนื่องจากย้อมแล้วย้อมอีก ต่อเนื่องติดต่อกัน

เดือนตค. 53 ย้อมดำ เพื่อสัมภาษณ์งาน
แล้วก็กลับมาย้อมสีอีก 2-3 รอบ (แต่ไม่ติด)
ช่วงรับปริญญาเดือนพย. 53 ก็กลับไปย้อมน้ำตาลเข้ม
เดือน ธค. ลงสีไปอีกรอบที่ร้าน แต่ก็ติดบ้างเล็กน้อย
จนในที่สุดเดือนนี้เลยคิดว่า เอาสีที่มันสว่างๆลง จะได้ติดบ้าง



สภาพผมก่อนย้อม... โดนแสงไฟนีออน

ตรงปลายแห้งเสีย (ขนาดเล็มออกตั้งเยอะแล้วนะเนี่ย) สีผมน้ำตาลช็อกโกแลต



ขณะแกะกล่อง (มือสั่นๆ) ก็ลุ้นไปด้วยว่ามันจะออกมาเหมือนหน้ากล่องไหมนะ
แรงไปก็โดนที่ทำงานว่า

ไม่ติดเลยก็เสียตังฟรีๆ T T อีกแล้ว

อุปกรณ์ในกล่องค่ะ
ประกอบไปด้วย...

1. น้ำยาขวดหมายเลข 1
2. น้ำยาขวดหมายเลข 2
3. ฝาทำโฟม
4. ทรีทเม้นหลังทำสีผม
5. ถุงมือยาง
6. คู่มือทำสีผม และคำเตือน วิธีทดสอบแพ้ที่ผิวหนัง

(เครดิตภาพจากเว็บ : ไม่ได้เซฟชื่อเว็บมา แต่เอามาจากเว็บต่างประเทศค่ะ ขอขอบคุณและขออภัย ณ ที่นี้นะคะ ขอโทษค่า T T)


ตอนไปซื้อที่ร้านจะต้องแถมผ้าคลุมไหล่ด้วย (แบบในรูปเลย) แต่ดันหมด เราก็เลยไม่ได้ของแถม
แต่ไม่ง้อหรอก เพราะเรามีถุงพลาสติกบิ๊กซี 555+ เอามาตัดครึ่งด้านเดียว แล้วเอามาทำเป็นผ้าคลุม อิอิอิอิ (สร้างสรรค์หรืองกหว่า

)

ขั้นตอนในการเปลี่ยนสีผม (เอามาจากคู่มือพอสังเขปจ้า)

"ทำขณะผมแห้งนะจ้ะ"

1. เทน้ำยาขวดเบอร์ 2 ใส่น้ำยาขวดเบอร์ 1

2. ปิดฝาให้สนิท คว่ำหงายขวด "ช้าๆ" 5 ครั้ง พอ ระวังอย่าให้น้ำยาเป็นฟอง เพราะจะทำโฟมยาก

3. เปลี่ยนฝาขวดเป็นฝาสีชมพูทำโฟม

4. ใส่ถุงมือ

(หวีผมไม่ให้พันกัน ใครผมยาว ผมเยอะอาจมีตัวช่วยหรือเทคนิคเป็นของตัวเองก็ได้นะ ทำยังไงก็ได้ให้น้ำยาซึมทั่วเส้นผม)

5. บีบที่กลางขวด จะมีโฟมออกมา ใส่ประมาณอุ้งมือ

6. โปะโฟมกลางศีรษะ โชลมไปเรื่อยๆจากโคนสู่ปลายผม
"อย่าลืม" ไรผม ท้ายทอย หลังหู

7. สางผมไปเรื่อยๆ ให้น้ำยาทั่วศีรษะ ระวัง อย่าให้ผมพันกัน เพราะสีจะติดไม่สม่ำเสมอ "ทำทุกอย่างให้เสร็จภายใน 20 นาที)

8. พักผม ประมาณ 20-30 นาที ตรวจสอบความทั่วถึงของน้ำยา
ถ้าน้ำยาไหลย้อย ให้รีบเช็ดด้วยกระดาษ อย่าถูแรงเพราะอาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบได้จ้า
ใช้มือขยี้ เบาๆ ให้เกิดเป็นฟองโฟมได้เรื่อยๆ (กรณีน้ำยาไหลจากศีรษะ)

9. ล้างผมให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า
เราผมแห้งมากกกก หลังล้างสีผมเราใช้ แพนทีนทรีทเม้นแบบหลอดเล็กๆ มิราเคิล ฟื้นฟูผมภายใน 3 นาที ชโลมหมักไว้ตามเวลานั้นแล้วล้างออก

สีและสภาพผมปัจจุบันหลังทำสีค่ะ...

เสียดายภาพมีแค่นี้ เราถ่ายไว้เยอะ แต่มันไม่ชัดเท่าภาพนี้อีกแล้ว

ผลที่ออกมาตามความเป็นจริงก็คือ
- สีไม่แรงมากอย่างที่คิด (ตอนแรกคิดว่าโครตส้ม) น่าจะทิ้งไว้นานกว่า 30 นาทีเนอะ สีจะได้ติดกว่านี้ แต่หัวคงพังพอดี

- ไปทำงานได้ไม่มีห่วง ไม่ต้องหลบหัวหน้า 555+
- ว่าจะทำซ้ำอีกเดือนหน้า อาจจะเอาสีออกทองมาลง หรือสีเดิมนี่ละ คาดว่าจะสว่างขึ้นกว่านี้
- สภาพของเส้นผมแห้งนะคะ แต่ก็เป็นธรรมดาที่โดนน้ำยาเคมี ก็ต้องบำรุงอีกเยอะเลยค่ะ


 

หวังว่าคงจะช่วยเพื่อนๆตัดสินใจได้บ้างในการทำสีผมหรือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้
มีคำถามอะไรก็ปรึกษากันได้ค่ะ หรือใครมีอะไรแนะนำก็ใส่กระทู้มาเลยนะ
วันหลังมาใหม่... มีต่อเทียบสีผมหลังกับปัจจุบัน
 

ขอบคุณล่วงหน้าค่าาา